อุบลราชธานี - กลุ่มวัยรุ่นมีสีกราดเอ็ม 16 ใส่นักศึกษา ม.อุบลฯดับ 3 ศพ คาศาลาพักผู้โดยสาร บาดเจ็บอีก 1 หลังเกิดเขม่นกันในผับใกล้มหาวิทยาลัย ตำรวจตรวจสอบหลักฐานวงจรปิด ชัดมีทหารพรานต้องสงสัยอยู่ในเหตุการณ์ ประเดิมออกหมายจับแล้วเป็นคนแรก
เมื่อเวลา 04.30 น.ของวานนี้ (11 ก.พ.) พ.ต.อ.มงคล ลิ้มสุวรรณ ผกก.สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่ศาลาพักผู้โดยสารใกล้สะพานข้ามห้วยตองแวด ถ.วารินชำราบ-เดชอุดม บ้านศรีไค ต.เมืองศรีไค อ.วารินชำราบ จึงไปตรวจที่เกิดเหตุพบผู้ถูกยิงนอนเสียชีวิตตรงบริเวณบันไดทางขึ้นศาลา 1 ศพ ทราบชื่อนายศักดิ์สาคร จีปอมลา อายุ 23 ปี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ปี 2 มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนเอ็ม 16 ศีรษะ 1 นัด
ส่วนผู้บาดเจ็บที่ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เป็นนักศึกษารุ่นพี่ชั้นปีที่ 3 คณะเดียวกันคือ นายกิตติโรจน์ จิลาโชติ อายุ 23 ปี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ปี 3 และนายนัฐพล เดชบุญ อายุ 25 ปี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ปี 6 มีบาดแผลถูกยิงตามลำตัวคนละ 2 นัด ทนพิษบาดแผลไม่ไหวไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนที่แขนซ้าย 1 นัดชื่อนายวรวิทย์ พรมพัฒน์ อายุ 24 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 5 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกัน
จากการสอบสวนเพื่อนนักศึกษาที่อยู่ในที่เกิดเหตุทราบว่า กลุ่มนักศึกษาประมาณ 10 คนได้มาเที่ยวหาความสำราญที่ผับแจ้งสนิทใกล้จุดโดนยิงถล่ม ส่วนกลุ่มคนยิงก็มาเที่ยวในที่เดียวกัน 4 คนและเกิดเขม่นกันขึ้น แต่ทางร้านได้มาห้ามปราม กระทั่งผับปิดกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้รถยนต์เก๋งมาสด้า 2 ทะเบียน กค 7872 ศรีษะเกษ ได้ขับรถออกจากร้านไป
ขณะที่กลุ่มนักศึกษาได้ชวนกันมานั่งกินกันต่อที่ศาลาพักผู้โดยสารจุดเกิดเหตุ ระหว่างนั้นได้ยิงเสียงปืนยิงขึ้นฟ้าดังขึ้น 2 ชุดใหญ่ประมาณ 20 นัดก่อนที่รถของมือปืนจะแล่นมาจอดใกล้กลุ่มนักศึกษาแล้วใช้ปืนยิงถล่มเข้าใส่ก่อนขับรถหลบหนีมุ่งหน้าไปทางอำเภอเดชอุดม
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดของทางผับเห็นใบหน้าของกลุ่มวัยรุ่นมือปืนที่ก่อเหตุอย่างชัดเจน และบางคนสวมเสื้อลายพรางของทหาร รวมทั้งจากการตรวจสอบรายละเอียดจากป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสของคนร้ายทั้ง 4 คนโดยเป็นคนมีภูลำเนาอยุ่ที่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งขะณะนี้กำลังติดตามไปยังที่อยู่ของผู้ต้องสงสัยแล้ว
ต่อมานายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชาญพนา ผบก.ตร.ภ.จว.อุบลฯ ได้เข้าตรวจดูที่เกิดเหตุบริเวณศาลาพักผู้โดยสาร พร้อมสั่งกำชับให้ชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวมือปืนที่ก่อเหตุให้ได้เร็วที่สุด
สำหรับการสอบสวนเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวนางฐิติมา ผ่านพานิช ชาวบ้าน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเจ้าของรถคันที่ใช้ก่อเหตุมาให้ปากคำ และนางฐิติมา ระบุว่า ได้ขายดาวน์รถต่อให้อาสาสมัครทหารพรานศุภโชค พิมพิลา อายุ 26 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 23 น้องชายของสามี อาสาสมัครทหารพรานศุภโชค จึงเป็นผู้ใช้รถคันดังกล่าว
เมื่อนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้ดูนางฐิติมา ระบุว่า 1 ในกลุ่มนักเที่ยวที่เห็นในภาพเป็นอาสาสมัครทหารพรานศุภโชค จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุญาตออกหมายจับอาสาสมัครทหารพรานศุภโชค เป็นคนแรกก่อน ส่วนเพื่อนของอาสาสมัครทหารพรานศุภโชค พนักงานสอบสวนจะได้ขยายผลตามจับกุมเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า หลังกลุ่มอาสาสมัครทหารพรานศุภโชคก่อเหตุยิงและทราบว่าเจ้าหน้าที่กำลังตามจับตัวอยู่ โดยญาติได้ประสานมาว่าจะขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ในเร็วๆ นี้
ส่วนทางด้านการเยี่ยวยา รองศาสตราจารย์นงนิตย์ ธีระวัฒนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวว่า เบื้องต้นมหาวิทยาลัยจะมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวนักศึกษาที่เสียชีวิตรายละ 50,000 บาท ส่วนคนเจ็บก็จะให้การดูแล สำหรับเรื่องคดีปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนดำเนินการไปก่อน ยังไม่มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาในขณะนี้.
เมื่อเวลา 04.30 น.ของวานนี้ (11 ก.พ.) พ.ต.อ.มงคล ลิ้มสุวรรณ ผกก.สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่ศาลาพักผู้โดยสารใกล้สะพานข้ามห้วยตองแวด ถ.วารินชำราบ-เดชอุดม บ้านศรีไค ต.เมืองศรีไค อ.วารินชำราบ จึงไปตรวจที่เกิดเหตุพบผู้ถูกยิงนอนเสียชีวิตตรงบริเวณบันไดทางขึ้นศาลา 1 ศพ ทราบชื่อนายศักดิ์สาคร จีปอมลา อายุ 23 ปี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ปี 2 มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนเอ็ม 16 ศีรษะ 1 นัด
ส่วนผู้บาดเจ็บที่ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เป็นนักศึกษารุ่นพี่ชั้นปีที่ 3 คณะเดียวกันคือ นายกิตติโรจน์ จิลาโชติ อายุ 23 ปี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ปี 3 และนายนัฐพล เดชบุญ อายุ 25 ปี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ปี 6 มีบาดแผลถูกยิงตามลำตัวคนละ 2 นัด ทนพิษบาดแผลไม่ไหวไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนที่แขนซ้าย 1 นัดชื่อนายวรวิทย์ พรมพัฒน์ อายุ 24 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 5 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกัน
จากการสอบสวนเพื่อนนักศึกษาที่อยู่ในที่เกิดเหตุทราบว่า กลุ่มนักศึกษาประมาณ 10 คนได้มาเที่ยวหาความสำราญที่ผับแจ้งสนิทใกล้จุดโดนยิงถล่ม ส่วนกลุ่มคนยิงก็มาเที่ยวในที่เดียวกัน 4 คนและเกิดเขม่นกันขึ้น แต่ทางร้านได้มาห้ามปราม กระทั่งผับปิดกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้รถยนต์เก๋งมาสด้า 2 ทะเบียน กค 7872 ศรีษะเกษ ได้ขับรถออกจากร้านไป
ขณะที่กลุ่มนักศึกษาได้ชวนกันมานั่งกินกันต่อที่ศาลาพักผู้โดยสารจุดเกิดเหตุ ระหว่างนั้นได้ยิงเสียงปืนยิงขึ้นฟ้าดังขึ้น 2 ชุดใหญ่ประมาณ 20 นัดก่อนที่รถของมือปืนจะแล่นมาจอดใกล้กลุ่มนักศึกษาแล้วใช้ปืนยิงถล่มเข้าใส่ก่อนขับรถหลบหนีมุ่งหน้าไปทางอำเภอเดชอุดม
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดของทางผับเห็นใบหน้าของกลุ่มวัยรุ่นมือปืนที่ก่อเหตุอย่างชัดเจน และบางคนสวมเสื้อลายพรางของทหาร รวมทั้งจากการตรวจสอบรายละเอียดจากป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสของคนร้ายทั้ง 4 คนโดยเป็นคนมีภูลำเนาอยุ่ที่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งขะณะนี้กำลังติดตามไปยังที่อยู่ของผู้ต้องสงสัยแล้ว
ต่อมานายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชาญพนา ผบก.ตร.ภ.จว.อุบลฯ ได้เข้าตรวจดูที่เกิดเหตุบริเวณศาลาพักผู้โดยสาร พร้อมสั่งกำชับให้ชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวมือปืนที่ก่อเหตุให้ได้เร็วที่สุด
สำหรับการสอบสวนเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวนางฐิติมา ผ่านพานิช ชาวบ้าน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเจ้าของรถคันที่ใช้ก่อเหตุมาให้ปากคำ และนางฐิติมา ระบุว่า ได้ขายดาวน์รถต่อให้อาสาสมัครทหารพรานศุภโชค พิมพิลา อายุ 26 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 23 น้องชายของสามี อาสาสมัครทหารพรานศุภโชค จึงเป็นผู้ใช้รถคันดังกล่าว
เมื่อนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้ดูนางฐิติมา ระบุว่า 1 ในกลุ่มนักเที่ยวที่เห็นในภาพเป็นอาสาสมัครทหารพรานศุภโชค จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุญาตออกหมายจับอาสาสมัครทหารพรานศุภโชค เป็นคนแรกก่อน ส่วนเพื่อนของอาสาสมัครทหารพรานศุภโชค พนักงานสอบสวนจะได้ขยายผลตามจับกุมเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า หลังกลุ่มอาสาสมัครทหารพรานศุภโชคก่อเหตุยิงและทราบว่าเจ้าหน้าที่กำลังตามจับตัวอยู่ โดยญาติได้ประสานมาว่าจะขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ในเร็วๆ นี้
ส่วนทางด้านการเยี่ยวยา รองศาสตราจารย์นงนิตย์ ธีระวัฒนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวว่า เบื้องต้นมหาวิทยาลัยจะมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวนักศึกษาที่เสียชีวิตรายละ 50,000 บาท ส่วนคนเจ็บก็จะให้การดูแล สำหรับเรื่องคดีปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนดำเนินการไปก่อน ยังไม่มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาในขณะนี้.