“ซีอาร์ซี” ปั้นแยกเพลินจิต-วิทยุ สู่แลนด์มาร์คชอปปิ้งของเอเชีย รับเอเชียฮับเศรษฐกิจโลก ชูโครงการเซ็นทรัลเอ็มบาสซี หมื่นล้านบาท ธงนำ เป็นไอคอนของเอเชีย เทียบเท่าไทเป101 โตเกียวมิดทาวน์
นายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือซีอาร์ซี เปิดเผยว่า โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ถนนวิทยุ (ที่ดินสถานทูตอังกฤษเดิม) ที่มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ใหญ่ที่สุดของซีอาร์ซี จะเปิดตัวและขายพื้นที่เป็นทางการในวันนี้ จะเป็นโครงการศูนย์การค้าและโรงแรมที่จะสร้างให้เป็นไอคอนของเอเชีย เทียบเท่ากับโครงการใหญ่อย่าง ไทเป101ที่ไต้หวัน ไอเอฟซีที่เซี่ยงไฮ้ แปซิฟิคเพลสที่ฮ่องกง หรือโตเกียวมิดทาวน์ที่ญี่ปุ่น
ในย่านดังกล่าวจะมีโครงการใหม่เกิดขึ้นรวมทั้งเซ็นทรัลเอ็มบาสซีและเปิดบริการภายในปี 2556 ไม่ต่ำกว่า 14 โครงการ ทำให้มีพื้นที่อาคารสำนักงานรวมกว่า 725,000 ตารางเมตร, โรงแรมระดับห้าดาว กว่า 5,000 ห้อง เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์กว่า 3,000 ยูนิต และคอนโดมิเนียมมากกว่า 5,000 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการกว่า 100,000 ล้านบาท
ที่ดินตรงนี้คือถนนเพลินจิตตัดกับถนนวิทยุจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในย่านนี้เช่นเดียวกับแยกราชประสงค์ ที่จะเป็นศูนย์กลางของการชอปปิ้งและท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ ซึ่งจะผลักดันให้กรุงเทพฯซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของโลกที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวคนทั่วโลกนิยมที่สุดต่อจาก ปารีส และลอนดอน โครงการของเราจะรองรับเป็นอย่างดีโดยจะเปิดบริการปี 2556
ที่สำคัญโครงการนี้จะมาเติมเต็มให้เซ็นทรัลชิดลม ให้เป็นผู้นำค้าปลีกต่อได้อีกอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะชิดลมยังขาดศูนย์บันเทิง ศูนย์อาหารขนาดใหญ่ ซึ่งเราจะทำทางเชื่อมสองอาคารด้วยกัน ทำให้มีทางเข้าติดกับบีทีเอสถึง 2 สถานี และยังมีโรงแรมซึ่งได้เซ็นสัญญากับเชนพาร์คไฮแอท เข้ามาบริหาร ซึ่งเป็นเชนอันดับหนึ่งของอเมริกา
และโครงการนี้จะทำให้กรุงเทพฯมีชื่อเสียงมากขึ้นและเป็นระดับอินเตอร์มากขึ้น คาดว่าโครงการนี้จะคืนทุนภายในเวลา 10 ปี
นอกจากนั้นโครงการนี้ยังรองรับความเปลี่ยนแปลงที่เอเชียจะกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของโลก มีประชากรมากกว่า 4,000 ล้านคน ซึ่งตอนนี้เศรษฐกิจเอเชียใหญ่กว่าอเมริกา และอนาคตก็จะใหญ่กว่าทวีปยุโรป โดยมี จีนและอินเดีย เป็นตัวนำ อีกทั้ง 30 เมืองใหญ่ในโลก มีถึง 19 เมืองอยู่ในเอเชีย และกรุงเทพฯ ก็เป็นอันดับที่ 22 ด้วย ซึ่งมีความพร้อมทุกด้าน ทั้งวัฒนธรรม อาหาร ชอปปิ้ง ธรรมชาติ เป็นต้น
นายชาติ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ โครงการ เซ็นทรัลเอ็มบาสซี กล่าวว่า พื้นที่ค้าปลีกในโครงการนี้มี 70,000 ตารางเมตร จะแบ่งเป็น ร้านอาหาร 30% แฟชั่น 30% จะเป็นแบรนด์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในไทยหรือร้านแบรนด์เดิมแต่เป็นคอนเซ็ปท์ใหม่ ที่เหลือ 40% เป็นพวกเอนเตอร์เทนเม้นต์ เวลเนส ตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ โดยมีร้านค้ามากกว่า 200 ยูนิต ขนาดเฉลี่ย 180 ตารางเมตร เริ่มค่าเช่าที่ 2,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป
ส่วนโรงแรมพื้นที่ 35,000 ตารางเมตร จำนวน 222 ห้อง มีพื้นที่ห้องเฉลี่ย 65 ตารางเมตรซึ่งใหญ่กว่าโรงแรมอื่นด้วยกัน ส่วนโรงหนังระดับอัลตร้าพรีเมียมคาดว่าจะมีประมาณ 5 โรง อยู่ระหว่างการเจรจากับรายใหญ่ คาดปีนี้ต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทในการพัฒนาโครงการ
โครงการเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ดำเนินงานในนามของบริษัท เซ็นทรัล เอ็มบาสซี จำกัด สูง 37 ชั้น แบ่งเป็นศูนย์การค้า 8 ชั้น รวมใต้ดิน และอีก 30 ชั้นเป็นโรงแรมและสวนลอยฟ้า พื้นที่โครงการวม 144,000 ตารางเมตร ออกแบบโดยบริษัทพีไอดีไซน์ เริ่มก่อสร้างไตรมาสแรกปีนี้
นายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือซีอาร์ซี เปิดเผยว่า โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ถนนวิทยุ (ที่ดินสถานทูตอังกฤษเดิม) ที่มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ใหญ่ที่สุดของซีอาร์ซี จะเปิดตัวและขายพื้นที่เป็นทางการในวันนี้ จะเป็นโครงการศูนย์การค้าและโรงแรมที่จะสร้างให้เป็นไอคอนของเอเชีย เทียบเท่ากับโครงการใหญ่อย่าง ไทเป101ที่ไต้หวัน ไอเอฟซีที่เซี่ยงไฮ้ แปซิฟิคเพลสที่ฮ่องกง หรือโตเกียวมิดทาวน์ที่ญี่ปุ่น
ในย่านดังกล่าวจะมีโครงการใหม่เกิดขึ้นรวมทั้งเซ็นทรัลเอ็มบาสซีและเปิดบริการภายในปี 2556 ไม่ต่ำกว่า 14 โครงการ ทำให้มีพื้นที่อาคารสำนักงานรวมกว่า 725,000 ตารางเมตร, โรงแรมระดับห้าดาว กว่า 5,000 ห้อง เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์กว่า 3,000 ยูนิต และคอนโดมิเนียมมากกว่า 5,000 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการกว่า 100,000 ล้านบาท
ที่ดินตรงนี้คือถนนเพลินจิตตัดกับถนนวิทยุจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในย่านนี้เช่นเดียวกับแยกราชประสงค์ ที่จะเป็นศูนย์กลางของการชอปปิ้งและท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ ซึ่งจะผลักดันให้กรุงเทพฯซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของโลกที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวคนทั่วโลกนิยมที่สุดต่อจาก ปารีส และลอนดอน โครงการของเราจะรองรับเป็นอย่างดีโดยจะเปิดบริการปี 2556
ที่สำคัญโครงการนี้จะมาเติมเต็มให้เซ็นทรัลชิดลม ให้เป็นผู้นำค้าปลีกต่อได้อีกอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะชิดลมยังขาดศูนย์บันเทิง ศูนย์อาหารขนาดใหญ่ ซึ่งเราจะทำทางเชื่อมสองอาคารด้วยกัน ทำให้มีทางเข้าติดกับบีทีเอสถึง 2 สถานี และยังมีโรงแรมซึ่งได้เซ็นสัญญากับเชนพาร์คไฮแอท เข้ามาบริหาร ซึ่งเป็นเชนอันดับหนึ่งของอเมริกา
และโครงการนี้จะทำให้กรุงเทพฯมีชื่อเสียงมากขึ้นและเป็นระดับอินเตอร์มากขึ้น คาดว่าโครงการนี้จะคืนทุนภายในเวลา 10 ปี
นอกจากนั้นโครงการนี้ยังรองรับความเปลี่ยนแปลงที่เอเชียจะกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของโลก มีประชากรมากกว่า 4,000 ล้านคน ซึ่งตอนนี้เศรษฐกิจเอเชียใหญ่กว่าอเมริกา และอนาคตก็จะใหญ่กว่าทวีปยุโรป โดยมี จีนและอินเดีย เป็นตัวนำ อีกทั้ง 30 เมืองใหญ่ในโลก มีถึง 19 เมืองอยู่ในเอเชีย และกรุงเทพฯ ก็เป็นอันดับที่ 22 ด้วย ซึ่งมีความพร้อมทุกด้าน ทั้งวัฒนธรรม อาหาร ชอปปิ้ง ธรรมชาติ เป็นต้น
นายชาติ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ โครงการ เซ็นทรัลเอ็มบาสซี กล่าวว่า พื้นที่ค้าปลีกในโครงการนี้มี 70,000 ตารางเมตร จะแบ่งเป็น ร้านอาหาร 30% แฟชั่น 30% จะเป็นแบรนด์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในไทยหรือร้านแบรนด์เดิมแต่เป็นคอนเซ็ปท์ใหม่ ที่เหลือ 40% เป็นพวกเอนเตอร์เทนเม้นต์ เวลเนส ตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ โดยมีร้านค้ามากกว่า 200 ยูนิต ขนาดเฉลี่ย 180 ตารางเมตร เริ่มค่าเช่าที่ 2,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป
ส่วนโรงแรมพื้นที่ 35,000 ตารางเมตร จำนวน 222 ห้อง มีพื้นที่ห้องเฉลี่ย 65 ตารางเมตรซึ่งใหญ่กว่าโรงแรมอื่นด้วยกัน ส่วนโรงหนังระดับอัลตร้าพรีเมียมคาดว่าจะมีประมาณ 5 โรง อยู่ระหว่างการเจรจากับรายใหญ่ คาดปีนี้ต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทในการพัฒนาโครงการ
โครงการเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ดำเนินงานในนามของบริษัท เซ็นทรัล เอ็มบาสซี จำกัด สูง 37 ชั้น แบ่งเป็นศูนย์การค้า 8 ชั้น รวมใต้ดิน และอีก 30 ชั้นเป็นโรงแรมและสวนลอยฟ้า พื้นที่โครงการวม 144,000 ตารางเมตร ออกแบบโดยบริษัทพีไอดีไซน์ เริ่มก่อสร้างไตรมาสแรกปีนี้