xs
xsm
sm
md
lg

“ท่าฉลอม”ธุรกิจแปรรูปสัตว์น้ำแสนล้าน สู่เมืองน่าท่องเที่ยวแห่งสมุทรสาคร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร นับเป็นชุมชนเมืองขนาดใหญ่ ที่คราคร่ำไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ สร้างรายได้แก่ประเทศไทยปีละหลายแสนล้านบาท ตลอดจนมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเลือกซื้อสินค้ามากกว่า 3 แสนคนต่อปี

ตำบลท่าฉลอมนั้นนับเป็นตำบลใหญ่และเป็นสุขาภิบาลแห่งแรกของประเทศไทย มีตลาดและกิจการต่อเรือเรียงรายอยู่บนฝั่งแม่น้ำท่าจีน ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้จังหวัดสมุทรสาครเป็นเมืองประมงครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และยังมีความหลากหลายของอุตสาหกรรมขนาดย่อม

ท่าฉลอมนั้นช่วยส่งเสริมการเป็นครัวของโลกในด้านอาหารทะเลและการเกษตร และนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ของจังหวัดสมุทรสาครที่กำลังเร่งผลักดันกันอยู่ในขณะนี้ หากจะผนวก 2 ด้านนี้เข้าด้วยกันแล้ว ท่าฉลอมจะเป็นเมืองท่องเที่ยวและการค้าที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

ในด้านความโดดเด่นของการเป็นเมืองอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำและสินค้าประมงนั้น ท่าฉลอมนับเป็นแหล่งธุรกิจการประมงที่สำคัญของประเทศ การทำประมงมีทั้งประมงน้ำจืดและน้ำเค็ม นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์รวมอุตสาหกรรมและธุรกิจหลายประเภทที่เกี่ยวเนื่องกับการประมง เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งมีตลาดจำหน่ายทั้งภายในและต่างประเทศ จึงมีคำขวัญของจังหวัดว่า เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์

ในด้านการท่องเที่ยวนั้นมีจุดเด่นเพียงอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครไม่กี่กิโลเมตร มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว และอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ “ สมุทรสาคร ” เดิมชื่อ “ สาครบุรี ” ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำท่าจีน มีชายฝั่งทะเลยาว 42 กิโลเมตร ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง และถือเป็นเมืองเก่าแก่ และมีประวัติศาสตร์ด้านการเมืองการปกครอง โดย “สุขาภิบาลท่าฉลอม” ถือเป็นสุขาภิบาล "หัวเมือง" แห่งแรกของไทย หลังจากมีการประกาศใช้ “พระราชกำหนดสุขาภิบาลกรุงเทพฯ ร.ศ. 116” ขึ้น และเริ่มทำการทดลองเพื่อศึกษาขึ้นในกรุงเทพฯ โดยสมัยนั้นชาวท่าฉลอม รวบรวมเงินจำนวนหนึ่งมาทำถนนตลาดท่าฉลอมจนแล้วเสร็จ กลายเป็น“ ถนนถวาย ” ที่ปัจจุบันเป็นแหล่งรวมประวัติศาสตร์เมืองท่าฉลอม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความนิยม

นอกจากนี้ “สมุทรสาคร” ยังมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) วัดหลักสี่ราษฏร์สโมสร วัดกลางอ่างแก้ว วัดใหญ่จอมปราสาท ศาลพันท้ายนรสิงห์ คลองโคกขาม ตลาดสดมหาชัย หมู่บ้านเบญจรงค์ ดอนไก่ดี สวนผลไม้บ้านแพ้ว สวนกล้วยไม้กระทุ่มแบน หิ่งห้อยคลองสุนัขหอน ฯลฯ

โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวของท่าฉลอมในปีนี้ นายขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ จังหวัดสมุทรสาคร , เทศบาลนครสมุทรสาคร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ จัดงาน “วันท้องถิ่นไทย” ประจำปี 2554 ขึ้น ภายใต้แนวคิด ย้อนยุค ร.ศ. 124 ในระหว่างวันที่ 17-20 มีนาคม 2554 ณ วัดสุทธิวาตวราราม(วัดช่องลม) และ วัดแหลมสุวรรณาราม ถนนถวาย เพื่อย้อนรำลึกถึงการจัดตั้งสุขาภิบาลแห่งแรกขึ้นที่ตำบลท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร โดยมอบอำนาจให้ท้องถิ่นดูแลจัดการบริหารกันเอง จนถึงในปัจจุบัน ที่ก้าวเข้าสู่ปีที่ 106 ของสุขาภิบาลท่าฉลอม และคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบันได้เห็นความสำคัญดังกล่าวได้มีมติกำหนดให้วันที่ 18 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันท้องถิ่นไทย

นายกุลวัชร หงษ์คู นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร กล่าวว่า ภายในงานวันท้องถิ่นไทย ย้อนยุค ร.ศ.124 จะได้สัมผัสกับบรรยากาศในสมัย ร.ศ. 124 ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 บรรยากาศในงานจึงอบอวลไปด้วยความเป็นไทย กับประเพณีโบราณที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน และการตกแต่งประดับประดา ด้วยแสง สี เสียง สื่อมัลติมีเดีย (Light & Sound) เรื่อง “ร.ศ.124 สู่ 106ปี สุขาภิบาลท่าฉลอง กำเนิดวันท้องถิ่นไทย” , การเลิกทาส , การแสดงละครรำ ,การละเล่นพื้นบ้าน , การวิ่งกระสอบ , การเล่นชักเย่อ , การแสดงมวยตับจาก การประกวดธิดาท้องถิ่นไทย และการแสดงจากเหล่าศิลปินระดับแนวหน้าของประเทศ การออกร้านจำหน่ายสินค้าโบราณ อาหารและเครื่องดื่มโบราณ ที่หารับประทานได้ยากในสมัยนี้ และการจำหน่ายของเล่น ของที่ระลึก ฯลฯ

ทั้งการประมงและการท่องเที่ยวจึงกลายเป็นเอกลักษณ์ของท่าฉลอม เมืองท่าสำคัญในการสัญจรไปมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ท่าฉลอมยังได้ชื่อว่า เป็นตำบลที่มีการเติบโตสูงสุด อีกทั้งยังรวมวิถีชีวิตวัฒนธรรมอันดีงามของคนไทยไว้เช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ความคับคั่งหนาแน่นของผู้คน ทำให้บรรยากาศริมฝั่งตลาดท่าฉลอมเต็มไปด้วยความสนุกสนาน กับย่านการค้าที่มีทำเลอันอุดมไปด้วย อาชีพมากหลาย ทั้ง การทำประมง ดองปลา ทำกะปิ และน้ำปลา ทำให้ท่าฉลอมเป็นเมืองที่มีความสมบูรณ์พรั่งพร้อม ทั้งระบบสาธารณูปโภค วิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี ที่สืบทอดต่อกันมา จนถึงทุกวันนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น