ASTVผู้จัดการรายวัน-"วิเชียร"สนองการเมือง เสนอออก พ.ร.บ.ความมั่นคง ตีกรอบการชุมนุมของพันธมิตรฯเชื่อหลังคณะรัฐมนตรี เห็นชอบ ตำรวจจะได้รับมอบหมายเป็นกองกำลังหลัก และพร้อมที่จะดำเนินการได้ทันที ย้ำพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคง ผู้ชุมนุมต้องออกจากพื้นที่บริเวณนั้น
วานนี้ (7 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.เปิดเผยถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศยกระดับการชุมนุมในวันที่ 11 ก.พ.นี้ ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เดินทางเข้าพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เพื่อพูดคุยหารือถึงการชุมนุมดังกล่าว ประกอบกับในวันที่ 13 ก.พ.นี้ กลุ่มคนเสื้อแดงได้ประกาศที่จะชุมนุมใหญ่เช่นกัน ซึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นมีความกระทบกับความมั่นคงของประเทศ ทาง ตร.จึงขอให้รัฐบาลจำกัดเขตพื้นที่ควบคุมการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยการให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นำเรื่องดังกล่าวเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาและขอความเห็นชอบตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เพื่อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีความชอบธรรมในการปฏิบัติหน้าที่
สำหรับพื้นที่ที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ได้แก่ สถานที่ราชการที่เป็นศูนย์กลางอำนาจรัฐ เช่น ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ส่วนจะมีขอบเขตกว้างขวางแค่ไหน หรือตามที่ ตร.เสนอไปนั้น ขอให้จำกัดในวงแคบมากที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนโดยทั่วไป
“หากตำรวจไม่มีกฎหมายความมั่นคงเป็นฐานอำนาจในการปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้กฎหมายปกติ ซึ่งก็คือประมวลกฎหมายอาญา ขอเรียนว่าเพียงเท่านี้ไม่เพียงพอที่จะดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยได้” ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า เมื่อมีการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ หากมีการชุมนุมปิดล้อมยึดพื้นที่อยู่อย่างนี้ตำรวจก็มีอำนาจโดยชอบที่เข้าไปดำเนินการ ซึ่งหลังประกาศพื้นที่แล้วตำรวจจะขอให้ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งไม่ว่านายกฯ จะให้ใครทำหน้าที่นี้ก็ตาม ออกข้อกำหนดห้ามบุคคลที่มีพฤติการณ์ที่อาจจะก่อให้เกิดความไม่สงบเข้ามาในพื้นที่ ตามมาตรา 18 อนุ 2 พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ
ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะดาวกระจายไปยังสถานที่ต่างๆ ในวันที่ 11 ก.พ. พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ตำรวจได้รวางแผนรับมือ เบื้องต้นเราต้องขอคืนพื้นที่ ส่วนจะขอคืนพื้นที่ในวันไหนต้องรอผลการประชุม ครม.ในวันที่ 8 ก.พ.ว่าจะมีการประกาศพื้นที่ตามที่ตำรวจเสนอหรือไม่ โดยเฉพาะ ถ้ามีการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาพ กลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องออกจากบริเวณพื้นที่ดังกล่าว
เมื่อถามว่าการที่เสนอให้มีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แสดงให้เห็นว่าการข่าวของตำรวจน่าเชื่อว่าสถานการณ์มีแนวโน้มจะรุนแรงหรือเลวร้ายมากขึ้น พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า สถานการณ์ในตอนนี้ก็น่าจะเพียงพอว่าแนวโน้มว่าจะเป็นไปอย่างนั้น โดยที่ผ่านมาทางฝ่ายพันธมิตรฯประกาศตลอดเวลาจะมีการดาวกระจาย รวมถึงบุกรุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล
**ขู่สลายพันธมิตรฯหลัง ครม.ผ่าน พรบ.ความมั่นคง
ต่อมาเวลา 17.00.น. พล.ต.อ.วิเชียร ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ว่า หากค.ร.ม. เห็นชอบพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แล้ว พื้นที่ที่ประกาศจะเป็นพื้นที่ความมั่นคงที่รัฐมนตรีมอบอำนาจให้ กอ.รมน. ดำเนินการ โดยคาดว่าตำรวจได้รับมอบหมายเป็นกองกำลังที่จะดำเนินการ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตำรวจก็เตรียมความพร้อมอยู่แล้ว และหากทันที่ที่ครม. ประกาศให้พรบ.ความมั่นคงแล้ว ตำรวจก็พร้อมที่จะดำเนินการได้ทันที
พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา การชุมนุมขนาดใหญ่หลายครั้ง ทางตำรวจเป็นผู้ดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งการเครื่องมือการจัดการบริหารการชุมนุมขนาดใหญ่ ซึ่งหมายถึงกฎหมาย อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะอยู่ระหว่างเข้า ครม. ซึ่งจะต้องดูแลวันนี้ (8 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีจะเสนอเข้า ครม.หรือไม่
วานนี้ (7 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.เปิดเผยถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศยกระดับการชุมนุมในวันที่ 11 ก.พ.นี้ ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เดินทางเข้าพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เพื่อพูดคุยหารือถึงการชุมนุมดังกล่าว ประกอบกับในวันที่ 13 ก.พ.นี้ กลุ่มคนเสื้อแดงได้ประกาศที่จะชุมนุมใหญ่เช่นกัน ซึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นมีความกระทบกับความมั่นคงของประเทศ ทาง ตร.จึงขอให้รัฐบาลจำกัดเขตพื้นที่ควบคุมการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยการให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นำเรื่องดังกล่าวเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาและขอความเห็นชอบตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เพื่อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีความชอบธรรมในการปฏิบัติหน้าที่
สำหรับพื้นที่ที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ได้แก่ สถานที่ราชการที่เป็นศูนย์กลางอำนาจรัฐ เช่น ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ส่วนจะมีขอบเขตกว้างขวางแค่ไหน หรือตามที่ ตร.เสนอไปนั้น ขอให้จำกัดในวงแคบมากที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนโดยทั่วไป
“หากตำรวจไม่มีกฎหมายความมั่นคงเป็นฐานอำนาจในการปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้กฎหมายปกติ ซึ่งก็คือประมวลกฎหมายอาญา ขอเรียนว่าเพียงเท่านี้ไม่เพียงพอที่จะดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยได้” ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า เมื่อมีการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ หากมีการชุมนุมปิดล้อมยึดพื้นที่อยู่อย่างนี้ตำรวจก็มีอำนาจโดยชอบที่เข้าไปดำเนินการ ซึ่งหลังประกาศพื้นที่แล้วตำรวจจะขอให้ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งไม่ว่านายกฯ จะให้ใครทำหน้าที่นี้ก็ตาม ออกข้อกำหนดห้ามบุคคลที่มีพฤติการณ์ที่อาจจะก่อให้เกิดความไม่สงบเข้ามาในพื้นที่ ตามมาตรา 18 อนุ 2 พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ
ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะดาวกระจายไปยังสถานที่ต่างๆ ในวันที่ 11 ก.พ. พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ตำรวจได้รวางแผนรับมือ เบื้องต้นเราต้องขอคืนพื้นที่ ส่วนจะขอคืนพื้นที่ในวันไหนต้องรอผลการประชุม ครม.ในวันที่ 8 ก.พ.ว่าจะมีการประกาศพื้นที่ตามที่ตำรวจเสนอหรือไม่ โดยเฉพาะ ถ้ามีการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาพ กลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องออกจากบริเวณพื้นที่ดังกล่าว
เมื่อถามว่าการที่เสนอให้มีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แสดงให้เห็นว่าการข่าวของตำรวจน่าเชื่อว่าสถานการณ์มีแนวโน้มจะรุนแรงหรือเลวร้ายมากขึ้น พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า สถานการณ์ในตอนนี้ก็น่าจะเพียงพอว่าแนวโน้มว่าจะเป็นไปอย่างนั้น โดยที่ผ่านมาทางฝ่ายพันธมิตรฯประกาศตลอดเวลาจะมีการดาวกระจาย รวมถึงบุกรุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล
**ขู่สลายพันธมิตรฯหลัง ครม.ผ่าน พรบ.ความมั่นคง
ต่อมาเวลา 17.00.น. พล.ต.อ.วิเชียร ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ว่า หากค.ร.ม. เห็นชอบพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แล้ว พื้นที่ที่ประกาศจะเป็นพื้นที่ความมั่นคงที่รัฐมนตรีมอบอำนาจให้ กอ.รมน. ดำเนินการ โดยคาดว่าตำรวจได้รับมอบหมายเป็นกองกำลังที่จะดำเนินการ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตำรวจก็เตรียมความพร้อมอยู่แล้ว และหากทันที่ที่ครม. ประกาศให้พรบ.ความมั่นคงแล้ว ตำรวจก็พร้อมที่จะดำเนินการได้ทันที
พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา การชุมนุมขนาดใหญ่หลายครั้ง ทางตำรวจเป็นผู้ดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งการเครื่องมือการจัดการบริหารการชุมนุมขนาดใหญ่ ซึ่งหมายถึงกฎหมาย อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะอยู่ระหว่างเข้า ครม. ซึ่งจะต้องดูแลวันนี้ (8 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีจะเสนอเข้า ครม.หรือไม่