นางจรวยพร ธรณินทร์ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) แถลงกรณีนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค. หลังจากถูกย้ายจากตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ว่าเป็นการถูกย้ายโดยมิชอบ เนื่องจากนายมานิตย์ วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทย ขณะนั้น และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่ปรึกษารมว.มหาดไทยไม่พึงพอใจในการปฏิบัติหน้าที่ของนายวงศ์ศักดิ์
ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินการย้ายเป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเป็นการใช้ดุลยพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมายตาม โดยเหตุผลที่แท้จริงในการย้ายเป็นเพราะ นายวงศ์ศักดิ์ ไม่ยอมดำเนินการตามความต้องการของนายมานิต ในโครงการจัดระบบให้บริการประชาชนด้านการทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่ รวมถึงปัญหาจากการทุจริตการสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ที่คณะกรรมการป.ป.ช.กำลังพิจารณา และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) สั่งการด้วยวาจาโทรศัพท์ให้สนับสนุนอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด จำนวน3,000กระบอก พร้อมกระสุนส่งมอบให้ศอฉ.
“การที่นายวงศ์ศักดิ์ ดำเนินการในเรื่องการจัดหาคอมพิวเตอร์ฯ และเรื่องบัตรประชาชนนั้นเป็นการทำงานเพื่อประโยชน์ของทางราชารมิใช่เพื่อกลุ่มบุคคลใด คำสั่งย้ายเป็นการกระทำที่ขัดต่อมาตรา 42 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ดังนั้นทางก.พ.ค.จึงให้ ยกเลิกคำสั่งการแต่งตั้งนายวงศ์ศักดิ์เป็นผู้ตรวจการกระทรวง และให้ป็นอธิบดีกรมการปกครองเหมือนเดิม ” นางจรวยพร กล่าว
ทั้งนี้จะแจ้งและส่งคำวินิจฉัยนี้ไปให้ปลัดมหาดไทย รมว.มหาดไทย และนายกรัฐมนตรีเพื่อทราบ โดยขอย้ำว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งดังกล่าวห้ามซื้อเวลา เพราะคำสั่งของ ก.พ.ค. ชัดเจนว่านายวงศ์ศักดิ์ ยังเป็นอธิบดีกรมการปกครอง หากมีการซื้อเวลา นายวงศ์ศักด์ สามารถฟ้องต่อ ป.ป.ช.ว่าด้วยมาตรา 157 เรื่องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้เลย
ด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ปล่อยให้เป็นการพิจารณาของปลัดกระทรวงมหาดไทย ตนในฐานะรมว.มหาดไทย มีอำนาจในการสั่งย้ายปลัดกระทรวงเท่านั้น และเรื่องดังกล่าว หากพรรคฝ่ายค้านจะนำไปเป็นประเด็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ไม่มีปัญหา
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นใบเสร็จชี้ให้เห็นถึงการโยกย้ายว่าไม่เป็นธรรม ซึ่งส่งผลต่อขวัญและกำลังใจข้าราชการ และเรื่องนี้เป็นการตบหน้ารัฐบาลและรมว.มหาดไทย
ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินการย้ายเป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเป็นการใช้ดุลยพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมายตาม โดยเหตุผลที่แท้จริงในการย้ายเป็นเพราะ นายวงศ์ศักดิ์ ไม่ยอมดำเนินการตามความต้องการของนายมานิต ในโครงการจัดระบบให้บริการประชาชนด้านการทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่ รวมถึงปัญหาจากการทุจริตการสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ที่คณะกรรมการป.ป.ช.กำลังพิจารณา และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) สั่งการด้วยวาจาโทรศัพท์ให้สนับสนุนอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด จำนวน3,000กระบอก พร้อมกระสุนส่งมอบให้ศอฉ.
“การที่นายวงศ์ศักดิ์ ดำเนินการในเรื่องการจัดหาคอมพิวเตอร์ฯ และเรื่องบัตรประชาชนนั้นเป็นการทำงานเพื่อประโยชน์ของทางราชารมิใช่เพื่อกลุ่มบุคคลใด คำสั่งย้ายเป็นการกระทำที่ขัดต่อมาตรา 42 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ดังนั้นทางก.พ.ค.จึงให้ ยกเลิกคำสั่งการแต่งตั้งนายวงศ์ศักดิ์เป็นผู้ตรวจการกระทรวง และให้ป็นอธิบดีกรมการปกครองเหมือนเดิม ” นางจรวยพร กล่าว
ทั้งนี้จะแจ้งและส่งคำวินิจฉัยนี้ไปให้ปลัดมหาดไทย รมว.มหาดไทย และนายกรัฐมนตรีเพื่อทราบ โดยขอย้ำว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งดังกล่าวห้ามซื้อเวลา เพราะคำสั่งของ ก.พ.ค. ชัดเจนว่านายวงศ์ศักดิ์ ยังเป็นอธิบดีกรมการปกครอง หากมีการซื้อเวลา นายวงศ์ศักด์ สามารถฟ้องต่อ ป.ป.ช.ว่าด้วยมาตรา 157 เรื่องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้เลย
ด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ปล่อยให้เป็นการพิจารณาของปลัดกระทรวงมหาดไทย ตนในฐานะรมว.มหาดไทย มีอำนาจในการสั่งย้ายปลัดกระทรวงเท่านั้น และเรื่องดังกล่าว หากพรรคฝ่ายค้านจะนำไปเป็นประเด็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ไม่มีปัญหา
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นใบเสร็จชี้ให้เห็นถึงการโยกย้ายว่าไม่เป็นธรรม ซึ่งส่งผลต่อขวัญและกำลังใจข้าราชการ และเรื่องนี้เป็นการตบหน้ารัฐบาลและรมว.มหาดไทย