xs
xsm
sm
md
lg

รัฐเล่นเกมสกปรก! รวบตัว‘การุณ’ทันควัน หลังกลับจากเยี่ยม‘วีระ’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ศาลให้ประกันตัว"การุณ"ด้วยเงิน2แสน ตม.รวบ "การุณ ใสงาม" คดีบุกสนามบิน คาสุวรรณภูมิหลังกลับจากเยี่ยม "วีระ-ราตรี" ที่กัมพูชา เจ้าตัวลั่นพร้อมสู้ทุกอย่าง คุมฝากขังศาล ทนายยื่นค้านตร.ฝากขังไม่ชอบด้วยกฏหมาย ก่อนศาลยกคำร้องฝากขัง "บรรณวิทย์" หอบ 2 แสน ขอประกันตัว ศาลพิจารณาอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ด้าน"ปานเทพ" เชื่อจับ"การุณ"เป็นเกมการเมือง ขณะที่"เทือก"อ้างเป็นหน้าที่ที่ต้องจับ

วานนี้ (3 ก.พ.) เมื่อเวลา 00.10 น.ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม รอง ผบก.ป. รับมอบตัว นายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2219 และ 2223/2553 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2553 ในคดีร่วมกันชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลังถูก พ.ต.ท.อมรศักดิ์ แสงวรรณ สว.สส.บก.ตม.2 พร้อมกำลังร่วมกันจับกุมตัวหลังเดินทางกลับจากประเทศกัมพูชา ด้วยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ทีจี585 ภายหลังไปเยี่ยมนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ถูกศาลกุมพูชาตัดสินจำคุก ก่อนประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามให้รับตัวไปสอบสวน

นายการุณ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ตนถูกควบคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลังกลับจากเขมร ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ดูข้อหาตามหมายจับว่ามีข้อหาใดบ้าง

พ.ต.อ.มนตรีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะให้ความสะดวกกับ นายการุณ และผู้สนับสนุนทุกคน ซึ่งจะเร่งสอบสวนและให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้นก็ได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่แล้ว แต่คาดว่าไม่น่าจะมีอะไรน่าเป็นห่วง

ด้าน พ.ต.อ.เอกรัตน์ ลิ้มสังกาศ ผกก.สส.บก.น.9 ในฐานะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปจะแจ้งข้อหาให้นายการุณทราบ และสอบปากคำอย่างเร็วที่สุด หากขั้นตอนการสอบปากคำเสร็จสิ้นก็จะพิจารณาให้ประกันตัว โดยใช้หลักทรัพย์ไม่เกิน 3 แสนบาท อย่างไรก็ตามเบื้องต้น นายการุณปฏิเสธไม่ขอประกันตัวแต่อย่างใด ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา

ต่อมา น.ส.เจติญา ใสงาม น้องสาวนายการุณเดินทางที่กองปราบปรามเพื่อขอเข้าพบพี่ชาย แต่เจ้าหน้าที่ได้ปฏิเสธไป เนื่องจากอยู่ในระหว่างการสอบสวน โดย น.ส.เจติญา กล่าวว่า ทราบข่าวจากญาติว่าพี่ชายถูกจับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่ได้รู้สึกตกใจหรือกังวลแต่อย่างใด แต่อยากเข้าไปพูดคุยกับพี่ชายเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายการุณ ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 4 ข้อหา คือ 1.มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ 2.เข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป 3.กระทำด้วยประการใดๆ ให้ทางสาธารณะอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่การจราจร และ 4.กระทำด้วยประการใดๆให้การสื่อสารสาธารณะทางไปรษณีย์ขัดข้อง

ต่อมาเวลา 11.20 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายการุณได้เดินขึ้นไปยังชั้น 2 ของกองปราบปราม เพื่อให้การต่อพนักงานสอบสวนต่อไป

ขณะที่นายณฐพร โตประยูร ทนายความกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายการุณ ใสงาม แล้วจะมีการฝากขังที่ศาลอาญา ซึ่งในเบื้องต้นจะได้ยื่นประกันในชั้นสอบสวน และจะคัดค้านการฝากขัง

ต่อมาเวลา 13.15 น. ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผกก.สส.บก.น.9 พนักงานสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควบคุมตัว นายการุณ ใสงาม อายุ 59 ปี อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดบุรีรัมย์ แนวร่วมเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ผู้ต้องหาคดีร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2386/2553 ลงวันที่ 27 ต.ค. 53 มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 14 ก.พ.นี้ เนื่องจาก การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องรอผลการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร และเสนอสำนวนต่อ ผบ.ตร. เพื่อมีความเห็นทางคดีตามข้อบังคับกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยระเบียบการดำเนิน คดีอาญา พ.ศ.2523 ข้อ 9.1.5

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนระบุด้วยว่า ไม่ขอคัดค้านการประกันตัว หากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวแล้วจะไม่เข้าไปร่วมการชุมนุม หรือ กิจกรรมทางการเมืองอื่นใด อันมิใช่การใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารหรือให้สัมภาษณ์ต่อสารณชนในทางที่เป็นอุปสรรคต่อการ สืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้

คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อ วันที่ 20 พ.ย.- 3 ธ.ค. 51 นายการุณ ผู้ต้องหา ได้ร่วมกับกลุ่มพันมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยได้กล่าวปราศรัยพูดปลุกระดมให้กำลังใจผู้ชุมนุม บนเวทีหน้าทำเนียบรัฐบาล และ ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และสุวรรณภูมิ หลายครั้ง ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่มีการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยพฤติการณ์ดังกล่าวผู้ต้องหาได้ทำหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายจากกลุ่มพันธมิตร ฯ ให้เป็นผู้พูดปราศรัยโดยมีข้อความที่ทำให้เกิดความปั่นป่วนถึงขนาดจะก่อความ ไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร จึงถือได้ว่าผู้ต้องหาทั้งสอง ได้ร่วมกระทำผิดลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำกับผู้ต้องหาอื่นๆ ในคดีนี้ซึ่งได้ละเมิดกฎหมายหลายฉบับ หลายฐานความผิด โดยผู้ต้องหารู้ถึงกระทำที่เล็งเห็นผลในการกระทำนั้น

ทั้งนี้ผู้ต้องหาถูกจับกุมตามหมายจับศาลอาญา เมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 3 ก.พ. ซึ่งผู้ต้องหา ถูกกล่าวโทษรวม 4 ข้อหาประกอบด้วย 1.มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง 2. เข้า ไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุข หรือ ไม่มีเหตุอันควรเข้าไปในอาการหรือสำนักงานที่อยู่ในการครอบครองของผู้อื่น 3. กระทำด้วยประการใดๆ ให้ทางสาธารณะอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่การจลาจล 4. กระทำด้วยประการใดๆ ให้การสื่อสารสาธารณะ ทางไปรษณีย์ขัดข้อง 8. ทำ ให้เสียหาย ทำลายทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น หรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215,229,235,364,395(1)(2)ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

ศาลรับคำร้องไว้พิจารณา โดยสอบถามผู้ต้องหาแล้วคัดค้านการฝากขัง พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เนื่องจากเชื่อว่าการฝากขังของพนักงานสอบสวนมิชอบด้วยกฎหมาย

ด้าน นายณฐพร โตประยูร ทนายความผู้ต้องหา กล่าวว่า ทีมทนายความได้ยื่นคำร้องขอคัดค้านการฝากขังของพนักงานสอบสวน เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีเพียง 4 ข้อหา โดยมีโทษหนักสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 142 (3) ระบุว่า เมื่อพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเสร็จสิ้นให้ลงความเห็น โดยไม่ต้องส่งสำนวนให้กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณาขอความเห็นทางคดี จึงไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องฝากขัง ทั้งนี้หากศาลเปิดไต่สวนคำร้องนายการุณ ขึ้นเป็นพยานเบิกความด้วยตัวเอง

ต่อมาเวลา 14.30 น. ศาลอาญา เปิดห้องพิจารณา 614 ไต่สวนคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวน โดย พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผกก.สส.บก.น.9 พนักงานสอบสวน ขึ้นเบิกความเป็นพยานต่อศาลเพียงปากเดียว ขณะที่ นายการุณ ทำหน้าที่เป็นทนายถามค้านด้วยตัว

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กระบวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จเนื่องจากยังอยู่ระหว่างขั้นตอนส่งสำนวนการสอบสวนให้ ผบ.ตร.มีความเห็นชี้ขาด พนักงานสอบสวนจึงมีอำนาจฝากขังผู้ต้องหาได้ตามกฎหมาย จึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหา และให้ยกคำร้องคัดค้านของผู้ต้องหา

ต่อมา พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีต รองปลัดกระทรวงกลาโหม และสมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.)ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 2 แสนบาท ขอประกันตัวนายการุณ ซึ่ง ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยตีราคาประกัน 2 แสนบาท

ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวว่า การที่นายการุณ ใสงาม แกนนำเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ถูกจับกุมที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น แม้จะมีหมายจับอยู่ แต่ช่วงเวลาการจับกุม มีความหมายมาก เพราะขณะนี้นายการุณ เป็น 1 ในคณะทนายต่อสู้คดีให้ 2 คนไทย ที่ถูกศาลกัมพูชาตัดสินให้จำคุกอยู่ แต่รัฐบาลกลับเลือกเวลานี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้หลายเดือนไม่มีการจับกุม จึงขอตั้งข้อสงสัยว่า เป็นเกมการเมืองหรือไม่ หรือต้องการที่จะสกัดการต่อสู้ในชั้นศาลของนายวีระ สมความคิด และ นางราตรี พิพัฒนาไพบูลย์

ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายการุณ ใสงาม ทีมทนายความเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ในข้อหาบุกรุกสนามบินสุวรรณภูมิ ว่า ตนยังไมได้รับรายงานเรื่องนี้ แต่คิดว่าการจับกุมเป็นไปตามหมายจับที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการ ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาคดียึดสนามบินส่วนใหญ่เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว มีอยู่ประมาณ 7 ราย ที่ไม่ยอมมอบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องออกหมายจับ เมื่อพบตัวก็ต้องดำเนินการจับกุม กลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องแยกแยะให้ได้ว่า อะไรเป็นอะไร คนที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมต้องมีเหตุผล เมื่อถามว่า การจับกุมนายการุณ ครั้งนี้เป็นเพราะไปร่วมการเคลื่อนไหวกับกลุ่มพันธมิตรฯ ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าไม่เกี่ยวกัน โยงผิดเรื่องแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น