00 ถึงกับเดือดดาลกันเป็นแถว ตั้งแต่ระดับลูกพี่ยันลูกน้อง หลังจากถูก ส.ส.ชายแดนใต้ของ ปชป. 3-4 คน ออกมาตั้งโต๊ะแถลงให้ปลดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พ้นจากผบ.ทบ.เพราะเห็นว่าทำงาน “ห่วยแตก” ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ทั้งที่มีอำนาจ-งบประมาณ-กำลังคนพร้อมกว่าที่อื่น เมื่อทำงานไม่ได้ผล ก็สมควรเปลี่ยนตัว
00 ได้ผลรองนายกฯฝ่าย(ทำลาย)ความมั่นคง สุเทพ เทือกสุบรรณ ถึงกับนั่งไม่ติด ต้องรีบออกมาตัดเกม ตบปากส.ส.ลูกพรรคตัวเองฐาน “ไม่ดูตาม้าตาเรือ” ไปพูดให้ “เขาโกรธ” แบบนี้ได้ไง รู้หรือเปล่าว่า ถ้าเขา“หน้ามืด” ขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น แถมดีไม่ดีอาจจะมีรายการแฉมาถึง “ตู” ด้วย รู้เอาไว้ด้วย
00 ได้เห็นข่าวทหารที่บอกว่าเป็น “ยังเติร์ก” ที่แอ่นอกป้อง “นาย” แล้ว “สมเพช” มิน่าบ้านเมืองมันถึงเป็นแบบนี้ เพราะการออกมาแบบไม่รู้กาลเทศะ คิดแต่ “ปกป้องผลประโยชน์นาย” อย่างเดียว ขณะที่เรื่องของ “บ้านเมือง” เรื่องอธิปไตยทำเฉย ไม่สนใจว่าทหารชั้นผู้น้อยตามชายแดนถูกย่ำยีอย่างไร
00 คุณพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในสายตาของคนไทยหลายคนเวลานี้ถือว่าเป็น “ทหารไร้ค่า-ไร้ราคา” ไม่สมควรที่จะเป็น รมว.กลาโหม อีกต่อไป ถูกเหยียดหยามไม่ต่างจาก“ทหารพาณิชย์” คนหนึ่งเท่านั้น พูดมาได้อย่างไรว่า นายทหารชั้นผู้ใหญ่ หรือผู้บังคับบัญชา “ทำงานหนัก” เอาชีวิตเข้าเสี่ยง ขอโทษ ถามสักคำ “พวกเอ็ง” เสี่ยงตรงไหนวะ! มีแต่ “ไอ้เณร” หัวเกรียน ลูกชาวบ้านเท่านั้นที่ต้องตาย เจ็บพิการ เบี้ยเลี้ยงก็ได้มั่ง ไม่ได้มั่ง แถมบางทีอาจโชคร้ายถูก“ผู้บังคับบัญชาชั่วๆ” บางคน “หักหัวคิว” เสียอีก ทุด !!
00 อ้อแล้วที่คุณบอกว่าผู้บังคับบัญชาทำงานหนัก แล้วผลที่ได้ยังออกมาเป็นแบบนี้ ถือว่า “ผู้บังคับบัญชาคนนั้น” มัน “ห่วยแตก” ไร้สมรรถภาพ แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ถือว่าผลงานมันฟ้องอยู่ทนโท่ อีกอย่างเกือบลืมไป ที่ชายแดนใต้ขอให้ “เอาเรือเหาะ” ที่เคยใช้งบซื้อมา“นับพันล้านบาท” ขึ้นบินบ่อยๆหน่อย เผื่อโจรใต้มันเห็นแล้วตาลาย หัวใจวายตายไปก็ได้ เวรกรรม !!
00 อีกไม่กี่วันทหารอินโดนีเซียก็จะมาเป็น “พี่เลี้ยง” ตรวจสอบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ลองเดากันล่วงหน้ากันก่อนว่า หากลงพื้นที่ “คนพวกนี้” จะไปที่ไหน ตรงจุดไหนบ้าง ฝ่ายไทยคงไม่มีปัญหา ต้องยืนอยู่ในดินแดนไทยแน่ แต่ฝั่งกัมพูชานี่ซิ อยู่ตรงไหน แต่ขอชี้หน้าไว้ก่อนเลยว่า ทหารอินโดฯ ที่มาจากเจ้าหน้าที่กัมพูชา จะต้องมายืนที่ “ภูมะเขือ” กับ “วัดแก้วศิขาคีรีสวาระ” และพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นดินแดนไทย สรุปก็คือ เมื่อมาเป็น “สักขีพยาน” ทุกอย่างก็จบเห่ เราก็เสียดินแดนถาวร !!
00 ได้ยินนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รมว.ต่างประเทศ กษิต ภิรมย์ และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยืนยันว่า เราไม่เสียดินแดน ไม่เสียเปรียบ นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆแล้วละก็อยากยกเท้า “ถีบ” สักทีหนึ่ง แหมคงคิดว่าคนไทยทุกคนนั้นไม่รู้เรื่องรู้ราว เพราะที่กำลัง “สุมหัว” กันอยู่นั่นแหละถ้าไม่เรียกว่าเสียดินแดนแล้วจะเรียกว่าอะไร แถมยังเข้าข่าย “ขายชาติ” อีกด้วย จำไว้ !!
00 ได้ผลรองนายกฯฝ่าย(ทำลาย)ความมั่นคง สุเทพ เทือกสุบรรณ ถึงกับนั่งไม่ติด ต้องรีบออกมาตัดเกม ตบปากส.ส.ลูกพรรคตัวเองฐาน “ไม่ดูตาม้าตาเรือ” ไปพูดให้ “เขาโกรธ” แบบนี้ได้ไง รู้หรือเปล่าว่า ถ้าเขา“หน้ามืด” ขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น แถมดีไม่ดีอาจจะมีรายการแฉมาถึง “ตู” ด้วย รู้เอาไว้ด้วย
00 ได้เห็นข่าวทหารที่บอกว่าเป็น “ยังเติร์ก” ที่แอ่นอกป้อง “นาย” แล้ว “สมเพช” มิน่าบ้านเมืองมันถึงเป็นแบบนี้ เพราะการออกมาแบบไม่รู้กาลเทศะ คิดแต่ “ปกป้องผลประโยชน์นาย” อย่างเดียว ขณะที่เรื่องของ “บ้านเมือง” เรื่องอธิปไตยทำเฉย ไม่สนใจว่าทหารชั้นผู้น้อยตามชายแดนถูกย่ำยีอย่างไร
00 คุณพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในสายตาของคนไทยหลายคนเวลานี้ถือว่าเป็น “ทหารไร้ค่า-ไร้ราคา” ไม่สมควรที่จะเป็น รมว.กลาโหม อีกต่อไป ถูกเหยียดหยามไม่ต่างจาก“ทหารพาณิชย์” คนหนึ่งเท่านั้น พูดมาได้อย่างไรว่า นายทหารชั้นผู้ใหญ่ หรือผู้บังคับบัญชา “ทำงานหนัก” เอาชีวิตเข้าเสี่ยง ขอโทษ ถามสักคำ “พวกเอ็ง” เสี่ยงตรงไหนวะ! มีแต่ “ไอ้เณร” หัวเกรียน ลูกชาวบ้านเท่านั้นที่ต้องตาย เจ็บพิการ เบี้ยเลี้ยงก็ได้มั่ง ไม่ได้มั่ง แถมบางทีอาจโชคร้ายถูก“ผู้บังคับบัญชาชั่วๆ” บางคน “หักหัวคิว” เสียอีก ทุด !!
00 อ้อแล้วที่คุณบอกว่าผู้บังคับบัญชาทำงานหนัก แล้วผลที่ได้ยังออกมาเป็นแบบนี้ ถือว่า “ผู้บังคับบัญชาคนนั้น” มัน “ห่วยแตก” ไร้สมรรถภาพ แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ถือว่าผลงานมันฟ้องอยู่ทนโท่ อีกอย่างเกือบลืมไป ที่ชายแดนใต้ขอให้ “เอาเรือเหาะ” ที่เคยใช้งบซื้อมา“นับพันล้านบาท” ขึ้นบินบ่อยๆหน่อย เผื่อโจรใต้มันเห็นแล้วตาลาย หัวใจวายตายไปก็ได้ เวรกรรม !!
00 อีกไม่กี่วันทหารอินโดนีเซียก็จะมาเป็น “พี่เลี้ยง” ตรวจสอบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ลองเดากันล่วงหน้ากันก่อนว่า หากลงพื้นที่ “คนพวกนี้” จะไปที่ไหน ตรงจุดไหนบ้าง ฝ่ายไทยคงไม่มีปัญหา ต้องยืนอยู่ในดินแดนไทยแน่ แต่ฝั่งกัมพูชานี่ซิ อยู่ตรงไหน แต่ขอชี้หน้าไว้ก่อนเลยว่า ทหารอินโดฯ ที่มาจากเจ้าหน้าที่กัมพูชา จะต้องมายืนที่ “ภูมะเขือ” กับ “วัดแก้วศิขาคีรีสวาระ” และพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นดินแดนไทย สรุปก็คือ เมื่อมาเป็น “สักขีพยาน” ทุกอย่างก็จบเห่ เราก็เสียดินแดนถาวร !!
00 ได้ยินนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รมว.ต่างประเทศ กษิต ภิรมย์ และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยืนยันว่า เราไม่เสียดินแดน ไม่เสียเปรียบ นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆแล้วละก็อยากยกเท้า “ถีบ” สักทีหนึ่ง แหมคงคิดว่าคนไทยทุกคนนั้นไม่รู้เรื่องรู้ราว เพราะที่กำลัง “สุมหัว” กันอยู่นั่นแหละถ้าไม่เรียกว่าเสียดินแดนแล้วจะเรียกว่าอะไร แถมยังเข้าข่าย “ขายชาติ” อีกด้วย จำไว้ !!