หลังจากที่บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายประจำปีของกระทรวงมหาดไทยในระดับรองปลัดกระทรวง อธิบดี และผู้ว่าราชการเลื่อนมาหลายรอบกว่าจะคลอดออกมาในวันอังคาร์ที่ 15 พ.ย.นี้ก็เกินเวลาปกติมาถึง 4 เดือน
เดิมทีมหาดไทยโดยยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้เตรียมทำโผเอาไว้รอชง ครม.ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม แต่ก็เลื่อนมาหลายรอบจากสิงหาคมมากันยายน ข้ามมาตุลาคม และก็มาเดือนพฤศจิกายน สาเหตุโรคเลื่อนก็คือ ปัญหาอุทกภัยหลายพื้นที่
และความไม่ลงตัวในการทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้าย เพราะฝ่ายการเมืองทั้งในกระทรวงมหาดไทย และในพรรคเพื่อไทย ต่างผลักดันคนของตัวเองเข้ารับตำแหน่ง จนทำให้บัญชีรายชื่อแต่งตั้งปีนี้ล่าช้ากว่าปกติ
แต่มาถึงกลางเดือนพฤศจิกายน จะเลื่อนออกไปอีกไม่ได้แล้ว เหตุผลสำคัญข้อหนึ่งนอกจากหลายพื้นที่น้ำเริ่มลดและเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เพราะที่ผ่านมาหลายจังหวัดอยู่ในสภาพสุญญกาศ คือผู้ว่าราชการหลายจังหวัดเกษียณอายุราชการ ไม่มีพ่อเมืองตัวจริง ต้องให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดรักษาการมาตั้งแต่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้การบริหารงานหลายอย่างในจังหวัดไม่คล่องตัว โดยเฉพาะกำลังจะใกล้เข้าสู่วันมหามงคล 5 ธันวาคม 2554 การแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อให้ไปเตรียมจัดงาน วันพ่อ 5 ธันวาคมในแต่ละจังหวัด จึงต้องทำตั้งแต่ตอนนี้ ผนวกกับการต่อรองจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายหลายตำแหน่งลงตัวหมดแล้ว
ในการประชุม ครม.วันที่อังคารที่ 15 พ.ย. บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยในระดับ 10 ทั้งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย-อธิบดี-ผู้ว่าราชการจังหวัด-ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ถูก มท.1 ยงยุทธ ชงบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายรวม 34 ตำแหน่งให้ครม.พิจารณาอนุมัติ
ผลการแต่งตั้งโยกย้ายก็เป็นไปตามคาดการคือสายเพื่อไทย-เสื้อแดง พากันขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญทั้งอธิบดีและผู้ว่าราชการจังหวัดใหญ่รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกันก็ส่งคนของตัวเองที่ไว้ใจได้ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งในภาคกลาง-ภาคใต้ เพื่อหวังให้เข้าไปสร้างฐานเสียงให้พรรคเพื่อไทยในอนาคต
ส่วนพวกสิงห์เสื้อน้ำเงินที่เป็นเด็กของเนวิน-ศักดิ์สยาม ชิดชอบ และพรรคภูมิใจไทย ที่เคยได้ดิบได้ดีสมัยภูมิใจไทยคุมมหาดไทยก็หงอยกันหมด โดนเด้งเกือบทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็น นายขวัญชัย วงศ์นิติกร จากอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายธานี สามารถกิจ จากผวจ.บุรีรัมย์ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายระพี ผ่องบุพกิจ จาก ผวจ.นครราชสีมา เป็นผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู รายนี้ถือว่าพลิกโผไม่น้อย เพราะเดิมทีข่าวว่าต้องเข้ากรุผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นาย เสริม ไชยณรงค์ ผวจ.สุรินทร์ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เชิดศักดิ์ ชูศรี ผวจ.สมุทรปราการ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย สุรชัย ขันอาสา จากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ ลำพูน เป็นต้น
ส่วนพวกที่เคยอยู่ในกรุผู้ตรวจมหาดไทยสมัยภูมิใจไทยคุมมหาดไทยก็ได้ออกจากรุหลายคน ตามแรงผลักดันของยงยุทธและนักการเมืองในพรรคเพื่อไทย เช่น วีระยุทธ เอี่อมอำภา ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย น้องรักยงยุทธสิงห์ดำ รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้ดีในตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมเกรดเอที่มีบทบาททางการเมืองสูงรวมถึงการคุมงบประมาณของกรมส่งเสริมฯจำนวนมาก นางวรรณิดา บุญประคอง จากกรุผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยเป็น ผวจ.สมุทรปราการ เป็นต้น
อย่างภาคอีสาน ก็มีการโยกย้ายปรับเปลี่ยนกันสิบกว่าจังหวัด เช่น อุดรธานี-อำนาเจริญ-บุรีรัมย์-นครราชสีมา-นครพนม-กาฬสินธุ์-ศรีสะเกษ-เลย-สุรินทร์ ที่ก็ล้วนเป็นพื้นที่ของภูมิใจไทยเกือบทั้งสิ้น
ส่วนภาคเหนือ พื้นที่หลักของพรรคเพื่อไทยพบว่าไม่มีอะไรหวือหวา มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เช่นน่าน เชียงราย พะเยา แพร่ เป็นต้น โดยที่น่าสนใจมากสุดคือการเด้งนายสมชัย หทะยะตันติ จาก ผวจ.เชียงรายเข้ากรุผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เหตุเพราะเชียงรายเป็นพื้นที่ของ ยงยุทธ ติยะไพรัช และ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งที่ผ่านมาไม่แฮปปี้กับนายสมชัยที่เติบโตในยุคภูมิใจไทย
ขณะที่ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผวจ.เชียงใหม่ได้นั่งที่เดิม เพราะใช้กลยุทธ์ “อ่อนสยบแข็ง” ซึ่งฝ่ายการเมืองในพรรคเพื่อไทยต้องการสร้างความปรองดองและที่ผ่านมามล.ปนัดดาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ ส.ส.เชียงใหม่และแกนนำคนเสื้อแดงในเชียงใหม่
ขณะที่ วิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ยังได้อยู่ต่อ หลังก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวเก้าอี้คลอน แต่พอเกิดเหตุหลายเรื่องเกี่ยวกับสิ่งของบริจาคใน ศปภ.รวมถึงการจัดซื้อถุงยังชีพของ ศปภ.และกรมป้องกันฯ ก็ทำให้วิบูลย์เก้าอี้ยังเหนียว เพราะรัฐบาลไม่ต้องการเปลี่ยนตัวอธิบดีกรมป้องกันฯ ในช่วงนี้แน่นอนเนื่องจากจะถูกมองว่าเป็นการเชือดแพะและทำให้การทำงานแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ต่อเนื่อง ส่งผลให้วิบูลย์เลยได้นั่งเก้าอี้อธิบดีกรมป้องกันฯต่อไป
อีกหนึ่งตำแหน่งที่น่าสนใจ คือ การที่มหาดไทยเสนอ ครม.ต่ออายุ ผู้ว่าฯสุพรรณบุรีให้กับ สมศักดิ์ ภูรีศรีศักดิ์ อีกหนึ่งปี คือให้นับตั้งแต่ 14 ธ.ค. 2554 ถึง 30 ก.ย. 2555 ซึ่งนายสมศักดิ์จะเกษียณอายุราชการพอดี
จนมีการแซวกันเล็กๆ ในห้องประชุม ครม.จาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ครม.แทนยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า
“ท่านบรรหาร ศิลปอาชา ไม่คิดจะใช้คนอื่นทำงานบ้างเลยหรือ”
ทำให้นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะน้องชายนายบรรหารกล่าวชี้แจงทันทีว่า
“จ.สุพรรณบุรีเป็นเมืองคนดี จึงต้องสนับสนุนและรักษาคนดีให้อยู่จังหวัดนี้ต่อไป”
นี่แหละเขาเรียกบรรหาร รักใครรักจริงไม่ทิ้งกัน ส่วนเด็กเนวิน ยามนี้ก็ต้องทำใจ อำนาจเปลี่ยน เก้าอี้ก็เปลี่ยน