นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมในวันที่ 13 ก.พ. และจะไปที่ศาลอาญา และศาลฏีกา เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่ยอตัวแกนนำนปช. ที่ถูกจำคุกอยู่ว่า ไม่ทราบประเด็นที่จะไปเสนอ คืออะไร แต่ยืนยันว่า ฝ่ายตุลาการมีความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ และเชื่อมั่นว่าระบบของเราเป็นระบบที่ยึดถือความถูกต้อง เรื่องของกฎหมาย เราจะต้องให้ความมั่นใจกับทางตุลาการว่า ท่านสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเที่ยงตรงได้
อย่างไรก็ตามเวลามีการเคลือนไหว หรือมีข่าวเกี่ยวกับจุดที่อาจเป็นเป้าหมาย ซึ่งอาจเกิดความวุ่นวาย ก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ไปแล้ว อย่างก่อนหน้านี้มีสถานทูตของกัมพูชา เราก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพูดในลักษณะที่อาจมีการชุมนุมยืดเยื้อ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ทางเจ้าหน้าที่คงต้องไปพูดคุย เมื่อถามว่า หากมีปัญหาการชุมนุมยืดเยื้อเพิ่มอีก จะแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่อยากให้มี และคิดว่าผู้ชุมนุมเอง คงต้องคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไปด้วย
**เสื้อแดงฟ้องมาร์คไม่เข้าหลักเกณฑ์
นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงไปยื่นฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า ขณะนี้ต้องรอว่าทางศาลอาญาระหว่างประเทศ จะรับเรื่องหรือไม่
ส่วนเงื่อนไขที่เขายื่น ที่บอกว่า นายกรัฐมนตรี มีสัญชาติอังกฤษ ถือว่าเข้าเงื่อนไขหรือไม่ นายจุลสิงห์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับศาลอาญาระหว่างประเทศ เขาจะคิดแต่เนื้อหาที่ฟ้องไป ซึ่งการที่ไปยื่นศาลอาญาระหว่างประเทศ หมายถึงว่า ผู้ที่กระทำความผิดประเภทฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือ การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างแรง ตามที่กำหนดไว้ในธรรมนูญศาลอาญาระหว่างประเทศ ไม่ใช่ทุกเรื่อง
เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าร้ายแรงขนาดนั้นหรือไม่ นายจุลสิงห์ กล่าวว่า ต้องฟังศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นดุลพินิจของเขา ที่จะพิจารณา แต่อย่าลืมว่าเรายังไม่ได้เป็นภาคี ทั้งนี้ผลจะเป็นอย่างไร ศาลอาญาระหว่างประเทศเขาก็จะแจ้งมาที่ผู้ที่ยื่นไป
นายจุลสิงห์ ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดง จะเดินทางไปที่ศาลอาญาในวันที่ 13 ก.พ. ว่า ไม่เป็นไร ถ้าทุกคนทำตามสิทธิของตัวเอง แต่ก็ต้องอยู่ภายในกรอบของกฎหมาย
เมื่อถามว่าการที่กลุ่มเสื้อแดงไปตามสถานที่ต่างๆ โดยอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และเห็นว่ามีการกระทำ 2 มาตรฐาน อย่างเช่น กลุ่มเสื้อเหลืองทำผิด โดนข้อหาก่อการร้ายเหมือนกัน แต่ได้รับการประกันตัว ทั้งที่มีหมายจับ อัยการสูงสุดกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจศาล ทางอัยการ ไม่ได้คัดค้านอะไร หากจะยื่นขอประกันตัวก็ยื่นได้เลย ทางอัยการไม่ได้มีข้อขัดข้องในการยื่นขอประกันตัวเลย เป็นดุลพินิจของศาลในแต่ละเรื่อง
**แดงเคลื่อนหวังยั่วให้เกิดปฏิวัติ
นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย และกลุ่มเสื้อแดงออกมาระบุย้ำถึงการปฏิวัติรายวัน โดยมองว่าปรากฏการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นการยั่วยุให้เกิดการปฏิวัติเกิดขึ้น เช่น การเคลื่อนไหวในวันที่ 13 ก.พ. ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ระบุว่าจะเคลื่อนไหวจากหน้าศาลอาญาไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม เท่าที่ได้ฟังผู้นำเหล่าทัพระบุถึงข่าวดังกล่าว ก็ยืนยันว่าการปฏิวัติจะไม่เกิด เบื้องต้นตนเชื่อว่าหากมีจริง สังคมไม่ยอมรับเพราะไม่อยากให้ประเทศถอยหลังไปสู่ยุคเผด็จการ
**แดงเผาไฟฟ้าคลองเตย เสียหาย 332 ล้าน
นายอาทร สินสวัสดิ์ ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง กล่าวรายงานขณะนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาไทย ตรวจเยี่ยมการไฟฟ้านครหลวงว่า จากมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่รัฐบาลช่วยลดค่าครองชีพผู้ใช้ไฟฟ้า มีผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับความช่วยเหลือประมาณ 7.8 แสนราย คิดเป็นค่าไฟฟ้าที่รัฐบาลรับภาระในปี 53 ประมาณ 1.1 พันล้านบาท ส่วนการชุมนุมทางการเมืองในรอบปี 53 ที่การไฟฟ้าคลองเตยถูกเผา เสียหาย 332 ล้านบาท ยังไม่ได้รับค่าชดเชย เพราะเป็นเรื่องการจลาจล ขอให้กระทรวงมหาดไทยดูให้ด้วย
อย่างไรก็ตามเวลามีการเคลือนไหว หรือมีข่าวเกี่ยวกับจุดที่อาจเป็นเป้าหมาย ซึ่งอาจเกิดความวุ่นวาย ก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ไปแล้ว อย่างก่อนหน้านี้มีสถานทูตของกัมพูชา เราก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพูดในลักษณะที่อาจมีการชุมนุมยืดเยื้อ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ทางเจ้าหน้าที่คงต้องไปพูดคุย เมื่อถามว่า หากมีปัญหาการชุมนุมยืดเยื้อเพิ่มอีก จะแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่อยากให้มี และคิดว่าผู้ชุมนุมเอง คงต้องคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไปด้วย
**เสื้อแดงฟ้องมาร์คไม่เข้าหลักเกณฑ์
นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงไปยื่นฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า ขณะนี้ต้องรอว่าทางศาลอาญาระหว่างประเทศ จะรับเรื่องหรือไม่
ส่วนเงื่อนไขที่เขายื่น ที่บอกว่า นายกรัฐมนตรี มีสัญชาติอังกฤษ ถือว่าเข้าเงื่อนไขหรือไม่ นายจุลสิงห์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับศาลอาญาระหว่างประเทศ เขาจะคิดแต่เนื้อหาที่ฟ้องไป ซึ่งการที่ไปยื่นศาลอาญาระหว่างประเทศ หมายถึงว่า ผู้ที่กระทำความผิดประเภทฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือ การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างแรง ตามที่กำหนดไว้ในธรรมนูญศาลอาญาระหว่างประเทศ ไม่ใช่ทุกเรื่อง
เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าร้ายแรงขนาดนั้นหรือไม่ นายจุลสิงห์ กล่าวว่า ต้องฟังศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นดุลพินิจของเขา ที่จะพิจารณา แต่อย่าลืมว่าเรายังไม่ได้เป็นภาคี ทั้งนี้ผลจะเป็นอย่างไร ศาลอาญาระหว่างประเทศเขาก็จะแจ้งมาที่ผู้ที่ยื่นไป
นายจุลสิงห์ ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดง จะเดินทางไปที่ศาลอาญาในวันที่ 13 ก.พ. ว่า ไม่เป็นไร ถ้าทุกคนทำตามสิทธิของตัวเอง แต่ก็ต้องอยู่ภายในกรอบของกฎหมาย
เมื่อถามว่าการที่กลุ่มเสื้อแดงไปตามสถานที่ต่างๆ โดยอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และเห็นว่ามีการกระทำ 2 มาตรฐาน อย่างเช่น กลุ่มเสื้อเหลืองทำผิด โดนข้อหาก่อการร้ายเหมือนกัน แต่ได้รับการประกันตัว ทั้งที่มีหมายจับ อัยการสูงสุดกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจศาล ทางอัยการ ไม่ได้คัดค้านอะไร หากจะยื่นขอประกันตัวก็ยื่นได้เลย ทางอัยการไม่ได้มีข้อขัดข้องในการยื่นขอประกันตัวเลย เป็นดุลพินิจของศาลในแต่ละเรื่อง
**แดงเคลื่อนหวังยั่วให้เกิดปฏิวัติ
นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย และกลุ่มเสื้อแดงออกมาระบุย้ำถึงการปฏิวัติรายวัน โดยมองว่าปรากฏการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นการยั่วยุให้เกิดการปฏิวัติเกิดขึ้น เช่น การเคลื่อนไหวในวันที่ 13 ก.พ. ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ระบุว่าจะเคลื่อนไหวจากหน้าศาลอาญาไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม เท่าที่ได้ฟังผู้นำเหล่าทัพระบุถึงข่าวดังกล่าว ก็ยืนยันว่าการปฏิวัติจะไม่เกิด เบื้องต้นตนเชื่อว่าหากมีจริง สังคมไม่ยอมรับเพราะไม่อยากให้ประเทศถอยหลังไปสู่ยุคเผด็จการ
**แดงเผาไฟฟ้าคลองเตย เสียหาย 332 ล้าน
นายอาทร สินสวัสดิ์ ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง กล่าวรายงานขณะนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาไทย ตรวจเยี่ยมการไฟฟ้านครหลวงว่า จากมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่รัฐบาลช่วยลดค่าครองชีพผู้ใช้ไฟฟ้า มีผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับความช่วยเหลือประมาณ 7.8 แสนราย คิดเป็นค่าไฟฟ้าที่รัฐบาลรับภาระในปี 53 ประมาณ 1.1 พันล้านบาท ส่วนการชุมนุมทางการเมืองในรอบปี 53 ที่การไฟฟ้าคลองเตยถูกเผา เสียหาย 332 ล้านบาท ยังไม่ได้รับค่าชดเชย เพราะเป็นเรื่องการจลาจล ขอให้กระทรวงมหาดไทยดูให้ด้วย