วานนี้(21 ก.พ.)ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความคืบหน้าที่นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยและส.ว.เข้าชื่อขอให้ศาลพิจารณาร่างดังกล่าวไม่ชอบด้วยข้อบังคับการประชุมรัฐสภาตามมาตรา 125 และ 134 ของรัฐธรรมนูญ ว่า ทางสำนักงานได้นำเรื่องดังกล่าวบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ โดยเบื้องต้นคณะตุลาการจะพิจารณาก่อนว่าจะรับหรือไม่รับวินิจฉัยคำร้องดังกล่าวไว้วินิจฉัยหรือไม่
วันเดียวกันนายเศวต ทินกูล อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 50 ตัวแทนเครือข่ายอีสานกู้ชาติ กล่าวภายหลังเข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญระงับการพิจารณาความชั่วคราวโดยเฉพาะกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องของสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ขอให้วินิจฉัยว่าการร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 190 และร่างแก้ไขมาตรา 93-98 ขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภามาตรา 86 หรือไม่ โดยระบุว่า รัฐธรรมนูญบัญญัติให้การพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะต้องตราให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ แต่จนถึงขณะนี้เวลาล่วงมากว่า 3 ปีเศษ แล้ว พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ยังตราไม่แล้วเสร็จ จึงเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจพิจารณาความและวินิจฉัยคำร้องดังกล่าวรวมทั้ง คดีหรือ คำร้อง ใดๆ เพราะถือเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และเป็นการกระทำความผิดกฎหมายอาญาหลายบท
“ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 216 วรรค5 บัญญัติให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นเด็ดขาด ผูกพันทุกองค์กร ดังนั้นคณะตุลาการฯต้องตระหนักไว้ให้มากว่าการที่ยังคงใช้ข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญูที่มีอยู่เดิมในการพิจารณาคดีต่างๆ ย่อมมีผลให้เรื่องต่างๆ ที่พิจารณากลายเป็นโมฆะ และถ้าหากคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยังดึงดันไม่ระงับการพิจารณาคดีใดไว้ก่อน หรือไม่ยอมหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยจะยังคงพิจารณาคำร้องแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งมา ทางเครือข่ายก็จะไปแจ้งความเอาผิดต่อกองปราบปรามทันที”นายเศวตกล่าว
วันเดียวกันนายเศวต ทินกูล อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 50 ตัวแทนเครือข่ายอีสานกู้ชาติ กล่าวภายหลังเข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญระงับการพิจารณาความชั่วคราวโดยเฉพาะกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องของสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ขอให้วินิจฉัยว่าการร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 190 และร่างแก้ไขมาตรา 93-98 ขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภามาตรา 86 หรือไม่ โดยระบุว่า รัฐธรรมนูญบัญญัติให้การพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะต้องตราให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ แต่จนถึงขณะนี้เวลาล่วงมากว่า 3 ปีเศษ แล้ว พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ยังตราไม่แล้วเสร็จ จึงเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจพิจารณาความและวินิจฉัยคำร้องดังกล่าวรวมทั้ง คดีหรือ คำร้อง ใดๆ เพราะถือเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และเป็นการกระทำความผิดกฎหมายอาญาหลายบท
“ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 216 วรรค5 บัญญัติให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นเด็ดขาด ผูกพันทุกองค์กร ดังนั้นคณะตุลาการฯต้องตระหนักไว้ให้มากว่าการที่ยังคงใช้ข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญูที่มีอยู่เดิมในการพิจารณาคดีต่างๆ ย่อมมีผลให้เรื่องต่างๆ ที่พิจารณากลายเป็นโมฆะ และถ้าหากคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยังดึงดันไม่ระงับการพิจารณาคดีใดไว้ก่อน หรือไม่ยอมหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยจะยังคงพิจารณาคำร้องแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งมา ทางเครือข่ายก็จะไปแจ้งความเอาผิดต่อกองปราบปรามทันที”นายเศวตกล่าว