xs
xsm
sm
md
lg

ละครมหาดไทย : ตื่นเถิดมหาดไทย อย่ามัวหลับใหลลุ่มหลง

เผยแพร่:   โดย: รมย์ ธรรมวัฒนารมย์

ยามเมื่อเรามีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านขณะนี้ งานชายแดน และการปฏิบัติจึงเป็นเรื่องที่คนกระทรวงมหาดไทยจะต้องให้ความสำคัญและดำเนินการให้พร้อมอยู่เสมอ

ประเทศไทยมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านรวม 4 ประเทศด้วยกันคือ

ชายแดนด้านพม่า ทางทิศตะวันตก ครอบคลุมพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง

ชายแดนด้านลาว ทางทิศเหนือ ครอบคลุมพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

ชายแดนด้านมาเลเซีย ทางทิศใต้ ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สตูล สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี

สำหรับชายแดนด้านกัมพูชา ทางทิศตะวันออกที่มีปฏิบัติการทางทหารอยู่เวลานี้ จะครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด

เมื่อกระสุนปืนใหญ่จากกัมพูชายิงตกใส่หมู่บ้านภูมิซรอล อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีษะเกษ เย็นของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554

ภาพความเสียหายของอาคารบ้านเรือน โรงเรียน การเสียชีวิตของราษฎรและการอพยพแบบหนีตายของชาวบ้านในหมู่บ้านดังกล่าวได้ปรากฏทางสื่อมวลชนในเวลานั้น

กลายเป็นภาพสะท้อนของความไม่เข้มแข็งในมาตรการรักษาความมั่นคงชายแดนในส่วนของกระทรวง จังหวัด และอำเภอ ซึ่งเป็นส่วนที่มหาดไทยรับผิดชอบโดยตรง ทั้งๆ ที่รู้สถานการณ์บริเวณดังกล่าวว่าล่อแหลมที่จะเกิดภัยสงครามขึ้นได้ทุกเมื่อ

ดังนั้นเมื่อนายชวรัตน์ฯ อุตส่าห์มีวาสนาถูกดันให้มานั่งเก้าอี้ มท.1 จึงเป็นเรื่องที่ท่านต้องใฝ่หาความรู้ความเข้าใจในบทบาทฐานะแม่ทัพฝ่ายพลเรือนในงานชายแดน

เพราะเมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการพัฒนาเพื่อความมั่นคงของชาติ

มท.1 พึงรู้และต้องเข้าใจในยุทธศาสตร์ความมั่นคงชายแดนของประเทศในปัจจุบันด้วย เพราะนอกจากมาตรการป้องกันประเทศ ด้วยกำลังทหารของกองทัพภาคที่ 1-4 ซึ่งรับผิดชอบในการดูแลรักษาพรมแดนของประเทศโดยตรงแล้ว สภาความมั่นคงแห่งชาติได้กำหนดงานพัฒนาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนรวมทั้งจังหวัดชายฝั่งทะเลไว้ในรูปของยุทธศาสตร์ความมั่นคงชายแดน ซึ่งมีรายละเอียดที่ มท.1 ต้องไปศึกษาว่ายุทธศาสตร์ความมั่นคงชายแดน พ.ศ. 2550-2554 นั้น ท่านจะต้องสั่งการอะไร หรือติดตามเรื่องอะไร หรือต้องเตรียมการอะไรในเวลานี้

เพราะเมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานคณะกรรมการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน พ.ศ. 2522

มท.1 พึงรู้และต้องเข้าใจภารกิจในด้านการป้องกันและบรรเทาภัยด้านความมั่นคงของพลเรือนในภาวะไม่ปกติ ในภาษาคนมหาดไทย คือ การช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยสงครามจากการสู้รบตามแนวชายแดนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยให้กลับสู่สภาวะปกติอย่างทันท่วงทีและมีระบบ โดยเฉพาะบทบาทที่สำคัญในการปฏิบัติตามแผนการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง

หากท่านไม่รู้ว่าแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ให้ไปถามคนมหาดไทยที่อยู่ตามแนวชายแดนในอดีตที่ผ่านมาก็ได้ เพราะเขาเหล่านั้นมีประสบการณ์เชี่ยวชาญและสามารถรับสภาวะภัยคุกคามของฝ่ายตรงข้ามหรือข้าศึกได้ โดยเฉพาะหัวใจสำคัญ คือ การสร้างขวัญและกำลังให้แก่ราษฎรในเวลานี้เป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่ง

แต่การที่เห็นผู้ว่าราชการจังหวัดนั่งรถเก๋ง แต่งตัวเหมือนออกงานไปตรวจแนวชายแดน จึงไม่แน่ใจว่า มท.1 นั้น จะเข้าใจความหมายและแนวทางปฏิบัติในเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งอาจรวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอบางท่านที่เติบโตมาแบบก้าวกระโดด และมิได้เคยผ่านงานชายแดนมาก่อน คงปฏิบัติไม่ถูกต้องเช่นเดียวกัน

เพราะเมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มียศเป็นนายกองใหญ่ตาม พ.ร.บ.กองอาสารักษาดินแดน พ.ศ.2497

มท.1 พึงรู้และต้องเข้าใจในเครื่องหมาย “รักษาดินแดนยิ่งชีพ” ที่ท่านได้และประดับในเครื่องแบบในฐานะเป็น “นายกองใหญ่” กองอาสารักษาดินแดน ว่ามีความสำคัญยิ่งในตอนนี้เพราะ มท.1 เป็นผู้กำกับดูแลอาสาสมัคร และกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนทั้งประเทศ เขาเหล่านี้ สามารถบรรเทาภัยที่เกิดจากการกระทำของข้าศึก การรักษาสถานที่ รวมทั้งเป็นกำลังสำรองสำคัญในการสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารได้ รู้หรือไม่ว่ายามนี้ในฐานะนายกองใหญ่อย่าง มท.1 ต้องสั่งการ หรือดำเนินมาตรการใดๆ กับกำลังพลอาสารักษาดินแดนที่ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดให้ช่วยราษฎรชาวกันทรลักษณ์ได้อย่างไร

เพราะเมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457

มท.1 พึงรู้และต้องเข้าใจว่านายอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนคณะกรรมการหมู่บ้านซึ่งท่านกำกับอยู่จะมีขีดความสามารถ มีประสิทธิภาพ และการเป็นผู้นำให้แก่ราษฎรในยามคับขันได้มากน้อยเพียงใด และมท.1 ควรจะต้องสั่งการให้เขาเหล่านั้นช่วยเหลือราษฎรในปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไรดี

จึงไม่แน่ใจว่าในบทบาทของ มท.1 เมื่อถึงเวลานี้จะสามารถบันดาลหรือบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดกับราษฎรที่อยู่ตามแนวชายแดนกับกัมพูชาอย่างที่อำเภอกันทรลักษณ์ได้มากน้อยเพียงใด

ตื่นเถิดมหาดไทย อย่ามัวหลับใหลลุ่มหลง
กำลังโหลดความคิดเห็น