xs
xsm
sm
md
lg

บทเรียนจากเมืองอาหรับ

เผยแพร่:   โดย: ไสว บุญมา

การชุมนุมประท้วงเพื่อขับไล่รัฐบาลกำลังแพร่ขยายออกไปในประเทศอาหรับหลังจากชาวตูนิเซียขับไล่ประธานาธิบดีของตนสำเร็จเมื่อเดือนที่แล้ว บางแห่งมีคนตายไม่ต่างกับในตูนิเซีย เช่น ในอียิปต์ บางแห่งยังไม่ถึงกับร้ายแรงขนาดนั้น เช่น ในเยเมน ผู้รอบรู้เกี่ยวกับประเทศเหล่านั้นพากันคาดว่า การประท้วงในแนวเดียวกันจะแพร่ขยายต่อไปในประเทศอาหรับอื่นๆ ที่มีปัจจัยพื้นฐานคล้ายกัน เนื่องจากในสมัยที่ยังทำงานอยู่ในธนาคารโลก ผมได้เคยไปสัมผัสโดยตรงกับประเทศอาหรับเป็นส่วนใหญ่ ขอนำข้อสังเกตบางอย่างมาเล่าซึ่งทั้งรัฐบาล ชนชั้นผู้นำและผู้สนใจอาจนำมาใช้เป็นข้อคิด

ประเทศอาหรับส่วนใหญ่ไม่มีฝน พื้นดินจึงแห้งจนเป็นทะเลทรายทำให้ผลิตอาหารได้เพียงจำกัด บางประเทศมีน้ำมันปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติมหาศาล จึงขายทรัพยากรเหล่านั้นเอาเงินมาเลี้ยงประชาชนได้เป็นอย่างดี ส่วนประเทศที่มีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพียงเล็กน้อยมักยากจน หรือไม่ก็พัฒนาไปอย่างเชื่องช้ารวมทั้งประเทศทั้งสามที่กล่าวถึงด้วย

แม้จะมีทรัพยากรเพียงจำกัดและค่อนข้างยากจน แต่ประชาชนกลับมีลูกกันค่อนข้างมาก เยเมนซึ่งยากจนที่สุดในบรรดาประเทศอาหรับทั้งหลายยังมีอัตราการขยายตัวของประชากรสูงสุดคือราว 3% ต่อปี ส่วนชาวอียิปต์ขยายตัวราว 1.7% ต่อปี และชาวตูนิเซียราว 1.1% ต่อปี อัตราการเกิดสูงขนาดนี้มีผลพวงสำคัญยิ่งในด้านความต้องการอาหารซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศ รัฐบาลพยายามควบคุมราคาอาหาร ยังผลให้ต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลแต่ละปีจนแทบไม่มีเงินเหลือสำหรับการลงทุนในปัจจัยพื้นฐาน ปราศจากปัจจัยนั้น เศรษฐกิจและสังคมย่อมพัฒนาได้ช้า

การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากรนำไปสู่ความต้องการงานทำจำนวนมาก เมื่อเศรษฐกิจขยายตัวได้ช้า คนหนุ่มสาวในอัตราสูงหางานทำไม่ได้ หรือได้งานทำไม่เต็มเวลาซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสังคมและความยากจน ผลลัพธ์คือเกิดความไม่พอใจขึ้นในผู้คนเหล่านั้นซึ่งนานวันเข้าก็กลายเป็นไฟสุมขอนที่ร้อนระอุและคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา
อนึ่ง ใน 3 ประเทศที่กล่าวถึง ประธานาธิบดีครองอำนาจอยู่นานมาก จาก 23 ปีในตูนิเซีย 29 ปีในอียิปต์ ถึง 32 ปีในเยเมน จริงอยู่ประธานาธิบดีเหล่านั้นได้อำนาจมาจากการเลือกตั้ง แต่กระบวนการเลือกตั้งมักไม่ค่อยตรงไปตรงมา ที่เป็นเช่นนั้นเพราะชนชั้นผู้นำมีความฉ้อฉลอยู่ในกมลสันดาน ยิ่งกว่านั้น ยังใช้อำนาจเอื้อให้สมาชิกในครอบครัวของตัวเองและพวกพ้องได้รับตำแหน่งสำคัญๆ ในรัฐบาลและมีโอกาสดีเป็นพิเศษที่จะสร้างความร่ำรวยด้วยการทำธุรกิจ ทั้งจากสัมปทานของรัฐและจากการได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดต่างๆ สิ่งเหล่านั้นล้วนสร้างความคับแค้นใจให้ประชนที่ไม่ได้ประโยชน์ซึ่งรวมเข้าไปเป็นเชื้อไฟสุมขอนเพิ่มขึ้นอีก

ประชาชนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมไม่สามารถหาทางออกที่พอใจได้เนื่องจากอำนาจรัฐไม่เปิดโอกาสให้ทำ นี่เป็นอีกด้านหนึ่งซึ่งช่วยเติมเชื้อเพลิงลงไปบนไฟสุมขอน

ความร้อนระอุซึ่งคุกรุ่นอยู่นานนับปีปะทุออกมาในตูนิเซียเมื่อหนุ่มใหญ่จุดไฟเผาตัวเองเพื่อประท้วงรัฐบาล เขาทำเช่นนั้นเพราะถูกเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้งโดยห้ามมิให้ขายผลไม้ซึ่งเป็นอาชีพที่เขาหาเงินเลี้ยงแม่และน้อง ข่าวการเผาตัวตายของเขาเป็นลมที่โหมให้เชื้อไฟลุกโพลงขึ้นพร้อมกันทั่วตูนิเซียและขับไล่ประธานาธิบดีให้หนีออกนอกประเทศ ความสำเร็จของชาวตูนิเซียถูกลอกเลียนแบบทันทีในประเทศที่มีสภาพคล้ายกัน เริ่มจากอียิปต์แล้วกระจายไปยังประเทศอื่น

อาจมีคำถามว่าเพราะเหตุใดชาวอาหรับในหลายประเทศจึงทนต่อความยากจนและการเอาเปรียบของชนชั้นนำได้เป็นเวลานานนับสิบปี คำตอบอาจมีส่วนประกอบหลากหลาย แต่ผมมองว่าส่วนที่น่าพิจารณาว่ามีความสำคัญอันดับต้นๆ คือ พวกเขาเป็นมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ซึ่งมักเชื่ออย่างฝังใจว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่เหตุการณ์ในเวลาประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ย่อมชี้ให้เห็นแล้วว่า ความอดทนของคนมีขีดจำกัด

เทียบกับประเทศเหล่านั้น เมืองไทยต่างกับพวกเขาราวฟ้ากับดินในเรื่องทรัพยากรน้ำซึ่งเมืองไทยมีมากมายทำให้ผลิตอาหารได้เกินความต้องการ แต่เมืองไทยก็เริ่มไม่ต่างกับพวกเขาในด้านการมีคนเกินสมดุลกับทรัพยากรยังผลให้ใช้ความฉ้อฉลช่วงชิงกันมากขึ้น ในกระบวนการนี้ พวกมีอำนาจและชนชั้นนำพยายามเอาเปรียบคนส่วนใหญ่เพื่อกอบโกยทรัพยากรมาไว้เป็นของตน ส่งผลให้เกิดความไม่เป็นธรรมและความเหลื่อมล้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ

คนไทยส่วนใหญ่ยึดถือเรื่องกรรมจึงทนดูความไม่เป็นธรรมและความเหลื่อมล้ำได้ค่อนข้างยาวนาน แต่ความอดทนนั้นย่อมมีขีดจำกัดเช่นเดียวกับของชาวอาหรับ ฉะนั้น ชนชั้นนำที่มีความฉลาดจะต้องตระหนักในเรื่องนี้และสมัครใจที่จะไม่ยอมให้ความไม่เป็นธรรมและความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นต่อไปเพื่อป้องกันมิให้เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในเมืองอาหรับเกิดขึ้นในเมืองไทยซึ่งจะสร้างความเสียหายให้แก่พวกเขามากที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น