ดุสิต เปิดวิทยาลัย ดุสิตวิทยาเขต เมืองพัทยา ตั้งเป็นฐาน พัฒนาบุคคลากรท่องเที่ยว ภาคตะวันออก รับเปิดเสรีอาเซียน ตั้งเป้าปีแรกนักเรียน 200 คน
นายชนินทธ์ โทณวณิก กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับงานด้านการพัฒนาบุคคลากรด้านการท่องเที่ยวสำหรับเตรียมพร้อมในเวทีการแข่งขันและประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะเริ่มต้นในปี 2558 ล่าสุดจึงได้ลงทุนกว่า 120 ล้านบาท เปิดวิทยาลัยดุสิตธานี วิทยาเขต เมืองพัทยาซึ่งจะเปิดให้บริการรับนักศึกษาในเดือน มิ.ย. 2554
ทั้งนี้วิทยาลัยดังกล่าว เป็นสาขาที่ 2 จากสาขาแรกที่เปิดบนถนนศรีนครินทร์ กรุงเทพฯไปเมื่อปี 2536 โดยสาเหตุที่เลือกเมืองพัทยาเพราะ เป็นพื้นที่ตั้งของโรงแรมจำนวนมากกว่า 600 โรง ทั้งของผู้ประกอบการคนไทยและเชนโรงแรมจากต่างประเทศ รวมถึงมีโรงแรมในกลุ่มของดุสิตธานี 2 แห่ง คือ ดุสิตธานี พัทยา และ ดุสิต ดี2 และเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญลำดับต้นๆของประเทศไทย ตั้งเป้าปีแรก มีนักศึกษา ราว 200 คน
น.ส.วิไลรัตน์ สุรเนารัตน์ ผู้ช่วยผู้จัดการสื่อสารการตลาด แผนกการตลาดและประชาสัมพันธ์ วิทยาลัย ดุสิตธานี กล่าวว่า วิทยาลัยดุสิตธานี วิทยาเขต เมืองพัทยา จะเริ่มเปิดสอนตั้งแต่ปีการศึกษา 2554 ระยะแรกจะแบ่งเป้าหมายเป็น 2 ส่วน สอนภาษาไทย และ 2 ภาษา คือ 1. หลักสูตรปริญญาตรี เริ่ม 3 สาขา คือ ธุรกิจการบริหารงานในโรงแรมและรีสอร์ท,บริหารธุรกิจสาขาศิลปะการปรุงอาหารและห้องครัวการจัดการ และ การบริหารงานธุรกิจการจัดการท่องเที่ยว 2.หลักสูตรระยะสั้นต่างๆ พร้อมประกาศนียบัตรและหลักสูตรการฝึกอบรมเฉพาะสำหรับผู้บริหารและบุคคลากรที่มีอยู่แล้วในอุตสาหกรรม รวมถึงผู้บุคคลทั่วไปที่ อบรม 3 เดือนราคาเริ่มต้นที่ 39,000 บาท
สำหรับหลักสูตรระยะสั้น จะเป็นจุดขายสำคัญ ที่จะใช้เปิดตลาดเพราะในพื้นที่ดังกล่าว มีแรงงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจำนวนมาก ไม่มีเวลามากพอที่จะเรียนระยะยาวถึงหลักสูตรปริญญาตรี ประเมินเบื้องต้นว่า เฉพาะแรงงานที่อยู่ในธุรกิจโรงแรม เมืองพัทยา จะมีประมาณ 3 หมื่นคน จากกว่า 600 โรแงรม คิดเป็นจำนวนห้องกว่า 1 หมื่นห้อง ซึ่งหลักสูตรระยะสั้น จะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติม
สำหรับแผนงานระยะยาว จะเน้นเดินสายประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ โดยเข้าไปยังสถานศึกษา ฝ่ายแนะแนว เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่นักเรียน ที่กำลังมองหาสถานที่ศึกษาระดับปริญญาตรี โดยจะนำเสนอเรื่องความสำคัญของธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ความต้องการแรงงานด้านนี้ และความสำคัญของวิชาชีพ เพื่อลบภาพลักษณ์ เดิมๆ ในอดีต ที่บางคนอาจมองว่างานบริการเป็นอาชีพไม่มีเกียรติหรือศักดิ์ศรี ประกอบกับ นโยบายภาครัฐ ที่สนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ข่าวความเคลื่อไหวเรื่องการเปิดเสรีบริการท่องเที่ยว ทำให้ตลาดมีความเข้าใจและสนใจวิชาชีพงานบริการเพิ่มมากขึ้น
นายชนินทธ์ โทณวณิก กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับงานด้านการพัฒนาบุคคลากรด้านการท่องเที่ยวสำหรับเตรียมพร้อมในเวทีการแข่งขันและประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะเริ่มต้นในปี 2558 ล่าสุดจึงได้ลงทุนกว่า 120 ล้านบาท เปิดวิทยาลัยดุสิตธานี วิทยาเขต เมืองพัทยาซึ่งจะเปิดให้บริการรับนักศึกษาในเดือน มิ.ย. 2554
ทั้งนี้วิทยาลัยดังกล่าว เป็นสาขาที่ 2 จากสาขาแรกที่เปิดบนถนนศรีนครินทร์ กรุงเทพฯไปเมื่อปี 2536 โดยสาเหตุที่เลือกเมืองพัทยาเพราะ เป็นพื้นที่ตั้งของโรงแรมจำนวนมากกว่า 600 โรง ทั้งของผู้ประกอบการคนไทยและเชนโรงแรมจากต่างประเทศ รวมถึงมีโรงแรมในกลุ่มของดุสิตธานี 2 แห่ง คือ ดุสิตธานี พัทยา และ ดุสิต ดี2 และเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญลำดับต้นๆของประเทศไทย ตั้งเป้าปีแรก มีนักศึกษา ราว 200 คน
น.ส.วิไลรัตน์ สุรเนารัตน์ ผู้ช่วยผู้จัดการสื่อสารการตลาด แผนกการตลาดและประชาสัมพันธ์ วิทยาลัย ดุสิตธานี กล่าวว่า วิทยาลัยดุสิตธานี วิทยาเขต เมืองพัทยา จะเริ่มเปิดสอนตั้งแต่ปีการศึกษา 2554 ระยะแรกจะแบ่งเป้าหมายเป็น 2 ส่วน สอนภาษาไทย และ 2 ภาษา คือ 1. หลักสูตรปริญญาตรี เริ่ม 3 สาขา คือ ธุรกิจการบริหารงานในโรงแรมและรีสอร์ท,บริหารธุรกิจสาขาศิลปะการปรุงอาหารและห้องครัวการจัดการ และ การบริหารงานธุรกิจการจัดการท่องเที่ยว 2.หลักสูตรระยะสั้นต่างๆ พร้อมประกาศนียบัตรและหลักสูตรการฝึกอบรมเฉพาะสำหรับผู้บริหารและบุคคลากรที่มีอยู่แล้วในอุตสาหกรรม รวมถึงผู้บุคคลทั่วไปที่ อบรม 3 เดือนราคาเริ่มต้นที่ 39,000 บาท
สำหรับหลักสูตรระยะสั้น จะเป็นจุดขายสำคัญ ที่จะใช้เปิดตลาดเพราะในพื้นที่ดังกล่าว มีแรงงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจำนวนมาก ไม่มีเวลามากพอที่จะเรียนระยะยาวถึงหลักสูตรปริญญาตรี ประเมินเบื้องต้นว่า เฉพาะแรงงานที่อยู่ในธุรกิจโรงแรม เมืองพัทยา จะมีประมาณ 3 หมื่นคน จากกว่า 600 โรแงรม คิดเป็นจำนวนห้องกว่า 1 หมื่นห้อง ซึ่งหลักสูตรระยะสั้น จะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติม
สำหรับแผนงานระยะยาว จะเน้นเดินสายประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ โดยเข้าไปยังสถานศึกษา ฝ่ายแนะแนว เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่นักเรียน ที่กำลังมองหาสถานที่ศึกษาระดับปริญญาตรี โดยจะนำเสนอเรื่องความสำคัญของธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ความต้องการแรงงานด้านนี้ และความสำคัญของวิชาชีพ เพื่อลบภาพลักษณ์ เดิมๆ ในอดีต ที่บางคนอาจมองว่างานบริการเป็นอาชีพไม่มีเกียรติหรือศักดิ์ศรี ประกอบกับ นโยบายภาครัฐ ที่สนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ข่าวความเคลื่อไหวเรื่องการเปิดเสรีบริการท่องเที่ยว ทำให้ตลาดมีความเข้าใจและสนใจวิชาชีพงานบริการเพิ่มมากขึ้น
