นายกทีทีเอเอ ระบุ ทัวร์ไทยไปญี่ปุ่นยกเลิก 100% ยาวถึง พ.ค.ปีนี้ สูญ 3 พันล้านบาท เหตุกลัวเรื่องกัมมันตรังสีรั่ว ยันวิ่งเต้นถึงที่สุดขอคืนเงินให้ลูกทัวร์ ประเมิน 3 เดือนตลาดอาจฟื้นตัวได้ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลญี่ปุ่นจะแก้ปัญหาได้เร็วแค่ไหน ด้าน ททท.สั่งชะลอโฆษณา เตรียมใช้เวที TTF มิ.ย.นี้โหมตลาดอีกครั้ง ททท.สั่งสำนักงานในญี่ปุ่นชะลอแผนโฆษณาประชาสัมพันธ์ และ แฟมทริป ยอมรับทำไปช่วงนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะผลจากภัยพิบัตกระทบด้านจิตวิทยา เล็งใช้เวทีจัดงาน เทศกาลเที่ยวเมืองไทย มิ.ย.นี้ โหมทำตลาดอีกครั้ง ชูขายอีโคทัวริสซึม ด้าน นายกทีทีเอเอ ยอมรับกรุ๊ปทัวร์ไปญี่ปุ่นยกเลิก 100% แล้ว หวั่นเรื่องสารกัมมันตรังสีรั่ว
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวว่า กัมมันตรังสีที่แพร่ออกจากโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ หลังเกิดการระเบิดบริเวณอาคารเตาปฏิกรณ์ ทำให้คาดว่ากรุ๊ปทัวร์ที่เดินทางไปญี่ปุ่น จะมียกเลิกทั้งหมด 100% ในช่วง มี.ค.-พ.ค.54 คิดเป็นจำนวนราว 100,000 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท เนื่องจากขณะนี้ประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างมีความกลัวถึงผลกระทบของการรั่วไหลของกัมมันตรังสี
ความคืบหน้าการคืนเงินแก่นักท่องเที่ยว ล่าสุด สมาชิกของสมาคมกำลังรอคำตอบจากสถานทูตและสายการบินที่จองไว้ เพื่อขอ refund ค่าวีซ่า และ ตั๋วเครื่องบิน คืนให้ลูกค้า ส่วนการบินไทยได้ตกลงคืนเงินให้ลูกค้าแล้วคิดเป็น 50% ของไฟลต์ทั้งหมดที่เดินทาง ส่วนเครื่องบินเช่าเหมาลำ อยู่ระหว่างการเจรจา มั่นใจว่า ทุกฝ่ายจะให้ความร่วมมือคืนเงินให้ลูกค้า โดยสมาคมจะขอทำหน้าที่เป็นคนกลางในการประสานการคืนเงินครั้งนี้ให้ได้ 100% นอกจากนั้นจะประสานหน่วยงานรัฐ ช่วยตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวด้วยว่า หากมีการคืนเงินแล้วได้ดำเนินการส่งต่อให้แก่ลูกค้าหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ต่อปีจะมีคนไทยเดินทางไปญี่ปุ่นราว 3 แสนคน ปีนี้คาดว่าเติบโต 30% ซึ่งตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว ส่วนท่องเที่ยวจะฟื้นตัวเมื่อใดขึ้นอยู่กับ การแก้ปัญหาเรื่องกัมมันภาพรังสีก่อน เบื้องต้นคาดธุรกิจท่องเที่ยวต้องใช้เวลาฟื้นตัว อย่างน้อย 3 เดือน สำหรับบริษัทนำเที่ยวที่จัดทริปทัวร์ไปญี่ปุ่นของไทยมีอยู่ราว 100 บริษัท ซึ่ง 70% เป็นสมาชิกของสมาคม
ททท.ชะลอแผนโฆษณา -ยกเลิกแฟมทริป
ทางด้าน นางจำนงค์ จุณณะปิยะ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในส่วนของ ททท.เบื้องต้นปรับแผนการทำงาน สั่งชะลอการทำตลาด ที่เตรียมจะทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ในตลาดญี่ปุ่นช่วงนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด พร้อมกับยกเลิกแฟมทริป ที่เชิญบริษัทนำเที่ยวจากเมืองโตเกียวและโอซากา รวม 10 บริษัท ซึ่งกำหนดเดินทางมาถึงวันนี้ (16 มี.ค.) เพราะเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่น และมีผลด้านจิตวิทยาต่อชาวญี่ปุ่น ทำให้ระมัดระวังการใช้จ่าย และคงไม่มีอารมณ์มาคิดเรื่องเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งคงต้องรอให้ทุกอย่างคลี่คลาย ค่อยมาปรับกลยุทธ์การตลาดกันอีกครั้ง
เบื้องต้น ททท.จะใช้เวทีการจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย (TTF2011) ซึ่งกำหนดจัดขึ้น 9-12 มิ.ย.54 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยจะมีโครงการ Workshop on Japanese Market เชิญผู้ประกอบการทัวร์จากประเทศญี่ปุ่น พร้อมสื่อมวลชน มาร่วมชมงาน และเดินทางทัศนศึกษาที่ประทเศไทย และเปิดเวทีให้พบปะผู้ประกอบการไทย 50 ราย เพื่อเจรจาธุรกิจ โดยแผนงานที่กล่าวมาเป็นแผนที่ ททท.กำหนดไว้ตั้งแต่การจัดทำงบประมาณปี 2554 แต่เมื่อญี่ปุ่นเกิดภัยพิบัติเช่นนี้ ก็จะใช้เวทีของงาน TTF2011 ให้เป็นประโยชน์ทางด้านการตลาดให้มากขึ้น โดยมีแผนนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เป็นกรีนทัวริสซึม
แหล่งข่าวจากวงการท่องเที่ยว เผยว่า ททท.อาจต้องกระตุ้นนักท่องเที่ยวตลาดจีนเพิ่มขึ้น เพื่อมาชดเชยตลาดญี่ปุ่น ซึ่งปี 2553 ตลาดญี่ปุ่นติดลบ 1.19% จากเหตุการเมืองของประเทศ แต่ 2 เดือนแรกปีนี้ ตลาดเริ่มกลับเป็นบวก 2% และจากเหตุแผ่นดินไหวก็คงทำให้ตลาดญี่ปุ่นพลิกผันไปติดลบมากกว่าปีก่อนก็เป็นได้
ทัวร์อินบาวนต์สูญ 1.5 พัน ลบ.
นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานสมาคมส่งเสริมท่องเที่ยว ไทย-ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวอินบาวนด์ ที่เดินทางจากประเทศญี่ปุ่นมาประเทศไทย ขณะนี้ เริ่มมียอดทยอยยกเลิกแล้วถึงเดือน พ.ค.ซึ่งเป็นโกลเด้นวีกของตลาดญี่ปุ่น รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นรวม 1.5 พันล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 20 ล้านบาท ขณะที่เที่ยวบินเช่าเหมาลำจากเมืองเซนได ซึ่งมีจำนวน 2 ลำๆ ละ 250 คน ล่าสุดแจ้งยกเลิกการเดินทางมาแล้ว 1 ลำ
ไทยมีลุ้นรับชาวญี่ปุ่นอพยพ
อย่างไรก็ตาม ผลจากการระเบิของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสี ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ชาวญี่ปุ่นที่พอมีกำลังทรัพย์ อาจคิดอพยพลี้ภัยออกต่างประเทศ ซึ่ง มี 3 ประเทศที่ชาวญี่ปุ่นคิดที่จะเดินทางมาพักอาศัย คือ ไทย เกาหลี และ ไต้หวัน ซึ่งไทยอาจมีโอกาสสูงสุดที่ชาวญี่ปุ่นจะเลือก เพราะมีค่าครองชีพต่ำสุดเมื่องเทียบกับอีก 2 ประเทศ สามารถอยู่ได้เป็นเดือนเมื่อเทียบค่าใช้จ่ายที่เท่ากัน
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวว่า กัมมันตรังสีที่แพร่ออกจากโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ หลังเกิดการระเบิดบริเวณอาคารเตาปฏิกรณ์ ทำให้คาดว่ากรุ๊ปทัวร์ที่เดินทางไปญี่ปุ่น จะมียกเลิกทั้งหมด 100% ในช่วง มี.ค.-พ.ค.54 คิดเป็นจำนวนราว 100,000 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท เนื่องจากขณะนี้ประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างมีความกลัวถึงผลกระทบของการรั่วไหลของกัมมันตรังสี
ความคืบหน้าการคืนเงินแก่นักท่องเที่ยว ล่าสุด สมาชิกของสมาคมกำลังรอคำตอบจากสถานทูตและสายการบินที่จองไว้ เพื่อขอ refund ค่าวีซ่า และ ตั๋วเครื่องบิน คืนให้ลูกค้า ส่วนการบินไทยได้ตกลงคืนเงินให้ลูกค้าแล้วคิดเป็น 50% ของไฟลต์ทั้งหมดที่เดินทาง ส่วนเครื่องบินเช่าเหมาลำ อยู่ระหว่างการเจรจา มั่นใจว่า ทุกฝ่ายจะให้ความร่วมมือคืนเงินให้ลูกค้า โดยสมาคมจะขอทำหน้าที่เป็นคนกลางในการประสานการคืนเงินครั้งนี้ให้ได้ 100% นอกจากนั้นจะประสานหน่วยงานรัฐ ช่วยตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวด้วยว่า หากมีการคืนเงินแล้วได้ดำเนินการส่งต่อให้แก่ลูกค้าหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ต่อปีจะมีคนไทยเดินทางไปญี่ปุ่นราว 3 แสนคน ปีนี้คาดว่าเติบโต 30% ซึ่งตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว ส่วนท่องเที่ยวจะฟื้นตัวเมื่อใดขึ้นอยู่กับ การแก้ปัญหาเรื่องกัมมันภาพรังสีก่อน เบื้องต้นคาดธุรกิจท่องเที่ยวต้องใช้เวลาฟื้นตัว อย่างน้อย 3 เดือน สำหรับบริษัทนำเที่ยวที่จัดทริปทัวร์ไปญี่ปุ่นของไทยมีอยู่ราว 100 บริษัท ซึ่ง 70% เป็นสมาชิกของสมาคม
ททท.ชะลอแผนโฆษณา -ยกเลิกแฟมทริป
ทางด้าน นางจำนงค์ จุณณะปิยะ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในส่วนของ ททท.เบื้องต้นปรับแผนการทำงาน สั่งชะลอการทำตลาด ที่เตรียมจะทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ในตลาดญี่ปุ่นช่วงนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด พร้อมกับยกเลิกแฟมทริป ที่เชิญบริษัทนำเที่ยวจากเมืองโตเกียวและโอซากา รวม 10 บริษัท ซึ่งกำหนดเดินทางมาถึงวันนี้ (16 มี.ค.) เพราะเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่น และมีผลด้านจิตวิทยาต่อชาวญี่ปุ่น ทำให้ระมัดระวังการใช้จ่าย และคงไม่มีอารมณ์มาคิดเรื่องเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งคงต้องรอให้ทุกอย่างคลี่คลาย ค่อยมาปรับกลยุทธ์การตลาดกันอีกครั้ง
เบื้องต้น ททท.จะใช้เวทีการจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย (TTF2011) ซึ่งกำหนดจัดขึ้น 9-12 มิ.ย.54 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยจะมีโครงการ Workshop on Japanese Market เชิญผู้ประกอบการทัวร์จากประเทศญี่ปุ่น พร้อมสื่อมวลชน มาร่วมชมงาน และเดินทางทัศนศึกษาที่ประทเศไทย และเปิดเวทีให้พบปะผู้ประกอบการไทย 50 ราย เพื่อเจรจาธุรกิจ โดยแผนงานที่กล่าวมาเป็นแผนที่ ททท.กำหนดไว้ตั้งแต่การจัดทำงบประมาณปี 2554 แต่เมื่อญี่ปุ่นเกิดภัยพิบัติเช่นนี้ ก็จะใช้เวทีของงาน TTF2011 ให้เป็นประโยชน์ทางด้านการตลาดให้มากขึ้น โดยมีแผนนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เป็นกรีนทัวริสซึม
แหล่งข่าวจากวงการท่องเที่ยว เผยว่า ททท.อาจต้องกระตุ้นนักท่องเที่ยวตลาดจีนเพิ่มขึ้น เพื่อมาชดเชยตลาดญี่ปุ่น ซึ่งปี 2553 ตลาดญี่ปุ่นติดลบ 1.19% จากเหตุการเมืองของประเทศ แต่ 2 เดือนแรกปีนี้ ตลาดเริ่มกลับเป็นบวก 2% และจากเหตุแผ่นดินไหวก็คงทำให้ตลาดญี่ปุ่นพลิกผันไปติดลบมากกว่าปีก่อนก็เป็นได้
ทัวร์อินบาวนต์สูญ 1.5 พัน ลบ.
นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานสมาคมส่งเสริมท่องเที่ยว ไทย-ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวอินบาวนด์ ที่เดินทางจากประเทศญี่ปุ่นมาประเทศไทย ขณะนี้ เริ่มมียอดทยอยยกเลิกแล้วถึงเดือน พ.ค.ซึ่งเป็นโกลเด้นวีกของตลาดญี่ปุ่น รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นรวม 1.5 พันล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 20 ล้านบาท ขณะที่เที่ยวบินเช่าเหมาลำจากเมืองเซนได ซึ่งมีจำนวน 2 ลำๆ ละ 250 คน ล่าสุดแจ้งยกเลิกการเดินทางมาแล้ว 1 ลำ
ไทยมีลุ้นรับชาวญี่ปุ่นอพยพ
อย่างไรก็ตาม ผลจากการระเบิของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสี ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ชาวญี่ปุ่นที่พอมีกำลังทรัพย์ อาจคิดอพยพลี้ภัยออกต่างประเทศ ซึ่ง มี 3 ประเทศที่ชาวญี่ปุ่นคิดที่จะเดินทางมาพักอาศัย คือ ไทย เกาหลี และ ไต้หวัน ซึ่งไทยอาจมีโอกาสสูงสุดที่ชาวญี่ปุ่นจะเลือก เพราะมีค่าครองชีพต่ำสุดเมื่องเทียบกับอีก 2 ประเทศ สามารถอยู่ได้เป็นเดือนเมื่อเทียบค่าใช้จ่ายที่เท่ากัน
