กลุ่มเอสเอส เนชั่นแนล โลจิสติกส์ เดินหน้าชน เป๊ปซี่โคหลังจากการเจรจา ไม่ประสบผลสำเร็จ “ศักดิ์ชัย”ประกาศสู้ ใช้สิทธิ์โหวต ในการประชุมผู้ถือหุ้น วันนี้ (15 ก.พ.) ตามสัดส่วนถือหุ้น 32 % เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทเสริมสุขและผู้ถือหุ้นรายย่อย
นายศักดิ์ชัย ธนบุญชัย กรรมการ บริษัทเอสเอส เนชั่นแนล โลจิสติกส์ กลุ่มทุนและผู้ถือหุ้นรายใหม่ของบริษัทเสริมสุข จำกัด (มหาชน) (SSC) เปิดเผยว่า วันนี้จะเป็นการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท เสริมสุข ซึ่งจะมีวาระเรื่องสิทธิและผลประโยชน์ของบริษัท รวมไปถึงผู้ถือหุ้น โดยทางกลุ่มได้รับรายงานจาก ผู้บริหารเสริมสุข เกี่ยวกับผลการเจรจาสัญญาเงื่อนไขและแผนธุรกิจในอนาคตกับ เป๊ปซี่ โค ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเสริมสุข ไม่ประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ ทางกลุ่ม เอสเอส เนชั่นแนลฯ ได้มีการเสนอขอเจรจากับ เป๊ปซี โค หลายครั้ง แต่ได้รับคำตอบเดิม รวมทั้งมองว่าเป๊ปซี โค ไม่มีความจริงใจในการเจรจา จึงทำให้การเจรจาที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนี้ทางกลุ่มจึงได้ส่งตัวแทนเข้าไปประชุมและขอใช้สิทธิในการโหวต ตามสัดส่วนดังกล่าว เพื่อให้การดำเนินงานและแผนธุรกิจของบริษัทเสริมสุข สามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
“ผมได้มอบหมายให้ผู้บริหารเสริมสุข เป็นผู้เจรจากับเป๊ปซี่โค เนื่องจากเป็นทีมผู้บริหารที่เก่ง เป็นมืออาชีพ ที่สำคัญน่าจะรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี จนถึงที่สุดแล้วการเจรจาไม่บรรลุผล จึงได้ติดต่อขอเจรจาเอง ซึ่งเป๊ปซีโค ไม่มีความจริงใจ นัดเวลาให้เพียงวันเดียวเท่านั้น คือวันที่ 11 กุมภาพัน์ ที่ฮ่องกง ทำให้การเจรจาก็ไม่บรรลุผลอีกครั้งหนึ่ง จึงต้องขอใช้สิทธิในการโหวตวันประชุมผู้ถือหุ้น”นายศักดิ์ชัย กล่าว
สำหรับ การในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2553 ในวันที่ 15 ธันวาคม 2553 ได้อนุมัติให้คณะกรรมการบริษัทจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2554 ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 ขึ้นแทน เพื่อดำเนินการต่างๆ ดังต่อไปนี้ (1) รับทราบรายงานผลการเจรจาแก้ไขสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับเป็ปซี่ และรับทราบแผนธุรกิจในอนาคต (2) พิจารณาอนุมัติประการใดประการหนึ่งต่อไปนี้ (ก) อนุมัติให้บริษัทฯ ทำการแก้ไขสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับเป๊ปซี่ โดยใช้ราคา และเงื่อนไขอันเป็นผลมาจากการเจรจา หรือ (ข) อนุมัติให้บริษัทฯ ดำเนินการตามแผนธุรกิจในอนาคต
โดย เอสเอส เนชั่นแนลฯ คาดว่า ในการประชุมผู้ถือหุ้น SSC เชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ จะลงมติเห็นชอบกับ แผนการขยายงาน และการขอแก้สัญญาใหม่กับกลุ่มเป๊ปซี่ ตามที่คณะกรรมการเสนอ เนื่องจาก เห็นว่าเป็นแผนงานที่เป็นประโยชน์กับผู้ถือหุ้น
อนึ่ง เป็ปซี่-โคล่า(ไทย) ถือหุ้น 24.94% ใน SSC และเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เป็ปซี่-โค อิงค์ และเป็นผู้จำหน่ายวัตถุดิบ หรือส่วนผสมที่ใช้ในการผลิตน้ำอัดลม (หัวน้ำเชื้อ) ภายใต้สัญญา EBA ให้กับ SSC โดยในรอบปีบัญชี 52 มีมูลค่าการซื้อ ประมาณ 3,435 ล้านบาท ขณะที่บริษัทเอสเอสฯ ของนายศักดิ์ชัยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดใน SSC สัดส่วน 32.62% โดยผ่านการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ราคาหุ้นละ 42 บาท ซึ่งมีผู้เสนอขายหุ้นให้ค่อนข้างมาก รวมถึงกลุ่มของนายสมชาย บุลสุข ผู้ก่อตั้ง SSC ด้วย
นายศักดิ์ชัย ธนบุญชัย กรรมการ บริษัทเอสเอส เนชั่นแนล โลจิสติกส์ กลุ่มทุนและผู้ถือหุ้นรายใหม่ของบริษัทเสริมสุข จำกัด (มหาชน) (SSC) เปิดเผยว่า วันนี้จะเป็นการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท เสริมสุข ซึ่งจะมีวาระเรื่องสิทธิและผลประโยชน์ของบริษัท รวมไปถึงผู้ถือหุ้น โดยทางกลุ่มได้รับรายงานจาก ผู้บริหารเสริมสุข เกี่ยวกับผลการเจรจาสัญญาเงื่อนไขและแผนธุรกิจในอนาคตกับ เป๊ปซี่ โค ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเสริมสุข ไม่ประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ ทางกลุ่ม เอสเอส เนชั่นแนลฯ ได้มีการเสนอขอเจรจากับ เป๊ปซี โค หลายครั้ง แต่ได้รับคำตอบเดิม รวมทั้งมองว่าเป๊ปซี โค ไม่มีความจริงใจในการเจรจา จึงทำให้การเจรจาที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนี้ทางกลุ่มจึงได้ส่งตัวแทนเข้าไปประชุมและขอใช้สิทธิในการโหวต ตามสัดส่วนดังกล่าว เพื่อให้การดำเนินงานและแผนธุรกิจของบริษัทเสริมสุข สามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
“ผมได้มอบหมายให้ผู้บริหารเสริมสุข เป็นผู้เจรจากับเป๊ปซี่โค เนื่องจากเป็นทีมผู้บริหารที่เก่ง เป็นมืออาชีพ ที่สำคัญน่าจะรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี จนถึงที่สุดแล้วการเจรจาไม่บรรลุผล จึงได้ติดต่อขอเจรจาเอง ซึ่งเป๊ปซีโค ไม่มีความจริงใจ นัดเวลาให้เพียงวันเดียวเท่านั้น คือวันที่ 11 กุมภาพัน์ ที่ฮ่องกง ทำให้การเจรจาก็ไม่บรรลุผลอีกครั้งหนึ่ง จึงต้องขอใช้สิทธิในการโหวตวันประชุมผู้ถือหุ้น”นายศักดิ์ชัย กล่าว
สำหรับ การในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2553 ในวันที่ 15 ธันวาคม 2553 ได้อนุมัติให้คณะกรรมการบริษัทจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2554 ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 ขึ้นแทน เพื่อดำเนินการต่างๆ ดังต่อไปนี้ (1) รับทราบรายงานผลการเจรจาแก้ไขสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับเป็ปซี่ และรับทราบแผนธุรกิจในอนาคต (2) พิจารณาอนุมัติประการใดประการหนึ่งต่อไปนี้ (ก) อนุมัติให้บริษัทฯ ทำการแก้ไขสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับเป๊ปซี่ โดยใช้ราคา และเงื่อนไขอันเป็นผลมาจากการเจรจา หรือ (ข) อนุมัติให้บริษัทฯ ดำเนินการตามแผนธุรกิจในอนาคต
โดย เอสเอส เนชั่นแนลฯ คาดว่า ในการประชุมผู้ถือหุ้น SSC เชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ จะลงมติเห็นชอบกับ แผนการขยายงาน และการขอแก้สัญญาใหม่กับกลุ่มเป๊ปซี่ ตามที่คณะกรรมการเสนอ เนื่องจาก เห็นว่าเป็นแผนงานที่เป็นประโยชน์กับผู้ถือหุ้น
อนึ่ง เป็ปซี่-โคล่า(ไทย) ถือหุ้น 24.94% ใน SSC และเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เป็ปซี่-โค อิงค์ และเป็นผู้จำหน่ายวัตถุดิบ หรือส่วนผสมที่ใช้ในการผลิตน้ำอัดลม (หัวน้ำเชื้อ) ภายใต้สัญญา EBA ให้กับ SSC โดยในรอบปีบัญชี 52 มีมูลค่าการซื้อ ประมาณ 3,435 ล้านบาท ขณะที่บริษัทเอสเอสฯ ของนายศักดิ์ชัยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดใน SSC สัดส่วน 32.62% โดยผ่านการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ราคาหุ้นละ 42 บาท ซึ่งมีผู้เสนอขายหุ้นให้ค่อนข้างมาก รวมถึงกลุ่มของนายสมชาย บุลสุข ผู้ก่อตั้ง SSC ด้วย
