ASTVผู้จัดการรายวัน-“ชัยวุฒิ” ยอมรับมีโรงงานแห่ขอย้ายและขยายโรงงานน้ำตาลจำนวนมาก แต่ยังไม่พิจารณา โยนให้ปลัดอุตสาหกรรมเป็นแนวหน้าพิจารณาตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ขณะที่แผนปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบยังไม่คืบ
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีโรงงานยื่นเรื่องขอโยกย้าย ขยาย ตั้งโรงงานน้ำตาลเข้ามาเป็นจำนวนมากและตนยังไม่มีการอนุมัติแต่อย่างใด โดยได้มอบหมายให้นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาเรื่องการโยกย้าย และขยายโรงงานน้ำตาล พิจารณาตามความเหมาะสมได้ทันทีตามเหตุและผลที่สมควรจะพิจารณา
"เกณฑ์การย้ายและขยายโรงงานมีอยู่แล้วตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่กำหนดไว้ ทั้งเรื่องระยะห่างของโรงงาน จำนวนอ้อยในแต่ละพื้นที่ แผนการฟื้นฟูอ้อย เป็นต้น โดยให้รวมเกณฑ์ทุกอย่างที่มีอยู่มาพิจารณา ผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ก็จะถูกตีกลับ เนื่องจากตอนนี้ในบ้างพื้นที่มีปริมาณอ้อยมาก โรงงานที่มีอยู่ผลิตไม่ทัน ก็ควรจะให้เพิ่มกำลังการผลิตได้ จึงต้องดูเหตุผลที่เหมาะสมประกอบด้วย”นายชัยวุฒิกล่าว
นายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า การย้ายและขยายโรงงานนั้น ตามแนวทางการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบตามนโยบายของรมว.อุตสาหกรรมคงจะต้องศึกษาถึงผลดีและผลเสียเกี่ยวกับการเปิดเสรี ซึ่งมติครม.เดิมในปี 2532 กำหนดห้ามย้ายและตั้งโรงงานใหม่ แต่หากจะดำเนินการเพิ่มเติมนั้นยอมรับว่าเป็นเรื่องของการเมืองที่จะดำเนินการขอแก้ไข
สำหรับการหารือกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ วานนี้ (15ก.พ.) ในเรื่องของรูปแบบของระบบแบ่งปันผลประโยชน์ คงจะมีการปรับปรุงในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพของทั้งชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาล นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงคณะกรรมการที่บริหารทั้งหมด 5 ชุด ว่า ควรจะมีการปรับลดลงหรือไม่อย่างไร เพื่อไม่ให้การทำงานซ้ำซ้อนและยุ่งยาก รวมถึงการมอบอำนาจให้รมว.อุตสาหกรรมพิจารณาบางเรื่องได้คนเดียว แทนที่จะต้องรอให้ครบ 3 กระทรวง และผลพลอยได้ที่ควรจะนำมาคำนวณราคาเช่น กาก และอื่นๆ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยทั้งหมดจะต้องลงรายละเอียดอีกครั้ง
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีโรงงานยื่นเรื่องขอโยกย้าย ขยาย ตั้งโรงงานน้ำตาลเข้ามาเป็นจำนวนมากและตนยังไม่มีการอนุมัติแต่อย่างใด โดยได้มอบหมายให้นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาเรื่องการโยกย้าย และขยายโรงงานน้ำตาล พิจารณาตามความเหมาะสมได้ทันทีตามเหตุและผลที่สมควรจะพิจารณา
"เกณฑ์การย้ายและขยายโรงงานมีอยู่แล้วตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่กำหนดไว้ ทั้งเรื่องระยะห่างของโรงงาน จำนวนอ้อยในแต่ละพื้นที่ แผนการฟื้นฟูอ้อย เป็นต้น โดยให้รวมเกณฑ์ทุกอย่างที่มีอยู่มาพิจารณา ผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ก็จะถูกตีกลับ เนื่องจากตอนนี้ในบ้างพื้นที่มีปริมาณอ้อยมาก โรงงานที่มีอยู่ผลิตไม่ทัน ก็ควรจะให้เพิ่มกำลังการผลิตได้ จึงต้องดูเหตุผลที่เหมาะสมประกอบด้วย”นายชัยวุฒิกล่าว
นายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า การย้ายและขยายโรงงานนั้น ตามแนวทางการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบตามนโยบายของรมว.อุตสาหกรรมคงจะต้องศึกษาถึงผลดีและผลเสียเกี่ยวกับการเปิดเสรี ซึ่งมติครม.เดิมในปี 2532 กำหนดห้ามย้ายและตั้งโรงงานใหม่ แต่หากจะดำเนินการเพิ่มเติมนั้นยอมรับว่าเป็นเรื่องของการเมืองที่จะดำเนินการขอแก้ไข
สำหรับการหารือกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ วานนี้ (15ก.พ.) ในเรื่องของรูปแบบของระบบแบ่งปันผลประโยชน์ คงจะมีการปรับปรุงในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพของทั้งชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาล นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงคณะกรรมการที่บริหารทั้งหมด 5 ชุด ว่า ควรจะมีการปรับลดลงหรือไม่อย่างไร เพื่อไม่ให้การทำงานซ้ำซ้อนและยุ่งยาก รวมถึงการมอบอำนาจให้รมว.อุตสาหกรรมพิจารณาบางเรื่องได้คนเดียว แทนที่จะต้องรอให้ครบ 3 กระทรวง และผลพลอยได้ที่ควรจะนำมาคำนวณราคาเช่น กาก และอื่นๆ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยทั้งหมดจะต้องลงรายละเอียดอีกครั้ง