ASTVผู้จัดการรายวัน - กสท อัดงบ 300 ล้านบาทเสริมศักยภาพการให้บริการโทร.ต่างประเทศด้วยโครงข่าย NGN พร้อมลงทุนปีนี้อีก 200 กว่าล้านบาทใช้ระบบไอทีปรับปรุงชุมสายภายในประเทศรวมถึงสนับสนุนระบบ CRM มั่นใจ NGN สร้างรายได้เพิ่มอีก 100 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมโทร.ต่างประเทศปีนี้ยังตั้งไว้ที่ 5 พันกว่าล้านบาท
นางสาวธันวดี วงศ์ธีรฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวถึงผลดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศของ กสท รอบปี 2553 ว่า กสท สามารถสร้างรายได้จากธุรกิจกลุ่มนี้ 5,026 ล้านบาท ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาดจากเป้าที่ตั้งไว้ 5,000 ล้านบาท อีกทั้งยังมีส่วนแบ่งการตลาดโทรศัพท์ต่างประเทศมากกว่าผู้ประกอบการรายอื่นแม้จะมีการแข่งขันที่รุนแรง
ทั้งนี้การที่ลูกค้าวางใจและใช้บริการโทรศัพท์ต่างประเทศของ กสท อย่างต่อเนื่องแม้จะมีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เพิ่มขึ้นรวมทั้งมีบริการทดแทนที่หลากหลายซึ่งเกิดจากการพัฒนาเทคโนโลยี เนื่องจากลูกค้ามั่นใจในคุณภาพบริการซึ่ง กสท มีระบบโครงข่ายระหว่างประเทศที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด มีความใส่ใจในการพัฒนา และนำเสนอบริการใหม่ๆ ที่ได้มาตรฐานพร้อมทั้งตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าองค์กรหรือกลุ่มลูกค้าบุคคล ซึ่งพิสูจน์ได้จากการที่ CAT 001 ได้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น (SOE Award) ปี 2553 ประเภทการให้บริการดีเด่น
สำหรับการแข่งขันของตลาดโทรศัพท์ระหว่างประเทศปี 2554 ยังคงมีการแข่งขันรุนแรงรวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าจึงมีทางเลือกในการติดต่อหรือโทรศัพท์ต่างประเทศหลากหลายมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการในตลาดกำหนดกลยุทธ์ทั้งเรื่องบริการและการตลาดเพื่อแข่งขันกันในรูปแบบต่างๆแต่ที่ชัดเจนยังเป็นเรื่องการแข่งขันด้านราคาและการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ที่มีศักยภาพมากขึ้น
ทั้งนี้กสท ได้พัฒนาระบบโทรศัพท์จากรูปแบบเดิมไปสู่ระบบที่ผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานในลักษณะมัลติมีเดียเซอร์วิสตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคโซเชียล มีเดีย ขณะเดียวกันยังคงให้บริการด้วยราคาที่ประหยัดและสมเหตุสมผล ด้วยบริการ VoIP ผ่านโครงข่ายโทรคมนาคมยุคใหม่ หรือ Next Generation Network (NGN) ที่ใช้งบประมาณการพัฒนาระบบกว่า 300 ล้านบาทมาให้บริการเต็มรูปแบบ
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบเพื่อให้บริการมีความสมบูรณ์ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต สะดวกสบายและมีฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากโทร.พื้นฐาน เช่น บริการฝากข้อความแบบวิดีโอหรืออีเมล บริการรับ-ส่งข้อความและไฟล์ไปยังโทรศัพท์มือถือ บริการประชุมแบบมัลติมีเดีย โดยไม่จำกัดประเภทของโครงข่ายไอพีหรืออินเทอร์เน็ตที่ใช้ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานที่เป็นองค์กรก็ไม่ต้องลงทุนเพิ่มในการจัดหาระบบใหม่ เพราะสามารถใช้บริการได้เสมือนมีระบบเป็นของตนเอง โดยใช้บริการในลักษณะ Virtual หรือ Hosted ได้
นอกจากนี้ กสท ยังใช้งบอีกประมาณ 200 กว่าล้านบาทในการปรับปรุงชุมสายภายในประเทศพร้อมใช้ไอทีสนับสนุนระบบ CRM ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน กสท ยังมุ่งเน้นการพัฒนาบริการโทร.ผ่านอินเทอร์เน็ตที่มีอยู่แล้ว เช่น CAT2call plus prepaid, CAT SIP-connect และ CAT hosted PBX ให้สามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการที่หลากหลายทั้งกลุ่มบุคคลและองค์กร
นางสาวธันวดี กล่าวถึงกิจกรรมทางการตลาดในปีนี้ว่า กสท ได้จัดกิจกรรม ส่งเสริมการขาย CAT 009 ด้วยการลดค่าโทร.เหลือนาทีละ 3 บาท สำหรับผู้ที่โทร.ไป 9 ประเทศปลายทาง ได้แก่ อเมริกา แคนาดา จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ฮาวาย กวม อะแลสกา และมิดเวย์/เวค โดยโปรโมชันนี้ใช้ได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้และกสท ยังได้เตรียมจัดกิจกรรมอีกหลายรูปแบบ เช่น กิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า รวมทั้งกิจกรรมผ่านทางโซเชียล เน็ตเวิร์กในชื่อ CAT voice ที่มีเรื่องราวมาอัปเดตทั้งเทคโนโลยี เกร็ดความรู้ ความเคลื่อนไหวในต่างประเทศ และกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย
'เชื่อว่ารายได้รวมปีนี้จะยังรักษาระดับ 5 พันล้านบาทไว้ได้ โดย NGN จะทำรายได้ถึง 100 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาบริการ VoIP ทำได้ 50 ล้านบาทของรายได้รวมทั้งหมดของธุรกิจกลุ่มนี้'
สำหรับบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศที่สร้างรายได้ 5 พันกว่าล้านบาท ถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่ทำรายได้อันดับ 2 รองจากบริการสื่อสารข้อมูลของ กสท ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 7-8 พันล้านบาทของรายได้รวมของ กสท ทั้งหมด ส่วนมูลค่ารวมของบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 9.5 พันล้านบาท หรือโตขึ้นประมาณ 4% ที่โตน้อยเพราะค่าบริการลดลงแต่จำนวนผู้ใช้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
นางสาวธันวดี วงศ์ธีรฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวถึงผลดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศของ กสท รอบปี 2553 ว่า กสท สามารถสร้างรายได้จากธุรกิจกลุ่มนี้ 5,026 ล้านบาท ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาดจากเป้าที่ตั้งไว้ 5,000 ล้านบาท อีกทั้งยังมีส่วนแบ่งการตลาดโทรศัพท์ต่างประเทศมากกว่าผู้ประกอบการรายอื่นแม้จะมีการแข่งขันที่รุนแรง
ทั้งนี้การที่ลูกค้าวางใจและใช้บริการโทรศัพท์ต่างประเทศของ กสท อย่างต่อเนื่องแม้จะมีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เพิ่มขึ้นรวมทั้งมีบริการทดแทนที่หลากหลายซึ่งเกิดจากการพัฒนาเทคโนโลยี เนื่องจากลูกค้ามั่นใจในคุณภาพบริการซึ่ง กสท มีระบบโครงข่ายระหว่างประเทศที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด มีความใส่ใจในการพัฒนา และนำเสนอบริการใหม่ๆ ที่ได้มาตรฐานพร้อมทั้งตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าองค์กรหรือกลุ่มลูกค้าบุคคล ซึ่งพิสูจน์ได้จากการที่ CAT 001 ได้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น (SOE Award) ปี 2553 ประเภทการให้บริการดีเด่น
สำหรับการแข่งขันของตลาดโทรศัพท์ระหว่างประเทศปี 2554 ยังคงมีการแข่งขันรุนแรงรวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าจึงมีทางเลือกในการติดต่อหรือโทรศัพท์ต่างประเทศหลากหลายมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการในตลาดกำหนดกลยุทธ์ทั้งเรื่องบริการและการตลาดเพื่อแข่งขันกันในรูปแบบต่างๆแต่ที่ชัดเจนยังเป็นเรื่องการแข่งขันด้านราคาและการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ที่มีศักยภาพมากขึ้น
ทั้งนี้กสท ได้พัฒนาระบบโทรศัพท์จากรูปแบบเดิมไปสู่ระบบที่ผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานในลักษณะมัลติมีเดียเซอร์วิสตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคโซเชียล มีเดีย ขณะเดียวกันยังคงให้บริการด้วยราคาที่ประหยัดและสมเหตุสมผล ด้วยบริการ VoIP ผ่านโครงข่ายโทรคมนาคมยุคใหม่ หรือ Next Generation Network (NGN) ที่ใช้งบประมาณการพัฒนาระบบกว่า 300 ล้านบาทมาให้บริการเต็มรูปแบบ
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบเพื่อให้บริการมีความสมบูรณ์ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต สะดวกสบายและมีฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากโทร.พื้นฐาน เช่น บริการฝากข้อความแบบวิดีโอหรืออีเมล บริการรับ-ส่งข้อความและไฟล์ไปยังโทรศัพท์มือถือ บริการประชุมแบบมัลติมีเดีย โดยไม่จำกัดประเภทของโครงข่ายไอพีหรืออินเทอร์เน็ตที่ใช้ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานที่เป็นองค์กรก็ไม่ต้องลงทุนเพิ่มในการจัดหาระบบใหม่ เพราะสามารถใช้บริการได้เสมือนมีระบบเป็นของตนเอง โดยใช้บริการในลักษณะ Virtual หรือ Hosted ได้
นอกจากนี้ กสท ยังใช้งบอีกประมาณ 200 กว่าล้านบาทในการปรับปรุงชุมสายภายในประเทศพร้อมใช้ไอทีสนับสนุนระบบ CRM ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน กสท ยังมุ่งเน้นการพัฒนาบริการโทร.ผ่านอินเทอร์เน็ตที่มีอยู่แล้ว เช่น CAT2call plus prepaid, CAT SIP-connect และ CAT hosted PBX ให้สามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการที่หลากหลายทั้งกลุ่มบุคคลและองค์กร
นางสาวธันวดี กล่าวถึงกิจกรรมทางการตลาดในปีนี้ว่า กสท ได้จัดกิจกรรม ส่งเสริมการขาย CAT 009 ด้วยการลดค่าโทร.เหลือนาทีละ 3 บาท สำหรับผู้ที่โทร.ไป 9 ประเทศปลายทาง ได้แก่ อเมริกา แคนาดา จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ฮาวาย กวม อะแลสกา และมิดเวย์/เวค โดยโปรโมชันนี้ใช้ได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้และกสท ยังได้เตรียมจัดกิจกรรมอีกหลายรูปแบบ เช่น กิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า รวมทั้งกิจกรรมผ่านทางโซเชียล เน็ตเวิร์กในชื่อ CAT voice ที่มีเรื่องราวมาอัปเดตทั้งเทคโนโลยี เกร็ดความรู้ ความเคลื่อนไหวในต่างประเทศ และกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย
'เชื่อว่ารายได้รวมปีนี้จะยังรักษาระดับ 5 พันล้านบาทไว้ได้ โดย NGN จะทำรายได้ถึง 100 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาบริการ VoIP ทำได้ 50 ล้านบาทของรายได้รวมทั้งหมดของธุรกิจกลุ่มนี้'
สำหรับบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศที่สร้างรายได้ 5 พันกว่าล้านบาท ถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่ทำรายได้อันดับ 2 รองจากบริการสื่อสารข้อมูลของ กสท ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 7-8 พันล้านบาทของรายได้รวมของ กสท ทั้งหมด ส่วนมูลค่ารวมของบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 9.5 พันล้านบาท หรือโตขึ้นประมาณ 4% ที่โตน้อยเพราะค่าบริการลดลงแต่จำนวนผู้ใช้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น