ASTVผู้จัดการรายวัน - เจ มาร์ท ออกหุ้นกู้ 1 พันล้านบาทเพื่อใช้หนี้และขยายงาน พร้อมเพิ่มทุนใหม่ 120 ล้านหุ้น แบ่ง 45 ล้านหุ้นขายรายเดิมแถมวอร์แรนต์ อัตรา 5 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ และที่เหลือรองรับการใช้สิทธิวอร์แรนต์ที่แจกผู้ถือหุ้นเดิมรวมทั้งที่แจกให้กับ ESOP อีกทั้ง อนุมัติให้ "เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค " เพิ่มทุนพร้อมกับเข้าซื้อหุ้นทั้งจำนวนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลเพิ่มอีกหุ้นละ 18 สตางค์กำหนดจ่าย 29 เม.ย.นี้
นางสาวลัดดา วรุณธารากุล เลขานุการ บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ขอแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 54 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันให้กับผู้ถือหุ้นในอัตาหุ้นละ 0.24 บาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเป็นเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท จึงเหลือเงินปันผลที่จะต้องจ่ายอีกหุ้นละ 0.18 บาท กำหนดจ่าย 29 เมษายน 54
นอกจากนี้ยังอนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่นักลงทุนทั่วไปไม่เกิน 45 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์ )หุ้นละ 1 บาท อีกทั้งได้มีมติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิหรือวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นสามัญครั้งที่ 1 (JMART-W1) จำนวน 69 ล้านหน่วย อายุ 2 ปี ราคาใช้สิทธิ 3 บาทต่อหุ้น โดยแบ่งการจัดสรรคือแจกฟรีให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนอัตรา 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยวอร์แรนต์ ส่วนอีก 9 ล้านหน่วยจัดสรรให้กับนักลงทุนทั่วไปที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนใหม่ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ในอัตราส่วน 5 หุ้นเพิ่มทุนใหม่ต่อ 1 หน่วยวอร์แรนต์ และยังได้ออกวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นให้แก่กรรมการ ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยครั้งที่ 1 (JMART- ESOP-W1) 6 ล้านหน่วย
อีกทั้งได้เตรียมขอผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 420 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญใหม่ 120 ล้านหุ้น พาร์ละ 1 บาท ซึ่งได้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนใหม่คือ 45 ล้านหุ้นเพื่อเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่้วไป และพิจารณามอบอำนาจให้ คณะกรรมการบริหาร ในการกำหนดราคาเสนอขาย หุ้นสามัญเพิ่มทุนนี้ในภายหลัง ซึ่งจะมีอัตราส่วนลดไม่เกิน 10% จากราคาตลาด ส่วนอีก 69 ล้าน รองรับการใช้สิทธิวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม และนักลงทุนทั่วไป (JMART-W1) และอีก 6 ล้านหุ้นรองรับการใช้สิทธิวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นสามัญ ซึ่งจัดสรรให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท ตามโครงการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อกรรมการและพนักงาน ครั้งที่ 1 (JMART-ESOP #1)
นอกจากนี้ ยังให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 1 พันล้านบาท เสนอขายในสกุลเงินบาท และ/หรือ ในสกุลเงินอื่นที่เทียบเท่าภายในวงเงิน อายุไม่เกิน 20 ปี อัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับภาวะตลาดเพื่อนำเงินชำระหนี้คงค้างและเป็นทุนหมุนเวียน และขยายธุรกิจ
นอกจากนี้บอร์ดยังอนุมัติการเพิ่มทุนในบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ 99.99 % ดำเนินธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ฟ้องสืบทรัพย์ บังคับคดี ทั่วประเทศไทยและดำเนินการซื้อหนี้ที่สงสัยจะสูญจากสถาบันการเงินและบริษัทผู้ให้บริการอื่นๆ เพื่อนำมาดำเนินการติดตามหนี้ โดยเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 80 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท
โดยการออกหุ้นสามัญใหม่ 200,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท ขายให้แก่บริษัทฯทั้งจำนวน ทั้งนี้ภายหลังจากเพิ่มทุนแล้ว บริษัทฯ จะถือหุ้นในบริษัทนี้ทั้งสิ้น 9,999,998 หุ้น คิดเป็นอัตราส่วนถือหุ้น 99.99% โดยเงินทุนที่ได้จากการเพิ่มทุนจะเตรียมไว้ใช้ในการลงทุนในอนาคตและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
พร้อมกับเปลี่ยนวันประชุมผู้ถือหุ้นเป็นวันที่ 8 เมษายน 54 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 54 (Record Date) ในวันที่ 10 มีนาคม54 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2553 ด้วยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่11 มีนาคม 54
นางสาวลัดดา วรุณธารากุล เลขานุการ บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ขอแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 54 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันให้กับผู้ถือหุ้นในอัตาหุ้นละ 0.24 บาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเป็นเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท จึงเหลือเงินปันผลที่จะต้องจ่ายอีกหุ้นละ 0.18 บาท กำหนดจ่าย 29 เมษายน 54
นอกจากนี้ยังอนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่นักลงทุนทั่วไปไม่เกิน 45 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์ )หุ้นละ 1 บาท อีกทั้งได้มีมติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิหรือวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นสามัญครั้งที่ 1 (JMART-W1) จำนวน 69 ล้านหน่วย อายุ 2 ปี ราคาใช้สิทธิ 3 บาทต่อหุ้น โดยแบ่งการจัดสรรคือแจกฟรีให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนอัตรา 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยวอร์แรนต์ ส่วนอีก 9 ล้านหน่วยจัดสรรให้กับนักลงทุนทั่วไปที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนใหม่ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ในอัตราส่วน 5 หุ้นเพิ่มทุนใหม่ต่อ 1 หน่วยวอร์แรนต์ และยังได้ออกวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นให้แก่กรรมการ ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยครั้งที่ 1 (JMART- ESOP-W1) 6 ล้านหน่วย
อีกทั้งได้เตรียมขอผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 420 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญใหม่ 120 ล้านหุ้น พาร์ละ 1 บาท ซึ่งได้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนใหม่คือ 45 ล้านหุ้นเพื่อเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่้วไป และพิจารณามอบอำนาจให้ คณะกรรมการบริหาร ในการกำหนดราคาเสนอขาย หุ้นสามัญเพิ่มทุนนี้ในภายหลัง ซึ่งจะมีอัตราส่วนลดไม่เกิน 10% จากราคาตลาด ส่วนอีก 69 ล้าน รองรับการใช้สิทธิวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม และนักลงทุนทั่วไป (JMART-W1) และอีก 6 ล้านหุ้นรองรับการใช้สิทธิวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นสามัญ ซึ่งจัดสรรให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท ตามโครงการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อกรรมการและพนักงาน ครั้งที่ 1 (JMART-ESOP #1)
นอกจากนี้ ยังให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 1 พันล้านบาท เสนอขายในสกุลเงินบาท และ/หรือ ในสกุลเงินอื่นที่เทียบเท่าภายในวงเงิน อายุไม่เกิน 20 ปี อัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับภาวะตลาดเพื่อนำเงินชำระหนี้คงค้างและเป็นทุนหมุนเวียน และขยายธุรกิจ
นอกจากนี้บอร์ดยังอนุมัติการเพิ่มทุนในบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ 99.99 % ดำเนินธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ฟ้องสืบทรัพย์ บังคับคดี ทั่วประเทศไทยและดำเนินการซื้อหนี้ที่สงสัยจะสูญจากสถาบันการเงินและบริษัทผู้ให้บริการอื่นๆ เพื่อนำมาดำเนินการติดตามหนี้ โดยเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 80 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท
โดยการออกหุ้นสามัญใหม่ 200,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท ขายให้แก่บริษัทฯทั้งจำนวน ทั้งนี้ภายหลังจากเพิ่มทุนแล้ว บริษัทฯ จะถือหุ้นในบริษัทนี้ทั้งสิ้น 9,999,998 หุ้น คิดเป็นอัตราส่วนถือหุ้น 99.99% โดยเงินทุนที่ได้จากการเพิ่มทุนจะเตรียมไว้ใช้ในการลงทุนในอนาคตและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
พร้อมกับเปลี่ยนวันประชุมผู้ถือหุ้นเป็นวันที่ 8 เมษายน 54 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 54 (Record Date) ในวันที่ 10 มีนาคม54 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2553 ด้วยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่11 มีนาคม 54