ASTVผู้จัดการรายวัน - กระทรวงการท่องเที่ยว หารือเอกชน เตรียมคืนเงินลูกทัวร์ที่จองเดินทางไปญี่ปุ่นช่วงนี้ คาดใช้เวลา 60 วัน จะพยายามคืนให้100% พร้อมแนะทางออกผู้ประกอบการลดผลกระทบ เสนอเดสติเนชั่น จีน-อินเดีย ให้คนไทยที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศได้เที่ยวช่วงสงกรานต์
วานนี้(16มี.ค.54) การประชุมประเมินผลกระทบด้านการท่องเที่ยวต่อสถานการณ์ภัยพิบัติ ที่ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับภาคเอกชนด้านท่องเที่ยว นางธนิฏฐา เศวตศิลา มณีโชติ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานที่ประชุม เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับภาคเอกชนได้ข้อสรุปว่า บริษัทนำเที่ยวจะคืนเงินค่าทัวร์ให้แก่ลูกค้าที่จองซื้อทัวร์เพื่อเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ในช่วงนี้ 100%
แต่ยอมรับว่า อาจมีบางบริษัทต้องขอหักค่าใช้จ่ายราว 5-10% ตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง โดยวงเงินที่จะต้องหักไว้ เพราะเป็นค่าดำเนินการเรื่องการขอวีซ่า และเงินค่ามัดจำโรงแรมที่พัก เป็นต้น
สำหรับบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ยินดีคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบิน สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เม.ย.54 อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ส่วนกรณีคนไทยในญี่ปุ่นที่ต้องการเดินทางกลับก็เปิดโอกาสให้ญาติพี่น้องที่ไทยซื้อตั๋วเครื่องบินให้ผู้ที่อยู่ในญี่ปุ่น เดินทางขึ้นเครื่องกลับมาได้ทันที สำหรับสายการบินอื่นๆ
คาดว่าทิศทางการช่วยเหลือน่าจะเป็นแนวเดียวกัน
กระทรวงฯยินดีให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวคนไทยที่ซื้อทัวร์ไปญี่ปุ่น โดยจะให้คำแนะนำปรึกษาได้ที่สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ หมายเลข 02 219 4029
และเพื่อเป็นการเยียวยาผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่ประชุมจึงแนะนำให้ช่วง 2-3 เดือนนี้ ให้บริษัทนำเที่ยว หาเดสติเนชั่นอื่นๆ มารองรับ หากยังไม่สามารถเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นได้ เช่น จีน อินเดีย
**วอนเห็นใจทัวร์หากต้องหัก5%***
นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า บริษัททัวร์ต้องหักค่าใช้จ่ายไว้ 5-10% เพราะได้จ่ายค่ามัดจำโรงแรมในญี่ปุ่นไปแล้ว แต่ทางโรงแรมไม่คืนเงินให้ ขอให้ลูกค้าเข้าใจและเห็นใจบริษัทนำเที่ยวด้วย ส่วนที่เหลืออื่นๆ ทางบริษัททัวร์ยินดีคืนเงินให้ทั้งหมดตามกฏหมาย หากยกเลิกการเดินทางไม่ถึง 15 วัน ก่อนวันเดินทาง จะไม่ได้เงินคืนเลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องคาดไม่ถึง บริษัททัวร์ก็ต้องการช่วยเหลือลูกค้า สำหรับตั๋วเครื่องบิน กรณีที่ไม่ใช่การบินไทย มีบางสายเท่านั้นที่ยอมคืนเงินให้ แต่บางสายยังตกลงกันไม่ได้ ซึ่งสมาคมจะเร่งเจรจากันต่อไป
ปีนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีชาวญี่ปุ่นมาท่องเที่ยวประเทศไทยโตก้าว กระโดด 1,400,000 คน จากปีก่อนที่เดินทางเข้ามา980,000 คนเป็นอันดับ 2 ในเอเชียรองจากจีน แต่เมื่องเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ คาดว่า หากสามารถทำได้ถึง 1,200,000 คน ก็ถือว่าดีมาก
อย่างไรก็ตาม บริษัททัวร์ ทั้งที่นำคนไทยไปเที่ยวและที่นำคนญี่ปุ่นมาเที่ยวไทย คงได้รับความเสียหาย จากการยกเลิกการเดินทาง โดยเฉพาะบริษัทที่ใช้งบการตลาดโฆษณาประชาสัมพันธ์ ไปก่อนหน้านี้แล้ว คิดเป็นเงินรวม 4-5 ล้านบาท ไม่นับรวมค่าโทรศัพท์ ที่โทรติดต่อประสานงานกัน สิ่งที่บริษัทนำเที่ยวเริ่มแก้ไขเฉพาะหน้าขณะนี้ พยายาม ให้ลูกค้าที่จองทัวร์ไปญี่ปุ่นเปลี่ยนเป็นเดินทางไปประเทศอื่นๆแทนก่อน เช่น เดิมมีแผนเที่ยวไต้หวัน ต่อด้วยฮอกไกโด ก็เสนอเป็นให้เที่ยวไต้หวันเพียงอย่างเดียว หรือเปลี่ยนจากญี่ปุ่นไปเที่ยวประเทศจีนแบบเจาะลึกแทน โดยใช้เวลาเที่ยวนานขึ้นจาก 5 วัน เป็น 8 วัน
กรณีชาวญี่ปุ่นที่จองเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยช่วงนี้ ล่าสุดมียกเลิกแล้วราว 30% ของยอดจอง ส่วนการจองเดินทางล่วงหน้า ยังไม่มีการยกเลิก และผลจากกัมมันตรังสีในญี่ปุ่นรั่วไหล มองได้ 2 ประเด็น คือจะทำให้คนญี่ปุ่นชะลอเดินทางเพราะเป็นห่วงบ้าน แต่ก็อาจมีชาวญี่ปุ่นบางกลุ่มที่ต้องการอพยพไปอยู่ที่อื่นก่อน
ซึ่งไทยเป็นเดสติเนชั่นที่ชาวญี่ปุ่นน่าจะสนใจเพราะมีค่าครองชีพต่ำ ซึ่งไทยคงต้องสื่อสารให้ทางญี่ปุ่นรับรู้ด้วยว่า เราพร้อมต้อนรับคนญี่ปุ่นให้เดินทางมาพักผ่อนที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ชาวญี่ปุ่นจะได้ตัดสินใจเดินทางมา
***คาด60วันได้เงินคืน****
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว หรือ ทีทีเอเอ กล่าวว่า สมาคม จะประสานกับสำนักทะเบียนธุรกิจนำท่องเที่ยวและมัคคุเทศก์ ให้ดูแลผู้ประกอบการทัวร์ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมเพื่อคืนเงินให้แก่ลูกค้า ที่จองทัวร์ไปญี่ปุ่นช่วงนี้ ส่วนสมาคมจะเป็นศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเพิ่มเติม โดยมีกระทรวงการท่องเที่ยวฯอำนวยความสะดวกด้านการติดต่อราชการ อาทิ สถานทูต สายการบินหรือ ทัวร์ เพื่อให้งานออกมามีประสิทธิภาพ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการคืนเงินให้ลูกค้าได้ภายใน 60 วัน ขณะที่ประเมินว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวระหว่างไทยกับญี่ปุ่นจะฟื้นตัวได้ใน 3 เดือนหน้า ส่วนความเสียหายช่วงนี้ถึง พ.ค.54 คาด 3 พันล้านบาท
วานนี้(16มี.ค.54) การประชุมประเมินผลกระทบด้านการท่องเที่ยวต่อสถานการณ์ภัยพิบัติ ที่ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับภาคเอกชนด้านท่องเที่ยว นางธนิฏฐา เศวตศิลา มณีโชติ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานที่ประชุม เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับภาคเอกชนได้ข้อสรุปว่า บริษัทนำเที่ยวจะคืนเงินค่าทัวร์ให้แก่ลูกค้าที่จองซื้อทัวร์เพื่อเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ในช่วงนี้ 100%
แต่ยอมรับว่า อาจมีบางบริษัทต้องขอหักค่าใช้จ่ายราว 5-10% ตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง โดยวงเงินที่จะต้องหักไว้ เพราะเป็นค่าดำเนินการเรื่องการขอวีซ่า และเงินค่ามัดจำโรงแรมที่พัก เป็นต้น
สำหรับบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ยินดีคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบิน สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เม.ย.54 อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ส่วนกรณีคนไทยในญี่ปุ่นที่ต้องการเดินทางกลับก็เปิดโอกาสให้ญาติพี่น้องที่ไทยซื้อตั๋วเครื่องบินให้ผู้ที่อยู่ในญี่ปุ่น เดินทางขึ้นเครื่องกลับมาได้ทันที สำหรับสายการบินอื่นๆ
คาดว่าทิศทางการช่วยเหลือน่าจะเป็นแนวเดียวกัน
กระทรวงฯยินดีให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวคนไทยที่ซื้อทัวร์ไปญี่ปุ่น โดยจะให้คำแนะนำปรึกษาได้ที่สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ หมายเลข 02 219 4029
และเพื่อเป็นการเยียวยาผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่ประชุมจึงแนะนำให้ช่วง 2-3 เดือนนี้ ให้บริษัทนำเที่ยว หาเดสติเนชั่นอื่นๆ มารองรับ หากยังไม่สามารถเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นได้ เช่น จีน อินเดีย
**วอนเห็นใจทัวร์หากต้องหัก5%***
นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า บริษัททัวร์ต้องหักค่าใช้จ่ายไว้ 5-10% เพราะได้จ่ายค่ามัดจำโรงแรมในญี่ปุ่นไปแล้ว แต่ทางโรงแรมไม่คืนเงินให้ ขอให้ลูกค้าเข้าใจและเห็นใจบริษัทนำเที่ยวด้วย ส่วนที่เหลืออื่นๆ ทางบริษัททัวร์ยินดีคืนเงินให้ทั้งหมดตามกฏหมาย หากยกเลิกการเดินทางไม่ถึง 15 วัน ก่อนวันเดินทาง จะไม่ได้เงินคืนเลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องคาดไม่ถึง บริษัททัวร์ก็ต้องการช่วยเหลือลูกค้า สำหรับตั๋วเครื่องบิน กรณีที่ไม่ใช่การบินไทย มีบางสายเท่านั้นที่ยอมคืนเงินให้ แต่บางสายยังตกลงกันไม่ได้ ซึ่งสมาคมจะเร่งเจรจากันต่อไป
ปีนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีชาวญี่ปุ่นมาท่องเที่ยวประเทศไทยโตก้าว กระโดด 1,400,000 คน จากปีก่อนที่เดินทางเข้ามา980,000 คนเป็นอันดับ 2 ในเอเชียรองจากจีน แต่เมื่องเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ คาดว่า หากสามารถทำได้ถึง 1,200,000 คน ก็ถือว่าดีมาก
อย่างไรก็ตาม บริษัททัวร์ ทั้งที่นำคนไทยไปเที่ยวและที่นำคนญี่ปุ่นมาเที่ยวไทย คงได้รับความเสียหาย จากการยกเลิกการเดินทาง โดยเฉพาะบริษัทที่ใช้งบการตลาดโฆษณาประชาสัมพันธ์ ไปก่อนหน้านี้แล้ว คิดเป็นเงินรวม 4-5 ล้านบาท ไม่นับรวมค่าโทรศัพท์ ที่โทรติดต่อประสานงานกัน สิ่งที่บริษัทนำเที่ยวเริ่มแก้ไขเฉพาะหน้าขณะนี้ พยายาม ให้ลูกค้าที่จองทัวร์ไปญี่ปุ่นเปลี่ยนเป็นเดินทางไปประเทศอื่นๆแทนก่อน เช่น เดิมมีแผนเที่ยวไต้หวัน ต่อด้วยฮอกไกโด ก็เสนอเป็นให้เที่ยวไต้หวันเพียงอย่างเดียว หรือเปลี่ยนจากญี่ปุ่นไปเที่ยวประเทศจีนแบบเจาะลึกแทน โดยใช้เวลาเที่ยวนานขึ้นจาก 5 วัน เป็น 8 วัน
กรณีชาวญี่ปุ่นที่จองเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยช่วงนี้ ล่าสุดมียกเลิกแล้วราว 30% ของยอดจอง ส่วนการจองเดินทางล่วงหน้า ยังไม่มีการยกเลิก และผลจากกัมมันตรังสีในญี่ปุ่นรั่วไหล มองได้ 2 ประเด็น คือจะทำให้คนญี่ปุ่นชะลอเดินทางเพราะเป็นห่วงบ้าน แต่ก็อาจมีชาวญี่ปุ่นบางกลุ่มที่ต้องการอพยพไปอยู่ที่อื่นก่อน
ซึ่งไทยเป็นเดสติเนชั่นที่ชาวญี่ปุ่นน่าจะสนใจเพราะมีค่าครองชีพต่ำ ซึ่งไทยคงต้องสื่อสารให้ทางญี่ปุ่นรับรู้ด้วยว่า เราพร้อมต้อนรับคนญี่ปุ่นให้เดินทางมาพักผ่อนที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ชาวญี่ปุ่นจะได้ตัดสินใจเดินทางมา
***คาด60วันได้เงินคืน****
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว หรือ ทีทีเอเอ กล่าวว่า สมาคม จะประสานกับสำนักทะเบียนธุรกิจนำท่องเที่ยวและมัคคุเทศก์ ให้ดูแลผู้ประกอบการทัวร์ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมเพื่อคืนเงินให้แก่ลูกค้า ที่จองทัวร์ไปญี่ปุ่นช่วงนี้ ส่วนสมาคมจะเป็นศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเพิ่มเติม โดยมีกระทรวงการท่องเที่ยวฯอำนวยความสะดวกด้านการติดต่อราชการ อาทิ สถานทูต สายการบินหรือ ทัวร์ เพื่อให้งานออกมามีประสิทธิภาพ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการคืนเงินให้ลูกค้าได้ภายใน 60 วัน ขณะที่ประเมินว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวระหว่างไทยกับญี่ปุ่นจะฟื้นตัวได้ใน 3 เดือนหน้า ส่วนความเสียหายช่วงนี้ถึง พ.ค.54 คาด 3 พันล้านบาท