แอมเวย์ทั่วโลกเติบโต 15% ชี้ตลาดเอเชียมาแรง เผยไทยมีลุ้นแซงเกาหลีใต้เบียดขึ้นอันดับที่ 4 แทนในอีก 3 ปี บริษัทแม่เล็งลงทุนจีนเพิ่มศักยภาพรองรับตลาดดาวรุ่งเอเชีย
นายจิม เพย์น รองประธานบริหาร แอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น และอดีตกรรมการผู้จัดการคนแรก ของบริษัท แอมเวย์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายของแอมเวย์ทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว (2553) มีมูลค่ากว่า 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 15% จากนักธุรกิจแอมเวย์ทั่วโลก 3 ล้านคน โดยสัดส่วนมาจากอเมริกา 10% ส่วนอีก 90% มาจากทั่วโลก
ทั้งนี้แอมเวย์มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 9.3% ในปี 2007 เพิ่มเป็น 11% ในปีที่แล้ว จากตลาดขายตรงทั่วโลก โดยยอดขายทั่วโลกแบ่งตามสัดส่วน มาจากแบรนด์นิวทริไลต์ 47% อาร์ทิสทรี 16% กลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน 8.4% ผลิตภัณฑ์ส่วนตัว 11% และที่เหลืออื่นๆ
โดยตลาดในอเมริกากลางและใต้เป็นตลาดที่เติบโตสูงที่สุด แต่ว่าเอเชียเป็นตลาดใหญ่ที่สุด ซึ่งมีสัดส่วนรายได้มากกว่า 72% จากรายได้รวม โดยมีจีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุด รองลงมาคือญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ เกาหลีใต้ และไทย อันดับที่ห้า ด้วยยอดขายรวมในไทยปีที่แล้วกว่า 14,370 ล้านบาท เติบโต 15%
ในช่วง 3 ปีนี้แอมเวย์ยังไม่มีแผนจะขยายตลาดใหม่ๆ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นอาจจะพิจารณาตลาดแอฟริกาใต้ เนื่องจากว่า ปัจจุบันนี้มีในกว่า 80 ประเทศ ซึ่งก็สามารถครอบคลุมตลาดมากกว่า 80% แล้ว โดยจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับตลาดเดิม โดยเฉพาะตลาดในเอเชีย ซึ่งมีจีนเป็นตลาดหลัก โดยที่มีแผนจะสนับสนุนวงเงินการลงทุนในจีนมากขึ้นทั้งการพัฒนาสินค้าและการสร้างบุคลากร เพื่อรองรับตลาดเอเชียด้วยที่จะกลายเป็นตลาดเออีซีในอนาคต ซึ่งอีก 2 ปีจะเปิดตัวสินค้าดูแลน้ำหนัก เสริมอาหารในกลุ่มนิวทริไลต์ เพื่อรองรับตลาดเอเชียโดยเฉพาะ
สำหรับตลาดของแอมเวย์ในไทยนั้น เขามองว่า อีกประมาณ 3 ปีมีโอกาสที่จะแซงหน้าตลาดแอมเวย์เกาหลีใต้ได้ ขึ้นมาเป็นอันดับที่สี่ได้ เนื่องจากว่ามีประชากรมากกว่า 65 ล้านคน จากยอดขายกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตเฉลี่ย 6-9% คาดว่าปี 2556 จะมียอดขายถึง 600 ล้านเหรียญสหรัฐได้ ขณะที่เกาหลีนั้นมีประชากรน้อยกว่าเพียง 40 ล้านคน มีรายได้รวม 700 ล้านเหรียญก็ตาม เติบโตเฉลี่ย 5-10%ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
“ประเทศไทยเป็นตลาดที่เจิดจรัสมากของแอมเวย์ ธุรกิจไปได้ดีมาก แม้ว่าที่ผ่านมาภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองที่วิกฤตก็ตาม แต่แอมเวย์ก็ยังแข็งแกร่งและเติบโตเรื่อยๆ”
นายปรีชา ประกอบกิจ กรรมการผู้จัดการ แอมเวย์ ประเทศไทย กล่าวว่า แม้ว่าประเทศไทยจะยังมีปัญหาเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจ แต่ว่าแอมเวย์มักจะมองในแง่ของการสร้างโอกาสมากกว่า ที่จะมองในเรื่องของปัญหาและความน่าเป็นห่วง เพราะเราควบคุมอะไรไม่ได้ แต่ว่าในเชิงธุรกิจของเราเราสามารถควบคุมได้
ทั้งนี้ยอดขายปีที่แล้วของแอมเวย์ไทยมีประมาณ 439 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 14,370 ล้านบาท เติบโต 8% และในช่วง 24 ปีที่ดำเนินกิจการในไทย จ่ายผลตอบแทนให้กับนักธุรกิจแอมเวย์ไปแล้วรวม 37,030 ล้านบาท โดยปัจจุบันแอมเวย์มีนักธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจจริงจัง 320,000 รหัส มีสมาชิกที่สมัครเพื่อใช้สินค้าแอมเวย์ 700,000 รหัส
ไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากสำหรับแอมเวย์ ซึ่งจากการรับรู้แบรนด์มากกว่า 98% มีผลดีเป็นอย่างมาก ที่จะทำให้อัตราการครอบครองสินค้าแอมเวย์เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้สัดส่วนยอดขายมาจาก กรุงเทพฯ 55% และต่างจังหวัด 45% และคาดว่จะอยู่ในเกณฑ์นี้ต่อไป แม้ว่าปีนี้จะลงทุนขยายแอมเวย์ชอป 10 สาขา อยู่ในต่างจังหวัดถึง 9 แห่งก็ตาม และในกรุงเทพฯ 1 แห่ง ที่สยามดิสคัฟเวอรี่
กลยุทธ์หลักๆปีนี้จะมุ่งไปที่ความต้องการของลูกค้ามาใช้ในการสร้างอาชีพนักธุรกิจแอมเวย์ให้มีศักยภาพทุกด้าน โดยจัดกิจกรรมให้ตรงกับความต้องการของแต่ละกลุ่มมากขึ้น ล่าสุดใช้งบ 60 ล้านบาท จัดงานการประชุมแอมเวย์เอ็กซ์โประดับชาติ 2554 ครั้งที่ 23 ในไทย วันที่ 19-20 ก.พ.นี้ที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี คาดว่าจะมีนักธุรกิจแอมเวย์และผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 100,000 คน
นายจิม เพย์น รองประธานบริหาร แอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น และอดีตกรรมการผู้จัดการคนแรก ของบริษัท แอมเวย์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายของแอมเวย์ทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว (2553) มีมูลค่ากว่า 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 15% จากนักธุรกิจแอมเวย์ทั่วโลก 3 ล้านคน โดยสัดส่วนมาจากอเมริกา 10% ส่วนอีก 90% มาจากทั่วโลก
ทั้งนี้แอมเวย์มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 9.3% ในปี 2007 เพิ่มเป็น 11% ในปีที่แล้ว จากตลาดขายตรงทั่วโลก โดยยอดขายทั่วโลกแบ่งตามสัดส่วน มาจากแบรนด์นิวทริไลต์ 47% อาร์ทิสทรี 16% กลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน 8.4% ผลิตภัณฑ์ส่วนตัว 11% และที่เหลืออื่นๆ
โดยตลาดในอเมริกากลางและใต้เป็นตลาดที่เติบโตสูงที่สุด แต่ว่าเอเชียเป็นตลาดใหญ่ที่สุด ซึ่งมีสัดส่วนรายได้มากกว่า 72% จากรายได้รวม โดยมีจีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุด รองลงมาคือญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ เกาหลีใต้ และไทย อันดับที่ห้า ด้วยยอดขายรวมในไทยปีที่แล้วกว่า 14,370 ล้านบาท เติบโต 15%
ในช่วง 3 ปีนี้แอมเวย์ยังไม่มีแผนจะขยายตลาดใหม่ๆ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นอาจจะพิจารณาตลาดแอฟริกาใต้ เนื่องจากว่า ปัจจุบันนี้มีในกว่า 80 ประเทศ ซึ่งก็สามารถครอบคลุมตลาดมากกว่า 80% แล้ว โดยจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับตลาดเดิม โดยเฉพาะตลาดในเอเชีย ซึ่งมีจีนเป็นตลาดหลัก โดยที่มีแผนจะสนับสนุนวงเงินการลงทุนในจีนมากขึ้นทั้งการพัฒนาสินค้าและการสร้างบุคลากร เพื่อรองรับตลาดเอเชียด้วยที่จะกลายเป็นตลาดเออีซีในอนาคต ซึ่งอีก 2 ปีจะเปิดตัวสินค้าดูแลน้ำหนัก เสริมอาหารในกลุ่มนิวทริไลต์ เพื่อรองรับตลาดเอเชียโดยเฉพาะ
สำหรับตลาดของแอมเวย์ในไทยนั้น เขามองว่า อีกประมาณ 3 ปีมีโอกาสที่จะแซงหน้าตลาดแอมเวย์เกาหลีใต้ได้ ขึ้นมาเป็นอันดับที่สี่ได้ เนื่องจากว่ามีประชากรมากกว่า 65 ล้านคน จากยอดขายกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตเฉลี่ย 6-9% คาดว่าปี 2556 จะมียอดขายถึง 600 ล้านเหรียญสหรัฐได้ ขณะที่เกาหลีนั้นมีประชากรน้อยกว่าเพียง 40 ล้านคน มีรายได้รวม 700 ล้านเหรียญก็ตาม เติบโตเฉลี่ย 5-10%ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
“ประเทศไทยเป็นตลาดที่เจิดจรัสมากของแอมเวย์ ธุรกิจไปได้ดีมาก แม้ว่าที่ผ่านมาภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองที่วิกฤตก็ตาม แต่แอมเวย์ก็ยังแข็งแกร่งและเติบโตเรื่อยๆ”
นายปรีชา ประกอบกิจ กรรมการผู้จัดการ แอมเวย์ ประเทศไทย กล่าวว่า แม้ว่าประเทศไทยจะยังมีปัญหาเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจ แต่ว่าแอมเวย์มักจะมองในแง่ของการสร้างโอกาสมากกว่า ที่จะมองในเรื่องของปัญหาและความน่าเป็นห่วง เพราะเราควบคุมอะไรไม่ได้ แต่ว่าในเชิงธุรกิจของเราเราสามารถควบคุมได้
ทั้งนี้ยอดขายปีที่แล้วของแอมเวย์ไทยมีประมาณ 439 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 14,370 ล้านบาท เติบโต 8% และในช่วง 24 ปีที่ดำเนินกิจการในไทย จ่ายผลตอบแทนให้กับนักธุรกิจแอมเวย์ไปแล้วรวม 37,030 ล้านบาท โดยปัจจุบันแอมเวย์มีนักธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจจริงจัง 320,000 รหัส มีสมาชิกที่สมัครเพื่อใช้สินค้าแอมเวย์ 700,000 รหัส
ไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากสำหรับแอมเวย์ ซึ่งจากการรับรู้แบรนด์มากกว่า 98% มีผลดีเป็นอย่างมาก ที่จะทำให้อัตราการครอบครองสินค้าแอมเวย์เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้สัดส่วนยอดขายมาจาก กรุงเทพฯ 55% และต่างจังหวัด 45% และคาดว่จะอยู่ในเกณฑ์นี้ต่อไป แม้ว่าปีนี้จะลงทุนขยายแอมเวย์ชอป 10 สาขา อยู่ในต่างจังหวัดถึง 9 แห่งก็ตาม และในกรุงเทพฯ 1 แห่ง ที่สยามดิสคัฟเวอรี่
กลยุทธ์หลักๆปีนี้จะมุ่งไปที่ความต้องการของลูกค้ามาใช้ในการสร้างอาชีพนักธุรกิจแอมเวย์ให้มีศักยภาพทุกด้าน โดยจัดกิจกรรมให้ตรงกับความต้องการของแต่ละกลุ่มมากขึ้น ล่าสุดใช้งบ 60 ล้านบาท จัดงานการประชุมแอมเวย์เอ็กซ์โประดับชาติ 2554 ครั้งที่ 23 ในไทย วันที่ 19-20 ก.พ.นี้ที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี คาดว่าจะมีนักธุรกิจแอมเวย์และผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 100,000 คน