นางจุไรรัตน์ ปันยารชุน กรรมการผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) กล่าวว่า บสท.ได้จัด "บสท.สัญจรโครงการพิเศษพบลูกหนี้" โดยมุ่งหวังจูงใจให้ลูกหนี้เข้ามาติดต่อเจรจาปรับโครงสร้างหนี้จนมีข้อยุติก่อนที่ บสท. จะปิดดำเนินการ และเพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระแก่ลูกหนี้ โดยบสท.สัญจรโครงการพิเศษพบลูกหนี้ภาคเหนือ เป็นการอำนวยความสะดวกและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าที่พักให้กับลูกหนี้ที่ไม่สามารถเดินทางมาเจรจาที่กรุงเทพฯ ซึ่งบสท. จะจัดทีมงานพิจารณารับแผนปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมให้ข้อเสนอพิเศษสุดๆด้วยการให้อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนเป็นพิเศษ รวมถึงมีหลักเกณฑ์ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยให้ได้หลักประกันที่เป็นที่อยู่อาศัยคืน โดยคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้เป็นหลักสำคัญ
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 4 มีนาคม 2554 เวลา 13.00-16.30 น. และวันที่ 5 มีนาคม 2554 เวลา 10.00-16.30 น. ที่ บิ๊กซี จ.เชียงราย
"นับว่าเป็นโอกาสสุดท้ายที่ลูกหนี้จะสามารถเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับ บสท.ให้ยุติได้โดยเร็วก่อนที่ บสท. จะปิดกิจการตาม พรก.บสท. ในวันที่ 8 มิถุนายน 2554 จึงขอถือโอกาสนี้เชิญชวนให้ลูกหนี้ที่ยังไม่ได้ติดต่อหรือยังไม่ได้เข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับ บสท. รีบเข้ามาติดต่อเพื่อได้รับประโยชน์เช่นเดียวกับลูกหนี้อีกหลายรายที่เจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับ บสท. จนสำเร็จ สามารถกลับไปดำเนินธุรกิจ และกลับเข้าสู่ระบบสถาบันการเงินได้ตามปกติแล้ว"
นางจุไรรัตน์กล่าวว่า บสท.ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่สุจริตอยู่ในสถานะที่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งบสท.ได้ช่วยเหลือลูกหนี้ปลดภาระหนี้อย่างเป็นธรรมให้มีที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน และก่อให้เกิดรายได้ การจ้างงาน เป็นฟันเฟืองในการช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศให้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 4 มีนาคม 2554 เวลา 13.00-16.30 น. และวันที่ 5 มีนาคม 2554 เวลา 10.00-16.30 น. ที่ บิ๊กซี จ.เชียงราย
"นับว่าเป็นโอกาสสุดท้ายที่ลูกหนี้จะสามารถเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับ บสท.ให้ยุติได้โดยเร็วก่อนที่ บสท. จะปิดกิจการตาม พรก.บสท. ในวันที่ 8 มิถุนายน 2554 จึงขอถือโอกาสนี้เชิญชวนให้ลูกหนี้ที่ยังไม่ได้ติดต่อหรือยังไม่ได้เข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับ บสท. รีบเข้ามาติดต่อเพื่อได้รับประโยชน์เช่นเดียวกับลูกหนี้อีกหลายรายที่เจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับ บสท. จนสำเร็จ สามารถกลับไปดำเนินธุรกิจ และกลับเข้าสู่ระบบสถาบันการเงินได้ตามปกติแล้ว"
นางจุไรรัตน์กล่าวว่า บสท.ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่สุจริตอยู่ในสถานะที่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งบสท.ได้ช่วยเหลือลูกหนี้ปลดภาระหนี้อย่างเป็นธรรมให้มีที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน และก่อให้เกิดรายได้ การจ้างงาน เป็นฟันเฟืองในการช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศให้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
