นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าการเติบโตรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจต่างประเทศ (Trade Finance)ปีนี้ที่ 20% จากปี 53 มีรายได้ค่าธรรมเนียม 1,300 ล้านบาท และตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดด้านเทรด ไฟแนนซ์ไว้ที่ 23 % โดยมีปัจจัยหนุนมาจากการออกแคมเปญใหม่ "บุกตลาดส่งออกใหม่ด้วยกันอย่างมั่นใจ" ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกและลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจกับประเทศคู่ค้าใหม่ๆ
"ค่าฟีโดยเฉลี่ยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 2% บวกลบ แต่ถ้าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูง ค่าฟีก็อาจจะอยู่ในระดับที่ดีเช่นกัน การออกแคมเปญใหม่ในครั้งนี้ ก็เป็นการให้ความมั่นใจกับลูกค้าที่ต้องการเข้าไปเปิดตลาดใหม่ๆในต่างประเทศ ซึ่งถือว่ากสิกรฯเป็นธนาคารแรกที่ให้บริการในลักษณะนี้ ก็คาดว่าจะมีลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการส่งออกจะตอบรับเป็นอย่างดี เพราะถือเป็นอีก 1 บริการที่เป็นทางเลือกที่ช่วยลดความเสี่ยงให้กับลูกค้า"
นายทรงพลกล่าวว่า จากวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาเมื่อหลายปีที่แล้ว ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งสินค้าไปยังตลาดส่งออกหลักของไทย อาทิ สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งเคยมีสัดส่วนรวมกันกว่า 60% อย่างมาก เนื่องจากความต้องการสินค้าชะลอตัวลง และมีการแข่งขันเรื่องราคาสูง ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของปริมาณการส่งออกและผลกำไรโดยรวมของผู้ส่งออกไทย และหลายรายต่อสูญเสียลูกค้าให้คู่แข่งไป
ดังนั้น ธนาคารกสิกรไทย จึงออกแคมเปญ "บุกตลาดส่งออกใหม่ด้วยกันอย่างมั่นใจ" เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกที่ต้องการขยายธุรกิจ ด้วยการบุกเบิกและขยายโอกาสทางธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศตลาดใหม่ทั่วโลกที่มีศักยภาพ ด้วยการออก 2 บริการใหม่ ได้แก่ บริการยืนยันการชำระเงินตามเลตเตอร์ออฟเครดิต (L/C Confirmation) เป็นบริการที่ทางธนาคารกสิกรไทย เพิ่มการยืนยันการชำระเงินเข้าไปใน Export L/C นอกเหนือจากธนาคารผู้เปิด L/C ในต่างประเทศ ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทยจะยืนยันการชำระเงินค่าสินค้าเต็มจำนวนตาม L/C หากผู้ส่งออกสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงใน L/C โดยจะรับประกันการจ่ายเงินแทนธนาคารต่างประเทศผู้เปิด L/C เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินจากธนาคารผู้เปิด L/C
และบริการรับซื้อลดตามเอกสารสินค้าออกภายใต้เลตเตอร์ออฟเครดิตแบบซื้อขาด (Discounted Export L/C without Recourse) เป็นการให้การสนับสนุนทางการเงินประเภทสินเชื่อระยะสั้น ภายหลังการส่งออก ประเภทรับซื้อลดภายใต้ L/C แบบซื้อขาด ระยะเวลาไม่เกิน 180 วัน สำหรับผู้ส่งออกที่ได้รับ L/C ประเภทมีระยะเวลาในการจ่ายชำระเงิน ( L/C Term) และได้รับการยืนยันวันครบกำหนดชำระเงินจากธนาคารต่างประเทศผู้เปิด L/C แล้ว บริการดังกล่าวเหมาะสำหรับผู้ส่งออกที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนไปใช้ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งสามารถลดภาระลูกหนี้ทางการค้า เนื่องจากการรับซื้อลดจะไม่ใช้วงเงินของผู้ส่งออก แต่จะใช้วงเงินของธนาคารต่างประเทศผู้เปิด L/C แทน
"ค่าฟีโดยเฉลี่ยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 2% บวกลบ แต่ถ้าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูง ค่าฟีก็อาจจะอยู่ในระดับที่ดีเช่นกัน การออกแคมเปญใหม่ในครั้งนี้ ก็เป็นการให้ความมั่นใจกับลูกค้าที่ต้องการเข้าไปเปิดตลาดใหม่ๆในต่างประเทศ ซึ่งถือว่ากสิกรฯเป็นธนาคารแรกที่ให้บริการในลักษณะนี้ ก็คาดว่าจะมีลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการส่งออกจะตอบรับเป็นอย่างดี เพราะถือเป็นอีก 1 บริการที่เป็นทางเลือกที่ช่วยลดความเสี่ยงให้กับลูกค้า"
นายทรงพลกล่าวว่า จากวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาเมื่อหลายปีที่แล้ว ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งสินค้าไปยังตลาดส่งออกหลักของไทย อาทิ สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งเคยมีสัดส่วนรวมกันกว่า 60% อย่างมาก เนื่องจากความต้องการสินค้าชะลอตัวลง และมีการแข่งขันเรื่องราคาสูง ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของปริมาณการส่งออกและผลกำไรโดยรวมของผู้ส่งออกไทย และหลายรายต่อสูญเสียลูกค้าให้คู่แข่งไป
ดังนั้น ธนาคารกสิกรไทย จึงออกแคมเปญ "บุกตลาดส่งออกใหม่ด้วยกันอย่างมั่นใจ" เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกที่ต้องการขยายธุรกิจ ด้วยการบุกเบิกและขยายโอกาสทางธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศตลาดใหม่ทั่วโลกที่มีศักยภาพ ด้วยการออก 2 บริการใหม่ ได้แก่ บริการยืนยันการชำระเงินตามเลตเตอร์ออฟเครดิต (L/C Confirmation) เป็นบริการที่ทางธนาคารกสิกรไทย เพิ่มการยืนยันการชำระเงินเข้าไปใน Export L/C นอกเหนือจากธนาคารผู้เปิด L/C ในต่างประเทศ ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทยจะยืนยันการชำระเงินค่าสินค้าเต็มจำนวนตาม L/C หากผู้ส่งออกสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงใน L/C โดยจะรับประกันการจ่ายเงินแทนธนาคารต่างประเทศผู้เปิด L/C เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินจากธนาคารผู้เปิด L/C
และบริการรับซื้อลดตามเอกสารสินค้าออกภายใต้เลตเตอร์ออฟเครดิตแบบซื้อขาด (Discounted Export L/C without Recourse) เป็นการให้การสนับสนุนทางการเงินประเภทสินเชื่อระยะสั้น ภายหลังการส่งออก ประเภทรับซื้อลดภายใต้ L/C แบบซื้อขาด ระยะเวลาไม่เกิน 180 วัน สำหรับผู้ส่งออกที่ได้รับ L/C ประเภทมีระยะเวลาในการจ่ายชำระเงิน ( L/C Term) และได้รับการยืนยันวันครบกำหนดชำระเงินจากธนาคารต่างประเทศผู้เปิด L/C แล้ว บริการดังกล่าวเหมาะสำหรับผู้ส่งออกที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนไปใช้ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งสามารถลดภาระลูกหนี้ทางการค้า เนื่องจากการรับซื้อลดจะไม่ใช้วงเงินของผู้ส่งออก แต่จะใช้วงเงินของธนาคารต่างประเทศผู้เปิด L/C แทน
