ASTVผู้จัดการรายวัน – ตร.ท่องเที่ยว เตรียมหารือผู้ประกอบการสมาคม ผนึกกำลัง ปราบแก๊งตุ๋นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เผยปีที่ผ่านมามีกว่า 2.8 แสนคดี ชี้อุปสรรคสำคัญคือการมีกฎหมายหลายฉบับ
พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผู้บังคับบัญชาการกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับสมาคมผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยว เช่น สมาคมโรงแรมไทย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพ, สมาคมผู้ค้าอัญมณี เพื่อร่วมระดมความคิดหาแนวทางการแก้ปัญหากรณีนักท่องเที่ยวถูกหลอกลวงในประเทศไทย
ปัญหา คือ มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ ขึ้นอยู่กับความผิดที่เกิดขึ้น และในกฎหมายแต่ละฉบับก็ไม่ใช่ว่าจะระบุความผิดทางอาญาเพียงอย่างเดียว แต่บางฉบับบางมาตราเกี่ยวข้องกับการเอาผิดทางแพ่งด้วย เช่น พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์, พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค, พ.ร.บ.ขนส่งทางบก, พ.ร.บ.สถานบริการ และพ.ร.บ.โรงแรม เป็นต้น
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการหาแนวทางการแก้ไข
“กรณีที่มีการพานักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้าอัญมณีเครื่องประดับ จะใช้มาตรฐานไหนวัดว่า สินค้าที่นักท่องเที่ยวซื้อนั้นถูกหรือแพง มีมาตรฐานแค่ไหน ซึ่งการให้ภาคเอกชนมาร่วมกำหนดแนวทาง เชื่อว่าหากมีการฟ้องร้องศาลจะรับฟังมากขึ้น
แต่ทั้งนี้ต้องเป็นองค์กรเอกชนที่นักท่องเที่ยวต่างชาตริให้การยอมรับ และเชื่อถือ ในการที่จะเป็นผู้กำหนดมาตรฐาน“
ปัจจุบันมิจฉาชีพที่หลอกลวงนักท่องเที่ยว เพิ่มจำนวนขึ้นมาก หากเป็นปัญหาเล็กน้อยบ้างก็ไม่สนใจที่จะเอาความ แต่ปัญหาเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความไม่พอใจและคิดว่าผู้ประกอบการผิดสัญญา และยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย จึงมีความจำเป็นต้องเร่งปรามปราม
สถิติของกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ระบุว่า ปี 2553 มีการรับแจ้งเหตุ และ จับกุม เกือบ 2.8 แสนครั้ง แบ่งเป็น อาชญากรรมและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชาวต่างชาติ 2,224 ครั้ง ได้แก่ ทรัพย์สินสูญหาย, เอกสารสูญหาย, ความผิดชีวิตและร่างกาย และนักท่องเที่ยวเสียชีวิต เป็นต้น ส่วนการทำงานด้านป้องกันปราบปรามการหลอกลวงเอาเปรียบนักท่องเที่ยว
กรณีการซื้อขายอัญมณีเครื่องประดับราคาสูงด้อยคุณภาพนั้น เกิดขึ้น 310 ครั้ง มีการดำเนินการเข้าตรวจสอบบริษัทหรือร้านค้าที่เข้าข่าย 300 ร้าน และจับกุมดำเนินคดีรายบุคคล รวม 10 คน กรณีการแก้ไขปัญหาทัวร์ราคาต่ำผิดปกติ (ทัวร์ศูนย์เหรียญ) มี 270,272 ครั้ง เป็นการแจกใบเตือนนักท่องเที่ยว, ตรวจสอบบริษัทนำเที่ยว ไปจนถึงการจับกุมบริษัทนำเที่ยว และมัคคุเทศก์
พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผู้บังคับบัญชาการกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับสมาคมผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยว เช่น สมาคมโรงแรมไทย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพ, สมาคมผู้ค้าอัญมณี เพื่อร่วมระดมความคิดหาแนวทางการแก้ปัญหากรณีนักท่องเที่ยวถูกหลอกลวงในประเทศไทย
ปัญหา คือ มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ ขึ้นอยู่กับความผิดที่เกิดขึ้น และในกฎหมายแต่ละฉบับก็ไม่ใช่ว่าจะระบุความผิดทางอาญาเพียงอย่างเดียว แต่บางฉบับบางมาตราเกี่ยวข้องกับการเอาผิดทางแพ่งด้วย เช่น พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์, พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค, พ.ร.บ.ขนส่งทางบก, พ.ร.บ.สถานบริการ และพ.ร.บ.โรงแรม เป็นต้น
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการหาแนวทางการแก้ไข
“กรณีที่มีการพานักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้าอัญมณีเครื่องประดับ จะใช้มาตรฐานไหนวัดว่า สินค้าที่นักท่องเที่ยวซื้อนั้นถูกหรือแพง มีมาตรฐานแค่ไหน ซึ่งการให้ภาคเอกชนมาร่วมกำหนดแนวทาง เชื่อว่าหากมีการฟ้องร้องศาลจะรับฟังมากขึ้น
แต่ทั้งนี้ต้องเป็นองค์กรเอกชนที่นักท่องเที่ยวต่างชาตริให้การยอมรับ และเชื่อถือ ในการที่จะเป็นผู้กำหนดมาตรฐาน“
ปัจจุบันมิจฉาชีพที่หลอกลวงนักท่องเที่ยว เพิ่มจำนวนขึ้นมาก หากเป็นปัญหาเล็กน้อยบ้างก็ไม่สนใจที่จะเอาความ แต่ปัญหาเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความไม่พอใจและคิดว่าผู้ประกอบการผิดสัญญา และยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย จึงมีความจำเป็นต้องเร่งปรามปราม
สถิติของกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ระบุว่า ปี 2553 มีการรับแจ้งเหตุ และ จับกุม เกือบ 2.8 แสนครั้ง แบ่งเป็น อาชญากรรมและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชาวต่างชาติ 2,224 ครั้ง ได้แก่ ทรัพย์สินสูญหาย, เอกสารสูญหาย, ความผิดชีวิตและร่างกาย และนักท่องเที่ยวเสียชีวิต เป็นต้น ส่วนการทำงานด้านป้องกันปราบปรามการหลอกลวงเอาเปรียบนักท่องเที่ยว
กรณีการซื้อขายอัญมณีเครื่องประดับราคาสูงด้อยคุณภาพนั้น เกิดขึ้น 310 ครั้ง มีการดำเนินการเข้าตรวจสอบบริษัทหรือร้านค้าที่เข้าข่าย 300 ร้าน และจับกุมดำเนินคดีรายบุคคล รวม 10 คน กรณีการแก้ไขปัญหาทัวร์ราคาต่ำผิดปกติ (ทัวร์ศูนย์เหรียญ) มี 270,272 ครั้ง เป็นการแจกใบเตือนนักท่องเที่ยว, ตรวจสอบบริษัทนำเที่ยว ไปจนถึงการจับกุมบริษัทนำเที่ยว และมัคคุเทศก์
