xs
xsm
sm
md
lg

ปิดล้อมยะลา10จุด รวบ9คนโยงคาร์บอมบ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยะลา - เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงในยะลาสนธิกำลังกว่า 300 นายเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 10 จุดสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 9 คน เชื่อพัวพันเหตุคาร์บอมบ์ย่านการค้ากลางเมืองยะลา "เทือก"จี้“จนท.”เข้มงวด “การข่าว” หลัง “คาร์บอมบ์” กลางเมืองยะลา เชื่อเป็นการตอบโต้จนท. หลังทำงานเชิงรุกมากขึ้น "ประยุทธ์" ยันกองทัพทุ่มเทสุดตัว แต่ยังเกิดเหตุการณ์คาร์บอมบ์

หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่บริเวณหน้าร้านเฮนเบเกอร์รี่ บริเวณถนน ณ นคร ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหาร และประชาชนได้รับบาดเจ็บ 18 ราย บ้านเรือนที่เป็นร้านค้าถูกเพลิงไหม้ไป 12 คูหา โดยเหตุเกิดในเวลา 09.50 น.เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ต่อมาวานนี้(14 ก.พ.) มีรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง นำโดย พ.ท.ธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 กว่า 300 นายได้สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัยใน ต.ลิดล และ ต.ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา กว่า 10 จุด หลังมีแหล่งข่าวแจ้งว่าพบการเคลื่อนไหวของกลุ่มนายอหมัด ตือง๊ะ แกนนำกลุ่มก่อเหตุความรุนแรง พร้อมพวกเข้ามาเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

ภายหลังจากการเข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัยดังกล่าวนานกว่า 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยไว้ได้ 9 ราย โดยเป็น

อุสตาซของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามแห่งหนึ่งในพื้นที่ 2 คน วัยรุ่นในหมู่บ้าน 6 คน และเยาวชน 1 คน ทั้งหมดยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้กฎอัยการศึกในการคุมตัวไปซักถามที่หน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 หลังจากมีหลักฐานที่เชื่อว่าบุคคลทั้ง 9 รายน่าจะมีส่วนเกี่ยวพันกับการก่อเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ใจกลางเมืองยะลา

หน่วยข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่ เปิดเผยว่า สำหรับกลุ่มคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ ส่วนใหญ่จะเป็นแนวร่วมกลุ่มใหม่ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปและกำลังศึกษาอยู่ในสถาบันสอนศาสนาเอกชนในพื้นที่เป็นเยาวชนที่ถูกฝึกและถูกปลูกฝังแนวความคิดการก่อเหตุร้ายมาตั้งแต่ปี 2550 และพยายามก่อเหตุตอบโต้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ลอบยิงลอบวางระเบิด และก่อเหตุความวุ่นวายในพื้นที่มาโดยตลอด ส่วนแนวร่วมกลุ่มเก่าได้แตกกระจายออกไป บ้างก็ออกมาเป็นผู้สนับสนุน หาเงินส่งเข้าไปช่วยเหลือในการก่อเหตุ บ้างก็มาเป็นแหล่งข่าว โดยแทรกซึมเข้ามาร่วมกับหน่วยงานของภาครัฐ และค่อยแจ้งความเคลื่อนไหวกลับไปยังกลุ่มผู้ก่อเหตุร้าย

หน่วยข่าวความมั่นคงฯ ยังระบุอีกว่า สำหรับกลุ่มบุคคลทั้ง 9 รายที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมานั้น ในเบื้องต้นมีหลักฐานว่าเป็นแนวร่วมกลุ่มใหม่ กลุ่มของนายอหมัด ตือง๊ะ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีความมั่นคงในพื้นที่ จ.ยะลา และทางการข่าวกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้มีส่วนเชื่อมโยงไปยังคดีลอบวางระเบิดรถยนต์ของพรานป่า 9 ศพ ที่ อ.ยะหา และลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุดรบพิเศษที่ ต.ลำใหม่ และเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้มีการเชื่อมโยงกับการลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ใจกลางเมืองยะลา เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.กฤษฏา แก้วจันดี ผกก.สภ.เมืองยะลา เปิดเผยความคืบหน้าด้านคดีนี้ว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ของธนาคารนครหลวงไทย จำกัด สาขายะลา ซึ่งกล้องสามารถบันทึกภาพ คนร้ายเป็นชายหนึ่งคน รูปร่างสูง ผอม การแต่งตามที่ปรากฏในภาพ คือสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำเงินยีนส์ กางเกงขายาว และสวมหมวกแก๊ปปิดบังใบหน้า ขับรถยนต์ กระบะยี่ห้ออีซูซู โกลด์ซีรี่ สีดำ ที่กระบะท้ายมีหลังคาแครี่บอย มาจอดที่หน้าบ้านเลขที่ 33 ถนน ณ นคร ซึ่งเป็นโกดังเก็บอะไหล่ รถจักรยานยนต์ อยู่ติดกับร้านเฮนเบเกอรี่ ตรงข้ามกับธนาคารนครหลวงไทย

จากนั้นคนร้ายได้ลงจากรถแล้วเดินไปเดินมา ผ่านกล้องวงจรปิด รอจนถึงเวลา 09.45 น.มีรถทหารของ ฉก.ยะลา 14 วิ่งผ่านเข้ามา เมื่อวิ่งผ่านไปถึงรถที่ประกอบระเบิดคนร้ายจึงได้จุดระเบิดด้วยวิทยุสื่อสารขึ้น นอกจากนั้นคนร้ายยังได้บรรจุถังน้ำมันไว้ ขนาด 5 ลิตร 3 ถังทำให้เพลิงลุกไหม้ร้านค้าได้รับความเสียหายทั้งหมด 11 คูหาและรถยนต์ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเสียหายอีก 7 คัน รถจักรยานยนต์ อีก 12 คัน

"ส่วนการตรวจสอบรถคันดังกล่าวพบว่า รถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นรถรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซู โกลด์ซีรี่ สีดำ มีหลังคาแครีบอย หมายเลขทะเบียน ผก 383 สงขลา ซึ่งถูกขโมย เมื่อวันที่ 1 มี.ค.53 ในพื้นที่ สภ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งได้รับแจ้งความไว้แล้ว โดยคนร้ายนำป้ายทะเบียนปลอมหมายเลข ผก 9253 ปัตตานีมาเปลี่ยน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ เชื้อปะทุ อีกลูกที่ยังไม่ระเบิด โดยให้เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา ตรวจสอบ หาดีเอ็นเอจากสายไฟที่ประกอบเป็นวงจรระเบิด ซึ่งหากเกิดว่า ดีเอ็นเอ ที่พบไปตรงกับคนร้ายกลุ่มใด ก็จะดำเนินการติดตามจับกุมต่อไป"

วันเดียวกันเวลา 09.00 น.ที่ห้องไอซียู ชั้น 2 และตึกศัลยกรรมชาย/หญิง อาคารโรงพยาบาลศูนย์ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางมาเยี่ยมเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคาร์บอมบ์ โดยมีนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายประมุข ลมุล รองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.ต.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ รองผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมให้การต้อนรับ โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นายและชาวบ้านอีก 6 ราย พร้อมกับมอบเงินเยียวยา

หลังจากนั้น ได้เดินทางไปพบปะให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครยะลาที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุ พร้อมทั้งพบปะให้กำลังใจแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และมอบเงินช่วยเหลือให้กับประชาชนที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย 24 รายที่บริเวณ 4 แยกถนนไชยจรัส ตัด ถนน ณ นคร พร้อมตรวจเยี่ยมจุดที่เกิดเหตุ รับฟังข้อมูลจากนผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา

นายถาวร กล่าวว่า สำหรับกลุ่มที่ก่อเหตุในครั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นแนวร่วมกลุ่มใหม่เป็นกลุ่มของนายอหมัด ตือง๊ะ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีความมั่นคงในพื้นที่ จ.ยะลา และทางการข่าวกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้มีส่วนเชื่อมโยงไปยังคดีลอบวางระเบิดรถยนต์ของพรานป่า 9 ศพ ที่ ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา และลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุดรบพิเศษ ที่ ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา

***“สุเทพ”เชื่อถูกกดดันหันโจมตีกลับ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเหตุคาร์บอมบ์ล่าสุดว่า เวลาที่เจ้าหน้าที่เปิดเกมรุกมากๆก็มีการตอบโต้เป็นปกติ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พยามยามหาข่าวบางทีก็ทำได้ทัน บางทีก็ทำไม่ทัน

เมื่อถามว่า การเกิดเหตุในที่ชุมชนลักษณะนี้ เป็นการกระทำของคนกลุ่มเดียวกันหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ เพราะผู้ก่อการร้ายในภาคใต้มีหลายกลุ่ม คงต้องรอให้ผลการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ชัดเจนก่อน แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดนั้นต่างรูปแบบ เดี๋ยวก็ลอบยิง เดี๋ยวก็วางระเบิด เจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้มงวดเรื่องการข่าวให้มากขึ้น และต้องมีการป้องกันให้มากขึ้นด้วย

***ส.ว.พัทลุงจี้มาร์คควรลงใต้เป็นขวัญปชช.

ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ได้มีการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยนายเจริญ ภักดีวานิช ส.ว.พัทลุง หารือว่า เหตุการณ์คาร์บอมกลางเมืองยะลาจนทำให้แรงระเบิดทำบ้านเรือนประชาชนวอดถึง 12 หลังถือว่าเป็นวิธีการที่โหดเหี้ยม จึงขอเรียกร้องดังนี้คือ 1.ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯเสียสละเวลาลงไปตรวจเยี่ยมในพื้นที่โดยด่วน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ 2.ให้รัฐบาลทบทวนการข่าว เพราะขณะนี้ประชาชนได้เสียชีวิตเกือบทุกวัน 3.ให้รัฐบาลทบทวนมาตรการในการดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ และ4.ให้รัฐบาลจัดตั้งกองทุนรับซื้อที่ดินชั่วคราว เนื่องจากขฯนี้ขณะนี้มีประชาชนที่ทำสวนยางอพยพหนีออกมายังจังหวัดพัทลุง สงขลาจำนวนมาก บางคนหนีมาโดยไม่มีเงินติดตัว หากวันใดเหตุการณ์สงบประชาชนจะได้อพยพกลับคืนถิ่นฐานได้

***ผบ.ทบ.พูดได้แค่เสียใจ

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า กองทัพได้ทุ่มเทไปเยอะ แต่ก็เสียใจที่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจนทำให้เกิดการสูญเสีย ทั้งนี้ตนบอกแล้วว่า สูญเสียแม้แต่คนเดียวก็เสียใจ จึงได้พยายามแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ และขณะนี้การแก้ไขปัญหาก็คืบหน้าไปพอสมควร อย่างไรก็ตาม เมื่อยังมีผู้กระทำความผิดอยู่ เขาก็พยายามจะต่อสู้ในอำนาจรัฐทุกอย่าง ดังนั้นประชาชนจะต้องช่วยกันว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความปลอดภัย และทำอย่างไรจะไม่กีดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ และจะต้องเชื่อฟังเจ้าหน้าที่เพื่อจะได้รับความปลอดภัยทั้งประชาชน และ เจ้าหน้าที่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กองทัพบก ได้ประเมิน 6 ยุทธศาสตร์ที่ใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 เดือนที่แล้วได้มาประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ มีอยู่ 4-5 ข้อ อยู่ที่ประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์ เว้นข้อเดียวคือการพัฒนาเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ เพราะกว่าจะอนุมัติงบประมาณจะลงไปในพื้นที่ จะต้องมาทำแผนงาน และดำเนินการได้ ไม่ได้จ่ายเงินในวันนี้แล้วจ่ายเงินงบประมาณได้ทันที เพราะจะต้องเตรียมแผนงาน ถ้าการพัฒนาไปถึงเร็วขึ้นก็คงจะดีขึ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น