วานนี้(8 ก.พ.)นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน หัวหน้าทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคเพื่อไทย แถลงว่า กรอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจขณะนี้แบ่งออกเป็น 3 เรื่อง 1. ความมั่นคง ความไม่เป็นธรรมของข้าราชการ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การชุมนุมของคนเสื้อแดง 2. การทุจริตต่างๆ ซึ่งมีข้อมูลเข้ามามากจากของเดิมในพรรค และของคนนอกที่เห็นความไม่โปร่งใสและส่งข้อมูลเข้ามา เนื้อหาทุจริตซึ่งคัดออกไปแล้วเหลืออยู่ 28 เรื่อง 3.เรื่องเศรษฐกิจมีทั้งเศรษฐกิจจุลภาค และ มหภาค ปัญหาสินค้าราคาแพง ปัญหาหนี้สิน ปัญหางบประมาณของประเทศ โดยได้มอบหมายให้นายพีระพันธ์ พาลุสุข และ นายประยุทธ์ ศิริพานิช เป็นผู้ร่างญัตติอภิปรายและญัตติถอดถอน
สำหรับกรอบเวลาในการยื่นญัตติอภิปรายนั้นเนื่องจากในช่วงนี้สภาต้องพิจารณาเรื่องสำคัญมากมาย ไล่ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.เรื่องผลงานรัฐบาล วันที่ 11 ก.พ.จะลงมติการแก้ไขรธน. และ วันที่ 16 ก.พ.รัฐบาลจะเสนอร่างพรบ.งบกลางปี คาดว่าจะใช้เวลาสองวัน ซึ่งการยื่นญัตติอาจจะต้องเว้นไว้ซักช่วงหนึ่งถึงจะค่อยยื่น อย่างไรก็ตามจากข้อมูลที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก จะขอเวลารัฐบาลอภิปราย 5 วัน แต่อาจต่อรองได้เช่น 3-4 วัน เนื่องจากครั้งนี้เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายก่อนสภาจะหมดวาระ และเพื่อทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบตีแผ่ข้อมูลให้ประชาชนได้ตัดสิน
“การอภิปรายรอบนี้ จะไม่น่าเบื่อ หรือซ้ำซ้อนกันแน่ จะเป็นเหมือนหนังซีรีส์ ผมตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น ส่วนการอภิปรายจะเข้มข้นแค่ไหน ประชาชนจะเป็นคนตัดสินและสะท้อนผลหลังการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้แน่นนอน” นายมิ่งขวัญ กล่าว
ส่วนข้อมูลของกลุ่มพันธมิตรที่ออกมาโจมตีรัฐบาลจะมีหรือไม่นั้น นายมิ่งขวัญปฏิเสธที่จะตอบ แต่ยืนยันว่าเรื่องทุจริตรัฐบาลนี้มีเยอะ ไม่ว่า เรื่องข้าว ปาล์ม การประมูลระบบ 3 จี และเชื่อว่า จะไม่มีข้อมูลรั่วแน่เนื่องจากมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมารับผิดชอบเฉพาะเรื่อง เมื่อถามว่า จะได้ลุ้นเป็นนายกฯหรือไม่ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า “อย่างผมไม่ต้องลุ้นหรอกจะเป็นก็เป็นเลย”
รายงานข่าวแจ้งว่า พรรคเพื่อไทย รอดูท่าทีของรัฐบาล โดยเฉพาะสถานการณ์ต่าง ๆก่อนว่าจะมีอุบัติเหตุทางการเมืองใดๆหรือไม่ อย่างไรก็ตามหากยื่น คาดว่าจะยื่นขอเปิดอภิปรายระหว่างวันที่ 21-25 ก.พ.นี้
สำหรับกรอบเวลาในการยื่นญัตติอภิปรายนั้นเนื่องจากในช่วงนี้สภาต้องพิจารณาเรื่องสำคัญมากมาย ไล่ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.เรื่องผลงานรัฐบาล วันที่ 11 ก.พ.จะลงมติการแก้ไขรธน. และ วันที่ 16 ก.พ.รัฐบาลจะเสนอร่างพรบ.งบกลางปี คาดว่าจะใช้เวลาสองวัน ซึ่งการยื่นญัตติอาจจะต้องเว้นไว้ซักช่วงหนึ่งถึงจะค่อยยื่น อย่างไรก็ตามจากข้อมูลที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก จะขอเวลารัฐบาลอภิปราย 5 วัน แต่อาจต่อรองได้เช่น 3-4 วัน เนื่องจากครั้งนี้เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายก่อนสภาจะหมดวาระ และเพื่อทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบตีแผ่ข้อมูลให้ประชาชนได้ตัดสิน
“การอภิปรายรอบนี้ จะไม่น่าเบื่อ หรือซ้ำซ้อนกันแน่ จะเป็นเหมือนหนังซีรีส์ ผมตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น ส่วนการอภิปรายจะเข้มข้นแค่ไหน ประชาชนจะเป็นคนตัดสินและสะท้อนผลหลังการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้แน่นนอน” นายมิ่งขวัญ กล่าว
ส่วนข้อมูลของกลุ่มพันธมิตรที่ออกมาโจมตีรัฐบาลจะมีหรือไม่นั้น นายมิ่งขวัญปฏิเสธที่จะตอบ แต่ยืนยันว่าเรื่องทุจริตรัฐบาลนี้มีเยอะ ไม่ว่า เรื่องข้าว ปาล์ม การประมูลระบบ 3 จี และเชื่อว่า จะไม่มีข้อมูลรั่วแน่เนื่องจากมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมารับผิดชอบเฉพาะเรื่อง เมื่อถามว่า จะได้ลุ้นเป็นนายกฯหรือไม่ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า “อย่างผมไม่ต้องลุ้นหรอกจะเป็นก็เป็นเลย”
รายงานข่าวแจ้งว่า พรรคเพื่อไทย รอดูท่าทีของรัฐบาล โดยเฉพาะสถานการณ์ต่าง ๆก่อนว่าจะมีอุบัติเหตุทางการเมืองใดๆหรือไม่ อย่างไรก็ตามหากยื่น คาดว่าจะยื่นขอเปิดอภิปรายระหว่างวันที่ 21-25 ก.พ.นี้
