วานนี้(8 มี.ค.)นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กรณีที่พรรคเพื่อไทยทักท้วงการกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้เพียง 3 วัน คือวันที่ 15-17 มีนาคมแทนที่เสนอไว้ 4 วัน ว่า พิจารณาแล้วเห็นว่า สมควรให้อภิปราย 3 วัน เพราะการกำหนดเวลาฝ่ายสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้เสนอเรื่องมา เมื่อเสนอมาแบบนี้ตนก็อนุมัติไปตามระเบียบ ดังนั้น 2 วิปจะไปหารือกันว่าจะเอากี่วันนั้นตนไม่ทราบ และก็รีบอนุมัติเพราะเดี๋ยวจะหาว่า ตนถ่วงเวลาอีก
“ไม่มีอำนาจที่จะกำหนดแทนใครว่า จะให้อภิปรายกี่วัน ตอนนี้กำหนด 3 วัน ความจริงถ้าผมมีอำนาจ ผมจะกำหนดแค่วันเดียวก็ได้” นายชัย กล่าว
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า หลังจากรัฐบาลบริหารมา 2 ปี ได้ปรามาสฝ่ายค้านว่าไม่มีข้อมูลเด็ด วันนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่าการที่ยื้อการอภิปราย ไม่บรรจุญัตติโดยอ้างว่ามีลายเซ็นต์ 5 ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ตรงนั้น ก็ต้องการยื้อเวลาออกไป แต่สุดท้ายทราบว่านายกรัฐมนตรีคงตกใจกับข้อมูลกรณีบุหรี่ จริงหรือไม่ แค่เปิดออกมาแค่ประเด็นเดียว ถึงแม้รัฐบาลระบุจะปล่อยเวลาให้อภิปรายล่วงเลยไปหลังเที่ยงคืนได้ก็คงไม่มีประชาชนสนใจฟังอภิปรายเป็นการโยนกลอง ทำให้เห็นว่าเป็นการใช้วิชามารของรัฐบาล
โพลของพรรคยังพบว่าประชาชน ไม่เห็นด้วยกับการลดเวลาอภิปรายของฝ่ายค้านและยังมองว่าเรื่องนี้ทำให้รัฐบาลเสียรังวัดอย่างมาก
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลไม่ได้ลดวัน เพราะเคยบอกแล้วว่ารัฐบาลไม่ได้ติดใจเลยว่าจะให้อภิปรายกี่ก็ได้ ไม่เป็นปัญหาอะไร แต่การบรรจุระเบียบวาระของญัตติเป็นอำนาจหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร
ส่วนที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ระบุว่าหลังฟังข้อมูลของฝ่ายค้านแล้ว ทั้งนายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ คงไม่สามารถเดินบนนถนนได้ ถือว่าสบประมาทกันเกินไหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “คุณจตุพรก็ตีปี๊บไปก่อน ก็ให้พูดไป ผมคงไม่ตอบโต้อะไร แต่พร้อมที่จะเอาหลักฐานข้อเท็จจริงทั้งหลายไปแสดงในสภา”
ส่วนกรณีคลิปวีดีโอที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะเอามาเปิดเผยเป็นของจริงหรือตัดต่อ นายสุเทพ กล่าวว่า สื่อมวลชนก็อยู่ในประเทศนี้เมื่อตอนเกิดเหตุ แม้จะลืมเลือนไปบ้างเพราะเกิดเหตุนานหลายเดือนแล้ว แต่เมื่อเห็นภาพก็ต้องนึกออกและเข้าใจได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสื่อมวลชนก็ได้เห็นทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวกันมากมาย
“เราอย่ายอมให้คนโกหกมาทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนซิครับ เราต้องช่วยกันเพราะบ้านเมืองของเราเหมือนกัน เราอย่าไปส่งเสริมคนชั่ว คนเลว คนโกหก ที่มาทำให้บ้านเมืองเสียหาย ถ้าเป็นเรื่องจริงเราต้องยอมรับกัน แต่ถ้าเอาเรื่องโกหกมาพูด ด้วยเจตนาที่จะทำ ให้บ้านเมืองแตกแยกวุ่นวาย อย่างนี้เราไปสนับสนุนไม่ได้ ทั้งนี้หลักฐานที่ผมจะนำไปแสดงในสภา ยอมรับว่าไม่ใช่ของใหม่ เพราะเหตุการณ์เกิดเมื่อเดือนเม.ย. –พ.ค. 53 แต่ถ้าเป็นของใหม่ ก็คงเป็นของที่นายจตุพร กับพวกกำลังทำขึ้น กำลังตัดต่อกันอยู่ อันนี้เป็นของใหม่แน่นอน”นายสุเทพ กล่าว
ทั้งนี้ เขาก็ตัดต่อมาหลายทีแล้ว เคยทำมาแล้ว และเอาไปพูดในสภา จำไม่ได้หรือเมื่อตอนเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองครั้งแรกเมื่อปี 52 ถึงขนาดเอาคลิปกล่าวหาว่าทหารทุบตีประชาชน เอาผู้หญิงไปแสดงในสภา และพอตนเอาคลิปชุดเต็มมาเปิด ก็เข้าใจทันทีว่าเป็นคนละเรื่อง
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตนไม่กล้าแสดงความเห็น แต่มองว่าหากมีหลักฐานเด็ดผัวะเดียวก็น็อก แต่บางคนบอกต้องจากเบาไปหาหนัก จึงไม่ขอแสดงความเห็น เดี๋ยวจะมองว่าแตกแยก
“ตอนนี้ ผมกลุ้มใจอยู่ เพราะดุสิตโพลล์ระบุว่าประชาชนเรียกร้องให้ผมอภิปรายกว่าร้อยละ50 ผมนอนยิ้มเลย แต่กลุ้มใจว่าจะอภิปรายเรื่องใดที่จะมองว่าดี กำลังคิดอยู่ แต่ต้องให้โอกาส นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยเป็นหัวหน้าทีม” ร.ต.อ.เฉลิม ย้ำและว่าตนจะเก็บตก เพราะผมส่งข้อมูลน้ำมันปาล์ม สมาร์ทการ์ด คอมพิวเตอร์ไปหมดแล้ว และวันนี้เหลือแค่หัวใจกับชีวิต”
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีความพยายามใช้เวทีสภาฟอกความผิดให้กลุ่มต่างๆ หวังที่จะเบี่ยงเบน ปัดความรับผิดชอบของพวกตัวเองที่เกี่ยวกับการชุมนุมเผาบ้านเมืองในช่วงเดือนพ.ค. 2553
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทางพรรคจะไม่มีการตั้งวอร์รูมเพื่อช่วยรัฐมนตรีแน่ เพราะมั่นใจว่ารัฐมนตรีแต่ละคน จะสามารถชี้แจงตอบข้อเท็จจริงช่วยตัวเองได้ เพราะมีข้อมูลเพียงพอ จึ
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านระบุว่า ขอให้ประชาชนติดตามการซักฟอกรัฐบาล เพราะมีข้อมูลและหมัดเด็ดในการอภิปรายเพื่อล้มรัฐบาลกลางสภานั้น ตนถือเป็นแค่การโหมโรงโฆษณาชวนเชื่อ
“ไม่มีอำนาจที่จะกำหนดแทนใครว่า จะให้อภิปรายกี่วัน ตอนนี้กำหนด 3 วัน ความจริงถ้าผมมีอำนาจ ผมจะกำหนดแค่วันเดียวก็ได้” นายชัย กล่าว
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า หลังจากรัฐบาลบริหารมา 2 ปี ได้ปรามาสฝ่ายค้านว่าไม่มีข้อมูลเด็ด วันนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่าการที่ยื้อการอภิปราย ไม่บรรจุญัตติโดยอ้างว่ามีลายเซ็นต์ 5 ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ตรงนั้น ก็ต้องการยื้อเวลาออกไป แต่สุดท้ายทราบว่านายกรัฐมนตรีคงตกใจกับข้อมูลกรณีบุหรี่ จริงหรือไม่ แค่เปิดออกมาแค่ประเด็นเดียว ถึงแม้รัฐบาลระบุจะปล่อยเวลาให้อภิปรายล่วงเลยไปหลังเที่ยงคืนได้ก็คงไม่มีประชาชนสนใจฟังอภิปรายเป็นการโยนกลอง ทำให้เห็นว่าเป็นการใช้วิชามารของรัฐบาล
โพลของพรรคยังพบว่าประชาชน ไม่เห็นด้วยกับการลดเวลาอภิปรายของฝ่ายค้านและยังมองว่าเรื่องนี้ทำให้รัฐบาลเสียรังวัดอย่างมาก
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลไม่ได้ลดวัน เพราะเคยบอกแล้วว่ารัฐบาลไม่ได้ติดใจเลยว่าจะให้อภิปรายกี่ก็ได้ ไม่เป็นปัญหาอะไร แต่การบรรจุระเบียบวาระของญัตติเป็นอำนาจหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร
ส่วนที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ระบุว่าหลังฟังข้อมูลของฝ่ายค้านแล้ว ทั้งนายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ คงไม่สามารถเดินบนนถนนได้ ถือว่าสบประมาทกันเกินไหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “คุณจตุพรก็ตีปี๊บไปก่อน ก็ให้พูดไป ผมคงไม่ตอบโต้อะไร แต่พร้อมที่จะเอาหลักฐานข้อเท็จจริงทั้งหลายไปแสดงในสภา”
ส่วนกรณีคลิปวีดีโอที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะเอามาเปิดเผยเป็นของจริงหรือตัดต่อ นายสุเทพ กล่าวว่า สื่อมวลชนก็อยู่ในประเทศนี้เมื่อตอนเกิดเหตุ แม้จะลืมเลือนไปบ้างเพราะเกิดเหตุนานหลายเดือนแล้ว แต่เมื่อเห็นภาพก็ต้องนึกออกและเข้าใจได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสื่อมวลชนก็ได้เห็นทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวกันมากมาย
“เราอย่ายอมให้คนโกหกมาทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนซิครับ เราต้องช่วยกันเพราะบ้านเมืองของเราเหมือนกัน เราอย่าไปส่งเสริมคนชั่ว คนเลว คนโกหก ที่มาทำให้บ้านเมืองเสียหาย ถ้าเป็นเรื่องจริงเราต้องยอมรับกัน แต่ถ้าเอาเรื่องโกหกมาพูด ด้วยเจตนาที่จะทำ ให้บ้านเมืองแตกแยกวุ่นวาย อย่างนี้เราไปสนับสนุนไม่ได้ ทั้งนี้หลักฐานที่ผมจะนำไปแสดงในสภา ยอมรับว่าไม่ใช่ของใหม่ เพราะเหตุการณ์เกิดเมื่อเดือนเม.ย. –พ.ค. 53 แต่ถ้าเป็นของใหม่ ก็คงเป็นของที่นายจตุพร กับพวกกำลังทำขึ้น กำลังตัดต่อกันอยู่ อันนี้เป็นของใหม่แน่นอน”นายสุเทพ กล่าว
ทั้งนี้ เขาก็ตัดต่อมาหลายทีแล้ว เคยทำมาแล้ว และเอาไปพูดในสภา จำไม่ได้หรือเมื่อตอนเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองครั้งแรกเมื่อปี 52 ถึงขนาดเอาคลิปกล่าวหาว่าทหารทุบตีประชาชน เอาผู้หญิงไปแสดงในสภา และพอตนเอาคลิปชุดเต็มมาเปิด ก็เข้าใจทันทีว่าเป็นคนละเรื่อง
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตนไม่กล้าแสดงความเห็น แต่มองว่าหากมีหลักฐานเด็ดผัวะเดียวก็น็อก แต่บางคนบอกต้องจากเบาไปหาหนัก จึงไม่ขอแสดงความเห็น เดี๋ยวจะมองว่าแตกแยก
“ตอนนี้ ผมกลุ้มใจอยู่ เพราะดุสิตโพลล์ระบุว่าประชาชนเรียกร้องให้ผมอภิปรายกว่าร้อยละ50 ผมนอนยิ้มเลย แต่กลุ้มใจว่าจะอภิปรายเรื่องใดที่จะมองว่าดี กำลังคิดอยู่ แต่ต้องให้โอกาส นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยเป็นหัวหน้าทีม” ร.ต.อ.เฉลิม ย้ำและว่าตนจะเก็บตก เพราะผมส่งข้อมูลน้ำมันปาล์ม สมาร์ทการ์ด คอมพิวเตอร์ไปหมดแล้ว และวันนี้เหลือแค่หัวใจกับชีวิต”
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีความพยายามใช้เวทีสภาฟอกความผิดให้กลุ่มต่างๆ หวังที่จะเบี่ยงเบน ปัดความรับผิดชอบของพวกตัวเองที่เกี่ยวกับการชุมนุมเผาบ้านเมืองในช่วงเดือนพ.ค. 2553
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทางพรรคจะไม่มีการตั้งวอร์รูมเพื่อช่วยรัฐมนตรีแน่ เพราะมั่นใจว่ารัฐมนตรีแต่ละคน จะสามารถชี้แจงตอบข้อเท็จจริงช่วยตัวเองได้ เพราะมีข้อมูลเพียงพอ จึ
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านระบุว่า ขอให้ประชาชนติดตามการซักฟอกรัฐบาล เพราะมีข้อมูลและหมัดเด็ดในการอภิปรายเพื่อล้มรัฐบาลกลางสภานั้น ตนถือเป็นแค่การโหมโรงโฆษณาชวนเชื่อ
