เปิดผลวิจัย ททท.พบ ไทยยังต้วมเตี้ยม ไร้การพัฒนาศักยภาพเกือบทุกสายอาชีพที่เตรียมจะเปิดเสรีอาเซียนด้านบริการการท่องเที่ยว หวั่นเพื่อนบ้านแซงหน้า ขณะที่ทุนจีนพร้อมทะลักลงทุนในอาเซียน หลังเปิดเสรี ด้านธุรกิจโรงแรมที่พัก แนะนำให้ติดเบรก ถ่วงเวลาการเปิดเสรี เหตุทุกวันนี้หลายพื้นที่โอเวอร์ซัปพลาย
แหล่งข่าวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ผลวิเคราะห์ของ ททท. กรณีการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการเปิดเสรีการค้าอาเซียน ในธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว อันเป็นผลจากการทำข้อตกลงระดับพหุภาคีในกรอบขององค์การการ ค้าระดับภูมิภาคในกรอบเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) และระดับทวิภาคีกับประเทศต่างๆ ต่อเนื่อง ซึ่งพบว่า ประเทศไทยต้องเร่งปรับตัวเตรียมความพร้อมเพื่อการแข่งขัน เพราะปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้านต่างเร่งปรับตัวเพื่อรองรับการเปิดเสรีอย่างจริง จัง รวมทั้งจีน ซึ่งจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากในอนาคตเพราะเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีเงินลงทุนสูง
นอกจากนี้ ยังพบว่า ไทยต้องใช้ลักษณะทางกายภาพของที่ตั้งประเทศ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางคมนาคมของประเทศ ลุ่มแม่น้ำโขง ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันประเทศไทย จำเป็นต้องเร่งศึกษาเชิงลึกในแต่ละสายงานที่ต้องมีการเปิดเสรีการค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้ทราบว่าพื้นที่ใดยังสามารถรองรับการลงทุนได้เพิ่มเติม และเหมาะกับตลาดลูกค้ากลุ่มไหน และเพื่อให้ทราบว่าไทยเคยได้รับสิทธิประโยชน์จากคู่เจรจาใด แต่ยังใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ ศึกษาข้อกฎหมายของคู่เจรจาว่ามีเรื่องใดเป็นประโยชน์หรือปัญหากับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย หรือไทยควรใช้เป็นต้นแบบในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และสนับสนุนการใช้มาตรการทางสังคม เช่น การใช้บริการธุรกิจที่จัดตั้งถูกต้องตามกฎหมาย ประชาสัมพันธ์กลุ่มธุรกิจน้ำดีมากขึ้น เป็นต้น
ทั้งนี้ จากบทวิเคราะห์ พบว่า ไทยควรเสนอให้หยุด หรือชะลอการเปิดเสรีกลุ่มธุรกิจที่พัก เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมา ที่พักในประเทศไทยหลายพื้นที่มีจำนวนมากเกินความต้องการ (โอเวอร์ซัปพลาย) ขณะที่สาขาธุรกิจบริษัทนำเที่ยว ควรเสนอบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และเสนอให้มีกฎหมาย หรือมาตราที่เข้มข้นขึ้น หากกฎหมายที่มีอยู่แล้วไม่สามารถแก้ปัญหาที่มีอยู่ได้ เช่น ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ และการหลอกลวงนักท่องเที่ยว โดยควรมีการทบทวนการกำหนดทุนประกันในการจัดตั้งธุรกิจนำเที่ยว เพื่อจะได้คัดกรองผู้ที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจให้มีคุณภาพมากขึ้น ส่วนสาขาอาชีพมัคคุเทศก์ ไทยควรสงวนท่าทีในการเปิดให้มัคคุเทศก์ต่างชาติเข้ามาประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ในประเทศไทย
ในด้านการทำตลาด ไทยต้องเร่งสร้างเครือข่ายทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ให้กับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ช่วยพัฒนาคุณภาพ เช่น ด้านบริหารจัดการ ด้านภาษาต่างประเทศ ภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน
“ความสำคัญของการทำตลาดเฉพาะ (นิชมาร์เก็ต) เช่น ตลาด คนพิการ ตลาดผู้สูงอายุ โดยภาครัฐ ต้องเป็นหน่วยงานที่ช่วงส่งเสริมภาคธุรกิจของไทย มีความพร้อมในการรองรับตลาดในทุกๆ กลุ่มที่มีศักยภาพ ควบคู่ไปกับการรักษาเอกำลักษณ์ความเป็นไทย การพัฒนาแรงงานไทย การปรับปรุงระบบฐานข้อมูล ทั้งจำนวนผู้ประกอบการ และ จำนวนนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ตลาดรองรับการเปิดเสรี ด้านการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม แรงงานของไทย ในระดับกลางและล่าง มีการเรียกร้องค่าจ้างแรงงานสูง เมื่อเทียบกับแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่คุณภาพยังไม่ถูกพัฒนาให้ดีกว่าของประเทศเพื่อนบ้านได้ ดังนั้น ถ้ามีการเปิดเสรี อนุญาตให้แรงงานต่างชาติเข้ามาประกอบอาชีพในไทยได้ แรงงานต่างชาติจะมาแทนที่แรงงานไทยระดับกลางและล่าง และมีผลทำให้แรงงานไทยกลุ่มนี้ตกงาน ไม่ได้ประโยชน์จากการเปิดเสรี เพราะจะไปประกอบอาชีพในต่างประเทศก็ไม่มีความสามารถมากพอ
แหล่งข่าวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ผลวิเคราะห์ของ ททท. กรณีการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการเปิดเสรีการค้าอาเซียน ในธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว อันเป็นผลจากการทำข้อตกลงระดับพหุภาคีในกรอบขององค์การการ ค้าระดับภูมิภาคในกรอบเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) และระดับทวิภาคีกับประเทศต่างๆ ต่อเนื่อง ซึ่งพบว่า ประเทศไทยต้องเร่งปรับตัวเตรียมความพร้อมเพื่อการแข่งขัน เพราะปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้านต่างเร่งปรับตัวเพื่อรองรับการเปิดเสรีอย่างจริง จัง รวมทั้งจีน ซึ่งจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากในอนาคตเพราะเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีเงินลงทุนสูง
นอกจากนี้ ยังพบว่า ไทยต้องใช้ลักษณะทางกายภาพของที่ตั้งประเทศ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางคมนาคมของประเทศ ลุ่มแม่น้ำโขง ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันประเทศไทย จำเป็นต้องเร่งศึกษาเชิงลึกในแต่ละสายงานที่ต้องมีการเปิดเสรีการค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้ทราบว่าพื้นที่ใดยังสามารถรองรับการลงทุนได้เพิ่มเติม และเหมาะกับตลาดลูกค้ากลุ่มไหน และเพื่อให้ทราบว่าไทยเคยได้รับสิทธิประโยชน์จากคู่เจรจาใด แต่ยังใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ ศึกษาข้อกฎหมายของคู่เจรจาว่ามีเรื่องใดเป็นประโยชน์หรือปัญหากับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย หรือไทยควรใช้เป็นต้นแบบในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และสนับสนุนการใช้มาตรการทางสังคม เช่น การใช้บริการธุรกิจที่จัดตั้งถูกต้องตามกฎหมาย ประชาสัมพันธ์กลุ่มธุรกิจน้ำดีมากขึ้น เป็นต้น
ทั้งนี้ จากบทวิเคราะห์ พบว่า ไทยควรเสนอให้หยุด หรือชะลอการเปิดเสรีกลุ่มธุรกิจที่พัก เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมา ที่พักในประเทศไทยหลายพื้นที่มีจำนวนมากเกินความต้องการ (โอเวอร์ซัปพลาย) ขณะที่สาขาธุรกิจบริษัทนำเที่ยว ควรเสนอบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และเสนอให้มีกฎหมาย หรือมาตราที่เข้มข้นขึ้น หากกฎหมายที่มีอยู่แล้วไม่สามารถแก้ปัญหาที่มีอยู่ได้ เช่น ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ และการหลอกลวงนักท่องเที่ยว โดยควรมีการทบทวนการกำหนดทุนประกันในการจัดตั้งธุรกิจนำเที่ยว เพื่อจะได้คัดกรองผู้ที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจให้มีคุณภาพมากขึ้น ส่วนสาขาอาชีพมัคคุเทศก์ ไทยควรสงวนท่าทีในการเปิดให้มัคคุเทศก์ต่างชาติเข้ามาประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ในประเทศไทย
ในด้านการทำตลาด ไทยต้องเร่งสร้างเครือข่ายทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ให้กับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ช่วยพัฒนาคุณภาพ เช่น ด้านบริหารจัดการ ด้านภาษาต่างประเทศ ภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน
“ความสำคัญของการทำตลาดเฉพาะ (นิชมาร์เก็ต) เช่น ตลาด คนพิการ ตลาดผู้สูงอายุ โดยภาครัฐ ต้องเป็นหน่วยงานที่ช่วงส่งเสริมภาคธุรกิจของไทย มีความพร้อมในการรองรับตลาดในทุกๆ กลุ่มที่มีศักยภาพ ควบคู่ไปกับการรักษาเอกำลักษณ์ความเป็นไทย การพัฒนาแรงงานไทย การปรับปรุงระบบฐานข้อมูล ทั้งจำนวนผู้ประกอบการ และ จำนวนนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ตลาดรองรับการเปิดเสรี ด้านการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม แรงงานของไทย ในระดับกลางและล่าง มีการเรียกร้องค่าจ้างแรงงานสูง เมื่อเทียบกับแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่คุณภาพยังไม่ถูกพัฒนาให้ดีกว่าของประเทศเพื่อนบ้านได้ ดังนั้น ถ้ามีการเปิดเสรี อนุญาตให้แรงงานต่างชาติเข้ามาประกอบอาชีพในไทยได้ แรงงานต่างชาติจะมาแทนที่แรงงานไทยระดับกลางและล่าง และมีผลทำให้แรงงานไทยกลุ่มนี้ตกงาน ไม่ได้ประโยชน์จากการเปิดเสรี เพราะจะไปประกอบอาชีพในต่างประเทศก็ไม่มีความสามารถมากพอ
