xs
xsm
sm
md
lg

ฝรั่งซื้อ6พันล.หุ้นจ่อ1,000จุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – หุ้นไทยบวกต่อเนื่อง ปรับเพิ่มอีก 13 จุด ต่างชาติซื้อสุทธิล็อตใหญ่ 6.2 พันล้าน โบรกฯมองเริ่มมีสัญญาเม็ดไหลกลับ แต่คาดเป็นการเข้าเก็งกำไรในผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี มองสัปดาห์หน้ามีลุ้นเห็น1,000 จุดอีกครั้ง แต่แนะระวังแรงเทขายหลังขึ้นแรง ส่วนSet50 Futures ควรมองถึงการปิดสถานะLong
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวานนี้ (17ก.พ.) ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยปิดที่ระดับ 995.57 จุด เพิ่มขึ้น 13.50 จุด หรือ 1.37% มูลค่าการซื้อขาย 32,994.11 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีแตะจุดสูงสุด 995.93 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 987.30 จุด ถือเป็นสัญญาณว่านักลงทุนต่างประเทศ เริ่มหันกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้มีการโยกย้ายเงินลงทุนบ้างส่วนออกไป
โดยเมื่อพิจารณาจากการซื้อขายสุทธิพบว่า นักลงทุนประเทศซื้อสุทธิสูงถึง 6,277.28 ล้านบาท ตามมาด้วยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่ซื้อสุทธิ 211.69 ล้านบาท ขณะที่สถาบัน และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 1,207.54 ล้านบาท และ 5,281.43 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับเม็ดเงินลงทุนที่ไหลกลับเข้ามา คาดว่าส่วนหนึ่งน่าจะเป็นการเข้ามาเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ที่กำลังทยอยประกาศออกมาในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ยังมีอยู่สูงต่อเนื่องจากวันก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 282 หลักทรัพย์ ลดลง 113 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 130 หลักทรัพย์ ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,175.10 ล้านบาท ปิดที่ 760.00 บาท เพิ่มขึ้น 20.00 บาท , PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,040.82 ล้านบาท ปิดที่ 334.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท , KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,637.21 ล้านบาท ปิดที่ 118.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท , PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 1,593.28 ล้านบาท ปิดที่ 40.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท และ TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,522.44 ล้านบาท ปิดที่ 74.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
ส่วนความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค พบว่า ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดบวก 8.20 จุด แตะ 4,938.4 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนส.ค.2551 , ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวก 28.35 จุด หรือ 0.26% แตะที่ 10,836.64 จุด ,ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวก 3.07 จุด หรือ 0.1% ปิดที่ 2,926.96 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นอ่อนตัว 96.54 จุด หรือ 0.75% ปิดที่ 12,788.34 จุด และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวสูงขึ้น 144.87 จุด หรือ 0.63% ปิดที่ 23,301.84 จุด
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิจัย บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงวานนี้ปรับตัวขึ้นกว่า 10 จุด คาดว่าจะได้รับแรงซื้อกลับจากนักลงทุนต่างชาติ และบรรดากองทุนต่าง ๆ โดยมีการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจที่จะออกมาดี โดยเฉพาะตัวเลข GDP มีการมองกันว่าจะออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯด้วย โดยเห็นว่าดัชนีได้รับแรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มพลังงานเป็นหลัก ซึ่งได้รับผลบวกจากปัญหาตะวันออกกลาง ทำให้ราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง อีกทั้งกลุ่ม ปตท.มีประเด็นที่ยังเล่นเก็งกำไรได้จากเรื่องการควบรวมกิจการภายในกลุ่ม นอกจากนี้ ราคาหุ้นหลายตัวในตลาดก็ปรับตัวลงมาค่อนข้ามากในช่วงก่อนหน้านี้
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้น โดยน่าจะมาจากเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้ามาลงทุนในภูมิภาคอีกครั้ง จากก่อนหน้านี้ที่มีแรงขายออกมาค่อนข้างมากตั้งแต่ช่วงสิ้นปีที่แล้ว โดยช่วงนี้เป็นการเข้ามาเล่นเก็งกำไรเรื่องของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยประกาศออกมาในแต่ละประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องติดตาม ทั้งเหตุการณ์ในตะวันออกกลาง การเมืองในประเทศ และปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นก็จะส่งผลต่อตลาดฯด้วยเช่นกัน รวมถึงปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ ที่ถือเป็นประเด็นสำคัญที่กดดันตลาดหุ้นในเอเชีย หลังธนาคารกลางของแต่ละประเทศเริ่มมีนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น
ดังนั้น แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า คาดว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้น แต่ก็อาจมีแรงขายออกมาได้เช่นกัน เนื่องจากยังมีปัจจัยที่กดดันอยู่ โดยแนะนำให้ติดตามการประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศจี-20 ในช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมให้แนวรับ 990 จุด แนวต้าน 1,000 จุด ภาพรวมน่าจะทะลุ1,000นจุดได้ในสัปดาห์หน้า แต่เมื่อดัชนีฯปรับตัวขึ้น ก็อาจมีแรงขายออกมาได้เหมือนกัน
นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)กล่าวว่า Set50 Futures ปรับตัวขึ้นแรงจากต่างชาติที่เข้ามาซื้อสุทธิในระดับ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อตลาดมากขึ้นว่านักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุน เห็นได้จากช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาที่มีแรงซื้อจากต่างชาติในระดับ 2,000-3,000 ล้านบาท ขณะที่ปัจจัยความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอียิปต์และปัญหาเงินเฟ้อของจีนคลี่คลายลง
ทำให้มองว่า ช่วงสั้นตลาดยังแก่งตัวในด้านข้าง ซึ่งดัชนียังติดแนวต้านหลักที่ 965 จุด ดังนั้นการลงทุนใน Set50 Futures ช่วงนี้ หากดัชนีปรับขึ้นที่ระดับแนวต้านให้รอปิดสถานะ long ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น