ASTVผู้จัดการรายวัน-เปิดงบ 746ล้าน ช่วยแรงงานไทยในลิเบีย แรงงานได้ 343 ล้าน เป็นค่าชดเชยแรงงานรายละ 1.5 หมื่นบาทค่าอาหาร ค่ารถ พิลึกมีค่าออกข่าวโชว์ผลงาน 5 ล้าน ส่วนบัวแก้วได้ 403 ล้าน เป็นค่าเช่าเรือและเครื่องบินขนแรงงานกลับ ด้านกรมการจัดหางาน ตั้งเกณฑ์จ่ายเงินสด อนุมัติใน 3 วัน ส่วนแรงงานที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ วอนญาติเร่งติดต่อ "เฉลิมชัย"บินไต้หวันหางานให้แรงงานไทย 12 มี.ค.นี้
รายงานแจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (1 มี.ค.) กระทรวงแรงงานได้รายงานความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนงานในลิเบียว่าแรงงานในไทยในลิเบียมีประมาณ 25,000 คน โดย 20,000 คนอยู่ในทริโปลี เบงกาซี บางส่วนกระจายอยู่รอบๆ ขณะนี้ทางกระทรวงฯ ได้เตรียมการเคลื่อนย้ายแรงงานไทยโดยทางเรือ ซึ่งเช่าเหมาลำจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี เดินทางไปรับแรงงานไทยที่กรุงทริโปลี และเดินทางต่อไปยังประเทศกรีซ หรือตุรกี จากนั้นจะเดินทางโดยเครื่องบินโดยสารกลับไทย
นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือแรงงานไทยชั่วคราว ที่ประเทศอิตาลี กรีซ ตุรกี อิยิปต์ ก่อนจะส่งกลับไทย พร้อมกันนี้ ได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณจากงบกลางประจำปี 2554 จำนวน 343,489,000บาท เพื่อใช้ในการช่วยเหลือแรงงานไทย
ข่าวแจ้งว่า รายละเอียดค่าใช้จ่ายที่กระทรวงแรงงานเสนอ ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายสงเคราะห์แรงงานไทยที่กลับจากลิเบีย คนละ 15,000คน จำนวน 20,000 คน เป็นเงิน 300 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายอาหารสำหรับแรงงานที่กลับจากลิเบีย จำนวน 1 มื้อ และค่าพาหนะเพื่อกลับภูมิลำเนา ประเภทเหมาจ่าย คนละ 1,500 บาท จำนวน 20,000 คน เป็นเงิน 30 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมี ค่าจ้างเหมารถบัสขนาด 40 ที่นั่ง จำนวน 5 คันๆ ละ20,000 บาท ระยะเวลา 30 วัน เป็นเงิน 3 ล้านบาท ค่าออกข่าวเผยแพร่ความคืบหน้าในการช่วยเหลือแรงงานไทยในลิเบียทางวิทยุ โทรทัศน์ จำนวน10 ครั้งๆ ละ 5 แสนบาท รวมเป็นเงิน 5 ล้านบาท ค่าโทรศัพท์ระหว่างประเทศเพื่อติดต่อประสานงานแรงงานไทยในลิเบีย จำนวน 1,296,000 บาท
ส่วนงบประมาณที่กระทรวงการต่างประเทศ ขออนุมัติจำนวน403 ล้านบาทนั้น ส่วนใหญ่เป็นค่าเช่าเรือและค่าเช่าเครื่องบินเอกชนขนส่งคนไทย นอกจากนั้นเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งศูนย์พักพิงคนไทยเป็นการชั่วคราว ค่าใช้จ่ายสำหรับที่พักอาหาร เป็นต้น ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งให้ทั้งสองกระทรวงไปหารือกับสำนักงบประมาณอีกครั้ง
ที่กระทรวงแรงงานวันเดียวกันนี้ นายสุเมธ มโหสถ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวถึงการช่วยเหลือแรงงานไทยที่อพยพกลับมาจากประเทศลิเบีย ว่า หลังจากที่ครม. อนุมัติเงินช่วยเหลือ 343 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือแรงงานไทยมาแล้ว จะมีการมอบเงินจำนวน 15,000 บาทให้กับแรงงานประมาณ 20,000 คน ที่เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศเท่านั้น
"ได้กำชับไปที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด ให้เร่งพิจารณาหลักฐานที่แรงงานไทยนำไปยื่นขอรับเงินจากกองทุนฯ พร้อมทั้งแจ้งกลับมายังคณะกรรมการกองทุนฯ ภายใน 3 วัน เพื่อพิจารณาอนุมัติ โดยจะจ่ายเงินชดเชยเป็นเงินสดเพื่อความสะดวก และไม่ได้จำกัดระยะเวลาในการรับ อย่างไรก็ตาม มีความเป็นห่วงเรื่องที่มีข่าวออกมาว่าแรงงานจะได้เงินชดเชย 2 ส่วน คือ จากกองทุนฯ 15,000 บาท และจากครม. 15,000 บาทนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากงบที่ครม.อนุมัติ 343 ล้านบาท เป็นการให้มาชดเชยเงินกองทุนฯ ที่ต้องนำไปจ่ายให้กับแรงงานรายละ 15,000 บาทเท่านั้น ส่วนค่าจ้างค้างจ่ายนั้น ขอเวลาอีกสักระยะหนึ่งเพื่อประสานงานกับนายจ้างลิเบีย"
ทั้งนี้ ขอให้ญาติพี่น้องคนไทยที่ได้รับการติดต่อจากแรงงานไทยในลิเบียที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ ขอให้แจ้งกับกรมการจัดหางาน เพื่อจะได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป โดยขอให้แจ้งเบอร์โทรศัพท์และพิกัดของแรงงานไทยกลุ่มนั้น ที่ สายด่วนโทร. 1694 ในวันและเวลาราชการ นอกจากนี้ ยังสามารถติดต่อมาได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 085-481-0243 -5, 080-222-1983-4 และ 080-230-0697
รายงานข่าวแจ้งว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีกำหนดเดินทางไปไต้หวัน ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ เพื่อเจรจาตำแหน่งงานให้กับแรงงานไทย หลังจากมีการแจ้งความประสงค์ของทูตแรงงานขอรับแรงงานไทยมาทำงานแทนแรงงานบางชาติ และยังมีอีกประเทศ คือ กาตาร์ ที่มีความประสงค์ต้องการแรงงานไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตัวเลขล่าสุดจากศูนย์ประสานงานคนไทยในลิเบีย ณ วันที่ 1 มี.ค. มีแรงงานไทยเดินทางกลับมาจากประเทศลิเบีย จำนวนทั้งสิ้น 1,139 คน แยกเป็นเดินทางกลับ 24 ก.พ. 33 คน,26 ก.พ. 1 คน, 27 ก.พ. 505 คน, 28 ก.พ. 274 คน และ 1 มี.ค. 326 คน และในวันที่ 2 มี.ค.นี้ จะมีแรงงานเดินทางมาจากประเทศดูไบ จำนวน 186 คน จากบริษัทเวิร์ล พาวเวอร์ เซอร์วิส ด้วยสายการบินเอมิเรตน์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเที่ยวบินและเวลาที่จะเดินทางมาถึง
รายงานแจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (1 มี.ค.) กระทรวงแรงงานได้รายงานความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนงานในลิเบียว่าแรงงานในไทยในลิเบียมีประมาณ 25,000 คน โดย 20,000 คนอยู่ในทริโปลี เบงกาซี บางส่วนกระจายอยู่รอบๆ ขณะนี้ทางกระทรวงฯ ได้เตรียมการเคลื่อนย้ายแรงงานไทยโดยทางเรือ ซึ่งเช่าเหมาลำจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี เดินทางไปรับแรงงานไทยที่กรุงทริโปลี และเดินทางต่อไปยังประเทศกรีซ หรือตุรกี จากนั้นจะเดินทางโดยเครื่องบินโดยสารกลับไทย
นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือแรงงานไทยชั่วคราว ที่ประเทศอิตาลี กรีซ ตุรกี อิยิปต์ ก่อนจะส่งกลับไทย พร้อมกันนี้ ได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณจากงบกลางประจำปี 2554 จำนวน 343,489,000บาท เพื่อใช้ในการช่วยเหลือแรงงานไทย
ข่าวแจ้งว่า รายละเอียดค่าใช้จ่ายที่กระทรวงแรงงานเสนอ ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายสงเคราะห์แรงงานไทยที่กลับจากลิเบีย คนละ 15,000คน จำนวน 20,000 คน เป็นเงิน 300 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายอาหารสำหรับแรงงานที่กลับจากลิเบีย จำนวน 1 มื้อ และค่าพาหนะเพื่อกลับภูมิลำเนา ประเภทเหมาจ่าย คนละ 1,500 บาท จำนวน 20,000 คน เป็นเงิน 30 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมี ค่าจ้างเหมารถบัสขนาด 40 ที่นั่ง จำนวน 5 คันๆ ละ20,000 บาท ระยะเวลา 30 วัน เป็นเงิน 3 ล้านบาท ค่าออกข่าวเผยแพร่ความคืบหน้าในการช่วยเหลือแรงงานไทยในลิเบียทางวิทยุ โทรทัศน์ จำนวน10 ครั้งๆ ละ 5 แสนบาท รวมเป็นเงิน 5 ล้านบาท ค่าโทรศัพท์ระหว่างประเทศเพื่อติดต่อประสานงานแรงงานไทยในลิเบีย จำนวน 1,296,000 บาท
ส่วนงบประมาณที่กระทรวงการต่างประเทศ ขออนุมัติจำนวน403 ล้านบาทนั้น ส่วนใหญ่เป็นค่าเช่าเรือและค่าเช่าเครื่องบินเอกชนขนส่งคนไทย นอกจากนั้นเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งศูนย์พักพิงคนไทยเป็นการชั่วคราว ค่าใช้จ่ายสำหรับที่พักอาหาร เป็นต้น ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งให้ทั้งสองกระทรวงไปหารือกับสำนักงบประมาณอีกครั้ง
ที่กระทรวงแรงงานวันเดียวกันนี้ นายสุเมธ มโหสถ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวถึงการช่วยเหลือแรงงานไทยที่อพยพกลับมาจากประเทศลิเบีย ว่า หลังจากที่ครม. อนุมัติเงินช่วยเหลือ 343 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือแรงงานไทยมาแล้ว จะมีการมอบเงินจำนวน 15,000 บาทให้กับแรงงานประมาณ 20,000 คน ที่เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศเท่านั้น
"ได้กำชับไปที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด ให้เร่งพิจารณาหลักฐานที่แรงงานไทยนำไปยื่นขอรับเงินจากกองทุนฯ พร้อมทั้งแจ้งกลับมายังคณะกรรมการกองทุนฯ ภายใน 3 วัน เพื่อพิจารณาอนุมัติ โดยจะจ่ายเงินชดเชยเป็นเงินสดเพื่อความสะดวก และไม่ได้จำกัดระยะเวลาในการรับ อย่างไรก็ตาม มีความเป็นห่วงเรื่องที่มีข่าวออกมาว่าแรงงานจะได้เงินชดเชย 2 ส่วน คือ จากกองทุนฯ 15,000 บาท และจากครม. 15,000 บาทนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากงบที่ครม.อนุมัติ 343 ล้านบาท เป็นการให้มาชดเชยเงินกองทุนฯ ที่ต้องนำไปจ่ายให้กับแรงงานรายละ 15,000 บาทเท่านั้น ส่วนค่าจ้างค้างจ่ายนั้น ขอเวลาอีกสักระยะหนึ่งเพื่อประสานงานกับนายจ้างลิเบีย"
ทั้งนี้ ขอให้ญาติพี่น้องคนไทยที่ได้รับการติดต่อจากแรงงานไทยในลิเบียที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ ขอให้แจ้งกับกรมการจัดหางาน เพื่อจะได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป โดยขอให้แจ้งเบอร์โทรศัพท์และพิกัดของแรงงานไทยกลุ่มนั้น ที่ สายด่วนโทร. 1694 ในวันและเวลาราชการ นอกจากนี้ ยังสามารถติดต่อมาได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 085-481-0243 -5, 080-222-1983-4 และ 080-230-0697
รายงานข่าวแจ้งว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีกำหนดเดินทางไปไต้หวัน ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ เพื่อเจรจาตำแหน่งงานให้กับแรงงานไทย หลังจากมีการแจ้งความประสงค์ของทูตแรงงานขอรับแรงงานไทยมาทำงานแทนแรงงานบางชาติ และยังมีอีกประเทศ คือ กาตาร์ ที่มีความประสงค์ต้องการแรงงานไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตัวเลขล่าสุดจากศูนย์ประสานงานคนไทยในลิเบีย ณ วันที่ 1 มี.ค. มีแรงงานไทยเดินทางกลับมาจากประเทศลิเบีย จำนวนทั้งสิ้น 1,139 คน แยกเป็นเดินทางกลับ 24 ก.พ. 33 คน,26 ก.พ. 1 คน, 27 ก.พ. 505 คน, 28 ก.พ. 274 คน และ 1 มี.ค. 326 คน และในวันที่ 2 มี.ค.นี้ จะมีแรงงานเดินทางมาจากประเทศดูไบ จำนวน 186 คน จากบริษัทเวิร์ล พาวเวอร์ เซอร์วิส ด้วยสายการบินเอมิเรตน์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเที่ยวบินและเวลาที่จะเดินทางมาถึง
