นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายผลงานของรัฐบาลเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ตรงประเด็น ในเรื่องผลงานของรัฐบาล แต่กลับไปพูดแต่เรื่องสัญญาชาติของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยหวังที่จะลดความน่าเชื่อถือของนายกฯ
อย่างไรก็ตาม เรื่องสัญชาติของนายกฯนั้น นายกฯก็ได้ชี้แจงไปชัดเจนแล้ว เพราะมีคนไทย จำนวนมากที่เหมือนกับนายกฯ ที่พ่อแม่ไปทำงานหรือศึกษาอยู่ในต่างประเทศ และมีลูกที่ต่างประเทศ พอเรียนหนังสือจบ หรือหมดภารกิจตามสัญญาการทำงานในต่างประเทศ ก็เดินทางกลับมาประเทศไทย ลูกก็เติบโตขึ้นมาแบบคนไทย มีสัญชาติไทย แต่ที่ต่างประเทศนั้น ก็เป็นเรื่องการได้สัญชาติโดยการเกิดตามกฎหมายอังกฤษ มันก็มีเท่านั้น ทั้งนี้ นายกฯ มาอยู่ประเทศไทยตั้ง 30 ปีแล้ว และได้ปฏิบัติตามกฎหมายไทยมาตลอด ได้แสดงตัวเป็นคนไทยมาตลอด เอกสารหลักฐานทุกอย่างที่กรอกในแบบฟอร์มของทางราชการ ตั้งแต่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย จนมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็แสดงตัวว่าเป็นคนไทย เวลาจะไปอังกฤษก็ต้องขอวีซ่า ถ้าถือสัญชาติอังกฤษจะต้องขอวีซ่าทำไม ดังนั้นที่ฝ่ายค้านเอามาพูด ก็เพื่อให้เกิดความสับสนในบ้านเมืองเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่าจะทำให้คนสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมนายกฯ จึงไม่ยอมรับตั้งแต่แรกว่าถือ 2 สัญชาติ นายสุเทพ กล่าวว่า ถือว่าพูดผิด ถ้าบอกว่านายกฯถือ 2 สัญชาติ เพราะนายกฯถือสัญชาติเดียว คือสัญชาติไทย
เมื่อถามว่า การที่นากยฯ ยอมรับกลางสภาเป็นครั้งแรกว่า ไม่เคยทำเรื่องขอสละสัญชาติอังกฤษ ที่ได้รับโดยการเกิด เป็นห่วงว่าจะมีการนำไปขยายผลนอกสภาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ทั้งหมดที่ฝ่ายค้านเอามาพูด ก็เพื่อหวังผลให้สอดคล้องกับการดำเนินการของทนายความต่างชาติ ที่รับจ้างทำคดีอยู่ จะได้เอาหลักฐาน หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสภาไปเป็นข้ออ้างว่า แท้ที่จริงแล้ว นายกฯมีสัญชาติอังกฤษด้วย เพื่อที่จะได้หาเรื่องเอาคดีความที่เกิดขึ้นที่สี่แยกราชประสงค์ ไปขึ้นสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่เราไม่กังวล ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่ตามข้อเท็จจริง และนายกฯ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปสละสัญชาติอังกฤษด้วย เพราะท่านไม่ได้ถือสัญชาติอังกฤษอยู่แล้ว แต่ท่านถือสัญชาติไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่าเงื่อนไขตรงนี้จะนำไปสู่การที่ นปช.นำคดีการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ขึ้นสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศได้เลยหรือไม่ นายุสเทพ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเป็นไปได้ แต่ไม่เป็นไร คนหล่านี้เขาอยากจะดิ้นรนต่อสู้ ก็ว่าไป เป้าหมายของเขาชัดเจนคือ ทำงานเป็นกระบวนการ สอดประสานกัน เล่นทั้งในระบบ และนอกระบบ ทั้งในและนอกสภา อย่างไรก็ตามศาลอาญาระหว่างประเทศ จะรับคดีดังกล่าวหรือไม่ ตนไม่ก้าวล่วงที่จะไปวิจารณ์ แต่ไม่น่าเป็นปัญหา เพราะเราต่อสู้ตามข้อเท็จจริง
ส่วนเรื่องข้อกล่าวหาการใช้งบประมาณของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอ ฉ.) ที่ตนเคยบอกว่าเมื่อเปิดสภาแล้วจะชี้แจงนั้น ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพรรคฝ่ายก็ค้านนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจตนอยู่ดี ตนจะไปตอบชี้แจงในตอนนั้นเลยจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องตอบหลายที
อย่างไรก็ตาม เรื่องสัญชาติของนายกฯนั้น นายกฯก็ได้ชี้แจงไปชัดเจนแล้ว เพราะมีคนไทย จำนวนมากที่เหมือนกับนายกฯ ที่พ่อแม่ไปทำงานหรือศึกษาอยู่ในต่างประเทศ และมีลูกที่ต่างประเทศ พอเรียนหนังสือจบ หรือหมดภารกิจตามสัญญาการทำงานในต่างประเทศ ก็เดินทางกลับมาประเทศไทย ลูกก็เติบโตขึ้นมาแบบคนไทย มีสัญชาติไทย แต่ที่ต่างประเทศนั้น ก็เป็นเรื่องการได้สัญชาติโดยการเกิดตามกฎหมายอังกฤษ มันก็มีเท่านั้น ทั้งนี้ นายกฯ มาอยู่ประเทศไทยตั้ง 30 ปีแล้ว และได้ปฏิบัติตามกฎหมายไทยมาตลอด ได้แสดงตัวเป็นคนไทยมาตลอด เอกสารหลักฐานทุกอย่างที่กรอกในแบบฟอร์มของทางราชการ ตั้งแต่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย จนมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็แสดงตัวว่าเป็นคนไทย เวลาจะไปอังกฤษก็ต้องขอวีซ่า ถ้าถือสัญชาติอังกฤษจะต้องขอวีซ่าทำไม ดังนั้นที่ฝ่ายค้านเอามาพูด ก็เพื่อให้เกิดความสับสนในบ้านเมืองเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่าจะทำให้คนสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมนายกฯ จึงไม่ยอมรับตั้งแต่แรกว่าถือ 2 สัญชาติ นายสุเทพ กล่าวว่า ถือว่าพูดผิด ถ้าบอกว่านายกฯถือ 2 สัญชาติ เพราะนายกฯถือสัญชาติเดียว คือสัญชาติไทย
เมื่อถามว่า การที่นากยฯ ยอมรับกลางสภาเป็นครั้งแรกว่า ไม่เคยทำเรื่องขอสละสัญชาติอังกฤษ ที่ได้รับโดยการเกิด เป็นห่วงว่าจะมีการนำไปขยายผลนอกสภาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ทั้งหมดที่ฝ่ายค้านเอามาพูด ก็เพื่อหวังผลให้สอดคล้องกับการดำเนินการของทนายความต่างชาติ ที่รับจ้างทำคดีอยู่ จะได้เอาหลักฐาน หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสภาไปเป็นข้ออ้างว่า แท้ที่จริงแล้ว นายกฯมีสัญชาติอังกฤษด้วย เพื่อที่จะได้หาเรื่องเอาคดีความที่เกิดขึ้นที่สี่แยกราชประสงค์ ไปขึ้นสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่เราไม่กังวล ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่ตามข้อเท็จจริง และนายกฯ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปสละสัญชาติอังกฤษด้วย เพราะท่านไม่ได้ถือสัญชาติอังกฤษอยู่แล้ว แต่ท่านถือสัญชาติไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่าเงื่อนไขตรงนี้จะนำไปสู่การที่ นปช.นำคดีการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ขึ้นสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศได้เลยหรือไม่ นายุสเทพ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเป็นไปได้ แต่ไม่เป็นไร คนหล่านี้เขาอยากจะดิ้นรนต่อสู้ ก็ว่าไป เป้าหมายของเขาชัดเจนคือ ทำงานเป็นกระบวนการ สอดประสานกัน เล่นทั้งในระบบ และนอกระบบ ทั้งในและนอกสภา อย่างไรก็ตามศาลอาญาระหว่างประเทศ จะรับคดีดังกล่าวหรือไม่ ตนไม่ก้าวล่วงที่จะไปวิจารณ์ แต่ไม่น่าเป็นปัญหา เพราะเราต่อสู้ตามข้อเท็จจริง
ส่วนเรื่องข้อกล่าวหาการใช้งบประมาณของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอ ฉ.) ที่ตนเคยบอกว่าเมื่อเปิดสภาแล้วจะชี้แจงนั้น ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพรรคฝ่ายก็ค้านนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจตนอยู่ดี ตนจะไปตอบชี้แจงในตอนนั้นเลยจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องตอบหลายที