ASTVผู้จัดการรายวัน – เบียร์สิงห์ ลั่นกลองบุกธุรกิจนอนแอลกอฮอล์เต็มสูบรอบ 77ปี ดึงเอจีอาร์ ร่วมทุน 500 ล้านบาท ตั้งจัดบริษัทมหาสาน ลุยธุรกิจข้าวเสริมทัพ เท 300 ล้านบาท ผุดโรงงานย่านบางประกง ชี้กลุ่มนอนแอลกอฮอล์ เป็นธุรกิจเรือธงปีนี้โต 15%
นายสันต์ ภิรมย์ภักดี ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาดนอน-แอลกอฮอล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์สิงห์ กล่าวว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัท ต้องการขยายกลุ่มธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ภายใน 5 ปี มีรายได้เพิ่มจาก 11-12% เป็น 30% ส่วนแอลกอฮอล์เหลือเป็น 70%
โดยปีนี้ธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ จะเป็นกลุ่มที่ผลักดันให้รายได้รวมของบริษัทเติบโต 3% ด้วยการเติบโต 15% จากปีที่ผ่านมาผลประกอบการ 1 แสนล้านบาท โต 5-6% เนื่องจากปีนี้ตลาดเบียร์ 8-9 หมื่นล้านบาท ไม่เติบโตหรือโต 1-2% มาจากปัจจัยสภาพเศรษฐกิจปีนี้ และพรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ
ล่าสุดทำตลาดเชิงรุกกลุ่มธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ โดยร่วมทุนกับบริษัท เอเชีย โกลเด้น ไรซ์ จำกัด (AGR) ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของไทยที่มีปริมาณกว่า 1.5 ล้านตันหรือมีรายได้ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยส่งออก 60 ประเทศทั่วโลก จัดตั้งบริษัทมหาสาน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท สัดส่วน ถือหุ้น 50:50 ดำเนินธุรกิจอาหาร ข้าวบรรจุถุงแบรนด์”พันดี”
เป็นการขับเคลื่อนธุรกิจอาหารครั้งใหญ่ในรอบ 77 ปี เพราะตลาดข้าวเป็นตลาดใหญ่มีมูลค่าถึง 4 หมื่นล้านบาท และเติบโต 10-12% ต่อปี
บริษัทได้ทุ่มงบ 300 ล้านบาท สร้างโรงงานเพื่อผลิตข้าวที่ บางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา พื้นที่ 30ไร่ กำลังการผลิต 1,000 ตันต่อวัน โดยปีแรก จะเน้นทำตลาดในประเทศ ด้วยงบตลาด 150 ล้านบาท ผ่านช่องทางเทรดิชันนัลเทรด 70% ภายใต้เครือข่ายตัวแทนจำหน่ายของบุญรอด 290 รายทั่วประเทศเป็นผู้กระจายสินค้าให้ และโมเดิร์นเทรด 30% ส่วนปีหน้าวางแผนส่งออกข้าวพันดีไปยังตลาดต่างประเทศภายใต้เครือข่ายของกลุ่มธุรกิจเบียร์สิงห์ เบื้องต้นมองที่ งอเมริกา ยุโรป ฮ่องกง มาเลเซีย
เป้าหมายการทำธุรกิจข้าวพันดีตั้งเป้ามีรายได้ปีแรก 800-900 ล้านบาท หรือมียอดขาย 5 หมื่นตัน เติบโต 15-20% ต่อปี โดย 3 ปี จะเป็นอันดับ 2 หรือ 3 ของตลาดมีส่วนแบ่งกว่า 10% แทนที่มาบุญครองและหงส์ทอง ซึ่งมีส่วนแบ่ง 5-10% ส่วนผู้นำตลาด คือ ตราฉัตร มีส่วนแบ่ง 16%
ในอนาคต มีแผนที่จะเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ข้าวพันดีให้มีความหลากหลาย จากปัจจุบันมีขนาด 5 กก. และ 50 กก. และเตรียมพัฒนาสินค้ากลุ่มอาหารออกมาสู่ตลาด อาทิ น้ำมันรำข้าว ขณะที่กลุ่มสแนกแบรนด์ เอ็นจอย ปลาแผ่นทอดกรอบ ได้เลิกทำตลาดไปแล้ว
สำหรับผลประกอบการโดยรวมปีนี้กว่า 1 แสนล้านบาท เติบโต 3% แบ่งเป็น กลุ่มแอลกอฮอล์ 90% หรือกว่า 9 หมื่นล้านบาท โดยเบียร์ลีโอ มีส่วนแบ่ง 55% เบียร์สิงห์ 9-10% และนอนแอลกอฮอล์ 11-12% หรือมีรายได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท รายได้จากกลุ่มโซดา 6,000 ล้านบาท น้ำดื่ม 3,000-4,000 ล้านบาท บีอิ้ง 800 ล้านบาท และข้าวพันดี 800-900 ล้านบาท
นายสันต์ ภิรมย์ภักดี ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาดนอน-แอลกอฮอล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์สิงห์ กล่าวว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัท ต้องการขยายกลุ่มธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ภายใน 5 ปี มีรายได้เพิ่มจาก 11-12% เป็น 30% ส่วนแอลกอฮอล์เหลือเป็น 70%
โดยปีนี้ธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ จะเป็นกลุ่มที่ผลักดันให้รายได้รวมของบริษัทเติบโต 3% ด้วยการเติบโต 15% จากปีที่ผ่านมาผลประกอบการ 1 แสนล้านบาท โต 5-6% เนื่องจากปีนี้ตลาดเบียร์ 8-9 หมื่นล้านบาท ไม่เติบโตหรือโต 1-2% มาจากปัจจัยสภาพเศรษฐกิจปีนี้ และพรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ
ล่าสุดทำตลาดเชิงรุกกลุ่มธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ โดยร่วมทุนกับบริษัท เอเชีย โกลเด้น ไรซ์ จำกัด (AGR) ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของไทยที่มีปริมาณกว่า 1.5 ล้านตันหรือมีรายได้ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยส่งออก 60 ประเทศทั่วโลก จัดตั้งบริษัทมหาสาน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท สัดส่วน ถือหุ้น 50:50 ดำเนินธุรกิจอาหาร ข้าวบรรจุถุงแบรนด์”พันดี”
เป็นการขับเคลื่อนธุรกิจอาหารครั้งใหญ่ในรอบ 77 ปี เพราะตลาดข้าวเป็นตลาดใหญ่มีมูลค่าถึง 4 หมื่นล้านบาท และเติบโต 10-12% ต่อปี
บริษัทได้ทุ่มงบ 300 ล้านบาท สร้างโรงงานเพื่อผลิตข้าวที่ บางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา พื้นที่ 30ไร่ กำลังการผลิต 1,000 ตันต่อวัน โดยปีแรก จะเน้นทำตลาดในประเทศ ด้วยงบตลาด 150 ล้านบาท ผ่านช่องทางเทรดิชันนัลเทรด 70% ภายใต้เครือข่ายตัวแทนจำหน่ายของบุญรอด 290 รายทั่วประเทศเป็นผู้กระจายสินค้าให้ และโมเดิร์นเทรด 30% ส่วนปีหน้าวางแผนส่งออกข้าวพันดีไปยังตลาดต่างประเทศภายใต้เครือข่ายของกลุ่มธุรกิจเบียร์สิงห์ เบื้องต้นมองที่ งอเมริกา ยุโรป ฮ่องกง มาเลเซีย
เป้าหมายการทำธุรกิจข้าวพันดีตั้งเป้ามีรายได้ปีแรก 800-900 ล้านบาท หรือมียอดขาย 5 หมื่นตัน เติบโต 15-20% ต่อปี โดย 3 ปี จะเป็นอันดับ 2 หรือ 3 ของตลาดมีส่วนแบ่งกว่า 10% แทนที่มาบุญครองและหงส์ทอง ซึ่งมีส่วนแบ่ง 5-10% ส่วนผู้นำตลาด คือ ตราฉัตร มีส่วนแบ่ง 16%
ในอนาคต มีแผนที่จะเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ข้าวพันดีให้มีความหลากหลาย จากปัจจุบันมีขนาด 5 กก. และ 50 กก. และเตรียมพัฒนาสินค้ากลุ่มอาหารออกมาสู่ตลาด อาทิ น้ำมันรำข้าว ขณะที่กลุ่มสแนกแบรนด์ เอ็นจอย ปลาแผ่นทอดกรอบ ได้เลิกทำตลาดไปแล้ว
สำหรับผลประกอบการโดยรวมปีนี้กว่า 1 แสนล้านบาท เติบโต 3% แบ่งเป็น กลุ่มแอลกอฮอล์ 90% หรือกว่า 9 หมื่นล้านบาท โดยเบียร์ลีโอ มีส่วนแบ่ง 55% เบียร์สิงห์ 9-10% และนอนแอลกอฮอล์ 11-12% หรือมีรายได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท รายได้จากกลุ่มโซดา 6,000 ล้านบาท น้ำดื่ม 3,000-4,000 ล้านบาท บีอิ้ง 800 ล้านบาท และข้าวพันดี 800-900 ล้านบาท