นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ร่วมมือกับ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ภัทร จำกัด (มหาชน) และธนาคารแห่งอเมริกา เมอร์ริลลินซ์ จัดงานไทยแลนด์โฟกัส 2011 ในวันที่ 28-30 มีนาคม ภายใต้ชื่องาน “Thailand Focus 20011-Enhancing Thailand’s Competitiveness Through the Next Decade” ซึ่งถือว่าเป็นการจัดงานครั้งที่ 5 เพื่อต้องการให้นักลงทุนต่างประเทศชั้นนำที่มีพอร์ตการลงทุนมูลค่าสูงที่มีการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก ได้มีโอกาสพบและสอบถามข้อมูลโดยตรงกับผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐเอกชน รวมถึงผลประกอบการงวดปี 2553 และแนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ไทย
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯเชื่อว่าจากการที่งบการเงินของบริษัทจดทะเบียนไทยมีการเติบโตต่อเนื่อง จะสามารถดึงดูดความสนใจนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนได้ โดยจากงบการเงินที่บริษัทจดทะเบียนที่ได้มีการแจ้งงบงวดปี 2553 มาจำนวน 48% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดพบว่า มีกำไรสุทธิรวม 448,347 ล้านบาท โตเพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
สำหรับกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศที่เป็นหมายที่จะเข้ามาร่วมงานนั้นเป็นกองทุนและนักวิเคราะห์ชั้นนำ จาก สหรัฐอเมริกา อังกฤษ กลุ่มประเทศยุโรป แล้วยังมีกลุ่มนักลงทุนใหม่ เช่น จีน สงิคโปร์ มาเลเซีย ตะวันออกกลาง ส่วนกลุ่มธุรกิจที่นักลงทุนต่างชาติเรียกร้องอยากพบ มีกลุ่มบริษัทปตท. กลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มค้าปลีก เช่น บริษัท บิ๊ซีซูเปอร์เซ็นเตอร์(BIGC) และบริษัท เซ็นทรัล พัฒนา(CPN) เป็นต้น
นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ภัทร กล่าวว่า ขณะนี้มีกองทุนต่างประเทศจำนวน 65-70 กองทุนได้มีการตอบรับที่จะเข้าร่วมงานไทยแลนด์โฟกัสแล้ว และหากรวมกับกองทุนในประเทศแล้วจะมีนักลงทุนสถาบันในและต่างประเทศเข้าร่วมงานประมาณ 100 กองทุน ประมาณ 150 คน ซึ่งการจัดงานไทยแลนด์โฟกัสในช่วงนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสม ที่จะชี้แจงข้อมูลข้อมูลแก่นักลงทุนเพื่อสร้างความน่าสนใจในการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งหากจัดในช่วงครึ่งปีหลังอาจจะทำให้ไม่เห็นภาพการเมืองจากที่จะมีการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯเชื่อว่าจากการที่งบการเงินของบริษัทจดทะเบียนไทยมีการเติบโตต่อเนื่อง จะสามารถดึงดูดความสนใจนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนได้ โดยจากงบการเงินที่บริษัทจดทะเบียนที่ได้มีการแจ้งงบงวดปี 2553 มาจำนวน 48% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดพบว่า มีกำไรสุทธิรวม 448,347 ล้านบาท โตเพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
สำหรับกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศที่เป็นหมายที่จะเข้ามาร่วมงานนั้นเป็นกองทุนและนักวิเคราะห์ชั้นนำ จาก สหรัฐอเมริกา อังกฤษ กลุ่มประเทศยุโรป แล้วยังมีกลุ่มนักลงทุนใหม่ เช่น จีน สงิคโปร์ มาเลเซีย ตะวันออกกลาง ส่วนกลุ่มธุรกิจที่นักลงทุนต่างชาติเรียกร้องอยากพบ มีกลุ่มบริษัทปตท. กลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มค้าปลีก เช่น บริษัท บิ๊ซีซูเปอร์เซ็นเตอร์(BIGC) และบริษัท เซ็นทรัล พัฒนา(CPN) เป็นต้น
นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ภัทร กล่าวว่า ขณะนี้มีกองทุนต่างประเทศจำนวน 65-70 กองทุนได้มีการตอบรับที่จะเข้าร่วมงานไทยแลนด์โฟกัสแล้ว และหากรวมกับกองทุนในประเทศแล้วจะมีนักลงทุนสถาบันในและต่างประเทศเข้าร่วมงานประมาณ 100 กองทุน ประมาณ 150 คน ซึ่งการจัดงานไทยแลนด์โฟกัสในช่วงนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสม ที่จะชี้แจงข้อมูลข้อมูลแก่นักลงทุนเพื่อสร้างความน่าสนใจในการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งหากจัดในช่วงครึ่งปีหลังอาจจะทำให้ไม่เห็นภาพการเมืองจากที่จะมีการเลือกตั้ง
