xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ถวายแก่สรีระสังขาร “หลวงตามหาบัว” ให้ใช้ไม้จิก แทนดอกไม้จันทน์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - หลังจากที่ พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ “หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน” ได้ละสังขารไปเมื่อเวลา 03.53 น.ของวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2554 จนถึงวันนี้ ประชาชนจำนวนมากยังหลั่งไหลเดินทางมากราบสรีระองค์หลวงตามหาบัว และร่วมทำบุญกับวัดป่าบ้านตาดกันอย่างไม่ขาดสาย...

โดยบรรยากาศที่วัดป่าบ้านตาด ในตอนเช้าพระภิกษุสงฆ์ ได้ออกไปบิณฑบาตตามปกติโดยศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันตักบาตรที่บริเวณหน้าวัด หลังพระฉันอาหารเสร็จประชาชนได้เข้าแถวรอขึ้นไปกราบหลวงตาบนศาลาการเปรียญชั้น 2

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของงานพระราชทานเพลิงศพที่จะมีขึ้นนั้น จะไม่มีการวางดอกไม้จันทน์ ซึ่งเป็นไปตามปฏิปทาของหลวงตา โดยพระนพดล นันทโน รองผู้อำนวยการจัดงานพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องใช้ไม้จิกเผาศพหลวงตามหาบัว ว่า เป็นไปตามคำสั่งของหลวงตามหาบัวที่เคยบอกไว้ เพราะในสมัยโบราณครูบาอาจารย์บอกไว้ว่า งานเผาศพพระชั้นผู้ใหญ่จะใช้ไม้ชนิดนี้ เพราะจะได้กระดูกที่ขาวสะอาดและสวย หากใช้ไม้จันทน์ ไม้กฤษณา แม้จะมีกลิ่นหอม แต่กระดูกที่ได้จะมีสีดำ ขณะนี้วัดได้เตรียมฟืนไม้จิกที่จะบรรจุไว้ในเมรุไว้แล้ว มีขนาดความยาว 1.20 เมตร ส่วนประชาชนที่ต้องการจะวางดอกไม้หน้าศพ ทางวัดได้จัดเตรียมทำไม้จิกให้เป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อนำไปวางหน้าศพรอบฐาน

กล่าวสำหรับ “ไม้จิก” ซึ่งจะใช้แทน “ไม้จันทน์” ในการเผาศพหลวงตามหาบัว ที่หลายคนอยากรู้ประวัติความเป็นมานั้น “ไม้จิก” เป็นไม้พันธุ์สกุล Barringtonia ในวงศ์ Lecythidacoae ซึ่งมีเรื่องเล่าในพุทธประวัติว่า หลังจากที่พระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ใต้ต้นโพธิ์และต้นไทรแห่งละ 7 วัน แล้วจึงเสด็จไปประทับที่ใต้ต้นจิกอีก 7 วัน ขณะที่ประทับใต้ต้นจิกนี้ ได้มีฝนตกติดต่อกันหลายวัน อากาศเย็นมาก จึงมีพญานาคชื่อ “มุจลินท์” มีขดเป็นวง 7 รอบล้อมพระองค์ พร้อมแผ่พังพานปรกพระองค์ไว้ ต่อมาเมื่อมีผู้คิดประดิษฐ์พระพุทธรูปขึ้นภายหลัง จึงเรียกว่า “ปางนาคปรก” และเรียกต้นจิกไปตามชื่อของพญานาค คือ “มุจลินท์” นั่นเอง

นอกจากนี้ ในส่วนเมรุชั่วคราวในพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว นอกจากจะใช้ “ดอกบัว” จากทั่วโลกประดับเมรุแล้ว ยังมีต้นไม้ที่จะนำมาประดับอีกชนิดคือ "ต้นจั๋ง" หรือต้นข้าวสาร ซึ่งเป็นต้นไม้ที่หลวงตาชอบมาก เพราะใบของมันช่วยบังกุฏิให้พระปฏิบัติธรรมไม่ถูกรบกวน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด, ได้มีประชาชน และหน่วยงานต่างๆ มาจองเป็นเจ้าภาพเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผู้มีจิตศรัทธาต่อหลวงตา ที่ต้องการจะบวชถวายเป็นกุศลในงานพระราชเพลิงศพหลวงตามหาบัว ได้มาลงทะเบียนแจ้งความประสงค์จะบวชถวายหลวงตามหาบัวแล้ว 46 ราย อายุมากสุด 72 ปี เป็นชาว จ.หนองบัวลำภู ส่วนอายุน้อยที่สุดขอบวชเณร อายุ 14 ปี เป็นชาวกรุงเทพฯ สำหรับการบวชถวายหลวงตามหาบัวนั้น คณะสงฆ์หารือกันแล้วไม่มีใครขัด โดยยึดตามแนวที่หลวงปู่ลี บวชถวายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต คือ ก่อนบวชก็ปฏิบัติธรรม นุ่งขาวห่มขาว

อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะสด็จฯ ไปในการพระราชทานเพลิงถวายแก่สรีระสังขารพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตา มหาบัว ญาณสัมปันโน ในวันเสาร์ที่ 5 มี.ค.54 ที่เมรุลอย วัดป่าบ้านตาด ขณะที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี จะเสด็จบำเพ็ญกุศลถวายแก่สรีระสังขารหลวงตามหาบัว ที่วัดป่าบ้านตาด ในทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 ก.พ. จนถึงวันพระราชทานเพลิงศพ

ทั้งนี้, นับแต่หลวงตามหาบัวละสังขารเมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ มียอดรวมเงินบริจาค เงินสด เงินโอน และเช็ค ทั้ง 2 บัญชี ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ มียอดรวม 46,927,701.02 บาท ยังไม่รวมทองคำ
กำลังโหลดความคิดเห็น