นายประกิต รอดทิม ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ บริษัท เพาเวอร์-พี จำกัด (มหาชน) หรือ POWER แจ้งว่าหลังจากที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติการออกหุ้นเพิ่มทุน 3,000 ล้าน หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 0.65 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement:PP ) ในราคาไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 0.10 บาทนั้น บริษัทได้ติดต่อและได้รับการติดต่อจากนักลงทุนที่สนใจหลายราย และได้ทำการเจรจาต่อรอง และเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจบางรายเข้าตรวจสอบข้อมูล (Due Diligence) ของบริษัท แต่จนถึงปัจจุบันบริษัทยังไม่สามารถตกลงกับนักลงทุนและสามารถเสนอขายหุ้นดังกล่าวได้ แม้ว่าเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 54 บริษัทได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (MOU) ในการซื้อขายหุ้นเพิ่มทุนของ POWER กับ ไวโอเล็ต โกลด์ มารีน ซึ่งเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่สนใจรายใหม่ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาข้อมูลและการเจรจาต่อรอง ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะขายหุ้นสำเร็จหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เมื่อ ก.พ. 54 บริษัทได้ติดต่อนักลงทุนอีก 2 ราย คือ นายธนานันท์ เหลืองเรืองธนา และ ดร. สมพรต สาระโกเศศ เพื่อเสนอขายหุ้นดังกล่าว โดยนายธนานันท์ ทำธุรกิจเป็นบริษัทรับขนส่งสินค้าเคมีภัณฑ์ และติดตั้งแทงค์ตามมาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ชื่อ " บริษัท กิตติ แสงชัยบริการ จำกัด " ซึ่งดำเนินธุรกิจมานานกว่า 19 ปี และมีกำไรจากการดำเนินงานใน 3 ปีล่าสุด ปัจจุบันมีรถขนส่งเคมีภัณฑ์ 24 คัน ขณะที่ดร.สมพรต เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินการลงทุนและการบริหาร มีช่องทางในการดำเนินธุรกิจอย่างกว้างขวาง ถือเป็นประโยชน์แก่บริษัทในการดำเนินธุรกิจในอนาคต
ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อ 3 มี.ค. 54 จึงอนุมัติจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น พาร์ 0.65 บาท เสนอขายให้แก่บุคคลดังกล่าวทั้งสองรายละ 100 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นบุคคลในวงจำกัด และไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท ราคาหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงิน20 ล้านบาท เพราะโดยบุคคลทั้งสองเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่สนใจและพร้อมที่จะเข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนของPOWER ทันที และบริษัทจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แล้วเสร็จภายใน 15 มี.ค.54 เพื่อเสริมสภาพคล่องในระยะสั้น และประคองบริษัทให้อยู่รอด ขณะผู้บริหาร POWER อยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองเพื่อซื้อธุรกิจของนายธนานันท์เข้ามา เพื่อให้บริษัทมีธุรกิจหลักที่จะสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ดี ภายหลังจัดสรรหุ้น PP แล้ว บริษัทจะเหลือสรรและเสนอขาย PP อีก 2,800 ล้านหุ้น พาร์ 0.65 บาท ในราคาไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 0.10 บาท ( เป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่า 90 % ของราคาตลาด ซึ่งประเมินเมื่อมี.ค. 53 โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ คือ บริษัท แคปปิตอล แอ๊ดแวนเทจ จำกัด) บริษัทจะรีบจัดสรรโดยเร็วที่สุด เพื่อนำไปใช้ซื้อธุรกิจ และมีธุรกิจหลักที่จะสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอในอนาคต
ปัจจุบัน POWER มีปัญหาสภาพคล่องเพราะมีเงินสดคงเหลือ ณ 2 มี.ค. 54 เพียง 1,748,142.27 บาท ไม่เพียงพอกับภาระค่าใช้จ่ายประจำของบริษัท ซึ่งจากประมาณการค่าใช้จ่ายสิ้น มี.ค. 54 เงินสดของบริษัทจะติดลบ 3,232,170.89 บาท รวมถึงความไม่ชัดเจนถึงกำหนดการรับคืนของเงิน ค้ำประกันงานเขื่อนฯ ที่บริษัทฯ ได้ค้ำประกันไว้กับธนาคารทหารไทย และยังไม่สามารถเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนPPได้
สำหรับการเลือกผู้ที่สนใจซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทนั้นจะต้องเป็นผู้ที่สนใจซื้อหุ้นเพิ่มทุน มีธุรกิจที่มีแนวโน้มอนาคตดีและมีรายได้และกำไรต่อเนื่องเพื่อช่วยให้บริษัทมีธุรกิจหลัก มีความพร้อมในการซื้อหุ้นทันทีและมีสภาพคล่องโดยเร็ว อีกทั้งตั้งใจที่จะนำบริษัทออกจากกลุ่ม NPG และกลับมาซื้อขายอีกครั้งโดยเร็วที่สุด ภายใต้การบริหารงานอย่างโปร่งใส ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและกฎข้อบังคับต่าง ๆ ของสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ รักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นรายย่อยและมีความตั้งใจที่จะทำธุรกิจต่อไปในระยะยาว และหลังจากกิจการฟื้นบริษัทจะยื่นขอกลับเข้ามาซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai ) แทน
อย่างไรก็ตาม เมื่อ ก.พ. 54 บริษัทได้ติดต่อนักลงทุนอีก 2 ราย คือ นายธนานันท์ เหลืองเรืองธนา และ ดร. สมพรต สาระโกเศศ เพื่อเสนอขายหุ้นดังกล่าว โดยนายธนานันท์ ทำธุรกิจเป็นบริษัทรับขนส่งสินค้าเคมีภัณฑ์ และติดตั้งแทงค์ตามมาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ชื่อ " บริษัท กิตติ แสงชัยบริการ จำกัด " ซึ่งดำเนินธุรกิจมานานกว่า 19 ปี และมีกำไรจากการดำเนินงานใน 3 ปีล่าสุด ปัจจุบันมีรถขนส่งเคมีภัณฑ์ 24 คัน ขณะที่ดร.สมพรต เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินการลงทุนและการบริหาร มีช่องทางในการดำเนินธุรกิจอย่างกว้างขวาง ถือเป็นประโยชน์แก่บริษัทในการดำเนินธุรกิจในอนาคต
ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อ 3 มี.ค. 54 จึงอนุมัติจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น พาร์ 0.65 บาท เสนอขายให้แก่บุคคลดังกล่าวทั้งสองรายละ 100 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นบุคคลในวงจำกัด และไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท ราคาหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงิน20 ล้านบาท เพราะโดยบุคคลทั้งสองเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่สนใจและพร้อมที่จะเข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนของPOWER ทันที และบริษัทจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แล้วเสร็จภายใน 15 มี.ค.54 เพื่อเสริมสภาพคล่องในระยะสั้น และประคองบริษัทให้อยู่รอด ขณะผู้บริหาร POWER อยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองเพื่อซื้อธุรกิจของนายธนานันท์เข้ามา เพื่อให้บริษัทมีธุรกิจหลักที่จะสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ดี ภายหลังจัดสรรหุ้น PP แล้ว บริษัทจะเหลือสรรและเสนอขาย PP อีก 2,800 ล้านหุ้น พาร์ 0.65 บาท ในราคาไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 0.10 บาท ( เป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่า 90 % ของราคาตลาด ซึ่งประเมินเมื่อมี.ค. 53 โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ คือ บริษัท แคปปิตอล แอ๊ดแวนเทจ จำกัด) บริษัทจะรีบจัดสรรโดยเร็วที่สุด เพื่อนำไปใช้ซื้อธุรกิจ และมีธุรกิจหลักที่จะสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอในอนาคต
ปัจจุบัน POWER มีปัญหาสภาพคล่องเพราะมีเงินสดคงเหลือ ณ 2 มี.ค. 54 เพียง 1,748,142.27 บาท ไม่เพียงพอกับภาระค่าใช้จ่ายประจำของบริษัท ซึ่งจากประมาณการค่าใช้จ่ายสิ้น มี.ค. 54 เงินสดของบริษัทจะติดลบ 3,232,170.89 บาท รวมถึงความไม่ชัดเจนถึงกำหนดการรับคืนของเงิน ค้ำประกันงานเขื่อนฯ ที่บริษัทฯ ได้ค้ำประกันไว้กับธนาคารทหารไทย และยังไม่สามารถเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนPPได้
สำหรับการเลือกผู้ที่สนใจซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทนั้นจะต้องเป็นผู้ที่สนใจซื้อหุ้นเพิ่มทุน มีธุรกิจที่มีแนวโน้มอนาคตดีและมีรายได้และกำไรต่อเนื่องเพื่อช่วยให้บริษัทมีธุรกิจหลัก มีความพร้อมในการซื้อหุ้นทันทีและมีสภาพคล่องโดยเร็ว อีกทั้งตั้งใจที่จะนำบริษัทออกจากกลุ่ม NPG และกลับมาซื้อขายอีกครั้งโดยเร็วที่สุด ภายใต้การบริหารงานอย่างโปร่งใส ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและกฎข้อบังคับต่าง ๆ ของสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ รักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นรายย่อยและมีความตั้งใจที่จะทำธุรกิจต่อไปในระยะยาว และหลังจากกิจการฟื้นบริษัทจะยื่นขอกลับเข้ามาซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai ) แทน
