พ.อ.บรรพูต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้พบความเคลื่อนไหวของคนร้าย มีความพยายามสร้างสถานการณ์ความรุนแรงทุกรูปแบบเพื่อโหนกระแสความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเป้าหมายที่มีผลกระทบต่อความรู้สึกและความเชื่อมั่นของภาคประชาชนที่มีต่อหน่วยงานรัฐทั้งเป้าหมายบุคคลและเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งล่าสุดเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายลอบปาระเบิดใส่ สภ.ราตาปันยัง จ.ปัตตานี ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าแถวเคารพธงชาติ น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างความรุนแรงเชิงสัญลักษณ์ โดยพุ่งเป้าสถานที่ราชการต่างๆ เพื่อหวังลดความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ และสร้างความรุนแรงให้เกิดอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้มีการประสานแจ้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งในส่วนของทหาร ตำรวจและกองกำลังภาคประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสอบ และเฝ้าระวังสถานที่เป็นกรณีพิเศษเพื่อป้องกันการลอบสร้างสถานการณ์ในช่วงนี้ โดยเฉพาะในส่วนของหน่วยปฎิบัติการทหารที่เบื้องต้นได้แจ้งประสานให้ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทุกพื้นที่เร่งจัดระเบียบ และปรับแผนมาตรการดูแลฐานปฎิบัติการต่างๆทั้งฐานปฎิบัติการหลักและฐานปฎิบัติการย่อยอย่างเต็มที่เพื่อความไม่ประมาท
"ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา คนร้ายพยายามสร้างกระแสความขัดแย้งในกลุ่มประชาชนที่นับถือต่างศาสนา เพื่อแยกความสามัคคีในระดับชุมชนฐานราก ทำให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะการมุ่งทำร้ายชาวบ้านที่เป็นกลุ่มชาวไทยพุทธอย่างชัดเจน โดยทั้งหมดล้วนเป็นแผนการสำคัญที่กลุ่มขบวนการต้องการให้เกิดรูปแบบสงครามศาสนา โดยใช้อารมณ์ และความรู้สึกของประชาชนเป็นเครื่องมือเบื้องต้นทุกฝ่ายในพื้นที่ได้ร่วมกันทำความเข้าใจและชี้แจงประชาชนไม่ให้ตกหลุมพรางที่คนร้ายวางแผนเอาไว้ กระทั่งขณะนี้กลุ่มคนร้ายได้หันมาใช้รูปแบบการโจมตีสถานที่เชิงสัญลักษณ์ เพื่อหวังดิตเครดิตเจ้าหน้าที่รัฐ" พ.อ.บรรพต กล่าว
**ส่งกำลังเฝ้าระวัง 60 ชุมชนไทยพุทธ
พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ปัตตานี อย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนบางส่วนรู้สึกไม่ปลอดภัยในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรายวัน โดยเฉพาะชุมชนชาวไทยพุทธ ที่ตกเป็นเป้าหมายในการสร้างความรุนแรง ล่าสุดได้มีการประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านอย่างเร่งด่วน
โดยเฉพาะการเข้าไปดูแลความปลอดภัยเพิ่มเติมเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนไทยพุทธในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ ในจ.ปัตตานี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 60 ชุมชน ซึ่งล่าสุดได้จัดเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งทั้งเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบเข้าไปร่วมกับชาวบ้านและแหล่งข่าวในพื้นที่เพื่อออกหาข่าวและความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการผู้ก่อเหตุความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง
"ขณะนี้กองกำลัง 3 ฝ่าย ได้มีการวางแผนยุทธศาสตร์การป้องกันและดูแลความปลอดภัยแล้วในระดับพื้นที่อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการเข้าไปร่วมกับกองกำลังภาคประชาชนของแต่ละพื้นที่ในการตั้งฐานปฏิบัติการ หรือ ตั้งด่านตรวจและด่านสกัดตามเส้นทางสายหลักและรองในพื้นที่ชุมชนเสี่ยงภัย รวมถึงการเพิ่มความระมัดระวังในการจัดเวรยามเพื่อตรวจสอบบุคคที่เดินทางเข้า-ออกหมู่บ้านอย่างละเอียดตลอด24 ชั่วโมงเป็นการป้องปรามและเฝ้าระวังเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น" พล.ต.ต.พิเชษฐ์ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าในการติดตามกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุความรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถติดตามและแกะรอยกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุได้แล้วจนนำไปสู่การเตรียมออกหมายจับคนร้ายเพิ่มเติมอีกประมาณ 2 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อพิจารณาขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดปัตตานีต่อไป
ล่าสุด กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้มีการประสานแจ้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งในส่วนของทหาร ตำรวจและกองกำลังภาคประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสอบ และเฝ้าระวังสถานที่เป็นกรณีพิเศษเพื่อป้องกันการลอบสร้างสถานการณ์ในช่วงนี้ โดยเฉพาะในส่วนของหน่วยปฎิบัติการทหารที่เบื้องต้นได้แจ้งประสานให้ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทุกพื้นที่เร่งจัดระเบียบ และปรับแผนมาตรการดูแลฐานปฎิบัติการต่างๆทั้งฐานปฎิบัติการหลักและฐานปฎิบัติการย่อยอย่างเต็มที่เพื่อความไม่ประมาท
"ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา คนร้ายพยายามสร้างกระแสความขัดแย้งในกลุ่มประชาชนที่นับถือต่างศาสนา เพื่อแยกความสามัคคีในระดับชุมชนฐานราก ทำให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะการมุ่งทำร้ายชาวบ้านที่เป็นกลุ่มชาวไทยพุทธอย่างชัดเจน โดยทั้งหมดล้วนเป็นแผนการสำคัญที่กลุ่มขบวนการต้องการให้เกิดรูปแบบสงครามศาสนา โดยใช้อารมณ์ และความรู้สึกของประชาชนเป็นเครื่องมือเบื้องต้นทุกฝ่ายในพื้นที่ได้ร่วมกันทำความเข้าใจและชี้แจงประชาชนไม่ให้ตกหลุมพรางที่คนร้ายวางแผนเอาไว้ กระทั่งขณะนี้กลุ่มคนร้ายได้หันมาใช้รูปแบบการโจมตีสถานที่เชิงสัญลักษณ์ เพื่อหวังดิตเครดิตเจ้าหน้าที่รัฐ" พ.อ.บรรพต กล่าว
**ส่งกำลังเฝ้าระวัง 60 ชุมชนไทยพุทธ
พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ปัตตานี อย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนบางส่วนรู้สึกไม่ปลอดภัยในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรายวัน โดยเฉพาะชุมชนชาวไทยพุทธ ที่ตกเป็นเป้าหมายในการสร้างความรุนแรง ล่าสุดได้มีการประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านอย่างเร่งด่วน
โดยเฉพาะการเข้าไปดูแลความปลอดภัยเพิ่มเติมเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนไทยพุทธในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ ในจ.ปัตตานี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 60 ชุมชน ซึ่งล่าสุดได้จัดเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งทั้งเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบเข้าไปร่วมกับชาวบ้านและแหล่งข่าวในพื้นที่เพื่อออกหาข่าวและความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการผู้ก่อเหตุความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง
"ขณะนี้กองกำลัง 3 ฝ่าย ได้มีการวางแผนยุทธศาสตร์การป้องกันและดูแลความปลอดภัยแล้วในระดับพื้นที่อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการเข้าไปร่วมกับกองกำลังภาคประชาชนของแต่ละพื้นที่ในการตั้งฐานปฏิบัติการ หรือ ตั้งด่านตรวจและด่านสกัดตามเส้นทางสายหลักและรองในพื้นที่ชุมชนเสี่ยงภัย รวมถึงการเพิ่มความระมัดระวังในการจัดเวรยามเพื่อตรวจสอบบุคคที่เดินทางเข้า-ออกหมู่บ้านอย่างละเอียดตลอด24 ชั่วโมงเป็นการป้องปรามและเฝ้าระวังเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น" พล.ต.ต.พิเชษฐ์ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าในการติดตามกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุความรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถติดตามและแกะรอยกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุได้แล้วจนนำไปสู่การเตรียมออกหมายจับคนร้ายเพิ่มเติมอีกประมาณ 2 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อพิจารณาขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดปัตตานีต่อไป