ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - โจรใต้ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง หมายสังหารพระสงฆ์ พร้อมทหารคุ้มกัน 4 นายได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 5 รายขณะเดินกลับวัดหลังบิณฑบาต จนท.เผยกล้องวงจรปิดของเทศบาลเมืองปัตตานี สามารถจับภาพคนร้ายได้ สั่งระดมกำลังไล่ล่า
วานนี้ (28 ม.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดในเขตเทศบาลเมือง บริเวณเชิงสะพานโกวิทยา ถ.โรงเหล้า ต.สะบารัง จึงได้นำกำลังตำรวจ ทหารไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 รายอยู่ในสภาพอาบเลือด จึงรีบลำเลียงส่ง รพ.ปัตตานี ทราบชื่อ พระวัชรพงศ์ เป็นพระประจำวัดหลักเมือง ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณโค่นต้นขาลงไปทั้งสองขา พลทหารเสกสรร อินทร์เพชร อายุ 23 ปีถูกสะเก็ดระเบิดทำให้ขาขวาหักและมีบาดแผลตามลำตัวหลายแห่ง พลทหารกฤษฎา บัวบาน อายุ 19 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดขาซ้ายหัก ส่วน พลทหารวีระพงษ์ ประเสริฐศร อายุ 23 ปี และพลทหารบุญถม ขันตี อายุ 22 ปี ถูกสะเก็ดบริเวณลำตัวบาดเจ็บเล็กน้อย
ทั้งนี้ ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณโคนเสาไฟฟ้าริมถนน แรงระเบิดทำให้พื้นคอนกรีตบนฟุตบาทเป็นหลุมกว้าง 50 ซม.สะเก็ดระเบิดยังได้กระจายไปถูกบ้านและกำแพงใกล้เคียงจนได้รับความเสียหายหลายหลัง นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนถังแก๊สปิ๊กนิค ชิ้นส่วนวิทยุสื่อสาร ยี่ห้อโมโตโลร่า กระจายไปทั่วบริเวณ
สอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่พระวัชรพงศ์ กำลังเดินกลับวัดหลังจากเดินบิณฑบาต โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจปัตตานี 23 จำนวน 4 นายเดินรักษาความปลอดภัย ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ปรากฏว่ามาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายกดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบหวังทำลายขวัญประชาชนในพื้นที่เพื่อสร้างสถานการณ์
ภายหลังจากเกิดเหตุระเบิดพระและทหารรักษาความปลอดภัยขณะพระออกบิณฑบาต เจ้าหน้าที่ได้นำภาพที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายและช่วงที่เกิดระเบิดได้ มาเปิดเผย พบว่าในภาพกล้องวงจรปิดของเทศบาลเมืองปัตตานีซึ่งตั้งอยู่บนเสาไฟฟ้าห่างจุดเกิดเหตุระเบิดพระและทหาร เพียง 100 เมตร
โดยกล้องสามารถจับภาพคนร้าย 2 คนที่ก่อเหตุ ขณะขับรถจักรยานยนต์นำระเบิดมาวางบริเวณโค่นเสาไฟฟ้าจุดเกิดเหตุในช่วงเวลา 05.58 น.จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นช่วงที่พระและทหารเดินทางด้วยรถยนต์มาจอดไว้บริเวณห่างจุดเกิดเหตุ ประมาณ 50 เมตร โดยที่คนร้ายจอดรถรอก่อนหน้านี้แล้ว และระหว่างที่พระเดินบิณฑบาตอยู่ฝั่งตรงข้ามที่คนร้ายนำระเบิดมาวาง โดยที่มีทหารเดินดูแลความปลอกภัยทั้งสองฝังถนน ปรากฏว่าคนร้ายได้กดชนวนระเบิดทันที ซึ่งแรงระเบิดยังทำให้สายเคเบิลของกล้องทีวีวงจรปิดขาดด้วย
นายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลฯ ที่ติดตั้งไว้ใกล้จุดเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองพระสงฆ์ ขณะเดินบิณฑบาตร เบื้องต้นพบว่ากล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเบาะแสของคนร้ายได้อย่างชัดเจน ขณะนี้ได้มอบให้กับเจ้าหน้าที่นำไปขยายผลเพื่อจับกุมตัวคนร้ายแล้ว
"ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพการเคลื่อนไหวและพฤติกรรมของคนร้ายได้อย่างชัดเจน ซึ่งนับว่าเป็นอีกครั้งที่โชคดีมากที่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานที่จะนำไปสู่การขยายผลหาคนร้ายที่ลงมือได้ เนื่องจากต้องยอมรับว่าระยะหลังนี้กลุ่มแนวร่วมผู้ไม่หวังดีมีความพยายามทำลายกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆหลายแห่ง ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าได้เร่งเข้าไปซ่อมแซมเพื่อให้กลับมาใช้งานได้" นายพิทักษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุในส่วนของเขตเทศบาลอาจต้องเพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสอบความปลอดภัยให้รัดกุมยิ่งขึ้น เนื่องจากในช่วงนี้คนร้ายมีความพยายามก่อเหตุในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะการเพิ่มความใส่ใจในการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆให้พร้อมใช้งานมากที่สุด ซึ่งไม่เฉพาะของเทศบาลฯเท่านั้นแต่ยังมีกล้องของหน่วยงานอื่นๆด้วยที่ต้องเเร่งสำรวจความพร้อมในการใช้งาน โดยล่าสุดได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการแล้ว
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเบื้องจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด(พศจ.)ปัตตานีแล้วว่า พระภิกษุกลุ่มดังกล่าวได้ออกบิณฑบาตรพร้อมชุดทหารคุ้มกัน ซึ่งทางผู้ก่อความไม่สงบมุ่งเอาชีวิตทหาร แต่กลุ่มพระภิกษุโดนลูกหลงไปด้วย ขณะนี้มีพระภิกษุได้รับบาดเจ็บโดนสะเก็ดระเบิดพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 1 รูป ซึ่งตนได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปัตตานีเข้าให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล พร้อมกับดูแลอาการระยะยาวว่าต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกหรือไม่
"กรณีข้างต้น พศ.ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือพระภิกษุได้เป็นรายบุคคล เนื่องจากมีชุดทหารคุ้มกันอยู่แล้วเวลาออกบิณฑบาตร ถือเป็นมาตรการป้องกันสูงสุดอยู่แล้ว นอกเสียจากว่าจะให้พระภิกษุอยู่แต่ในวัด ไม่ให้ออกบิณฑบาตร" ผอ.พศ.กล่าว.
วานนี้ (28 ม.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดในเขตเทศบาลเมือง บริเวณเชิงสะพานโกวิทยา ถ.โรงเหล้า ต.สะบารัง จึงได้นำกำลังตำรวจ ทหารไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 รายอยู่ในสภาพอาบเลือด จึงรีบลำเลียงส่ง รพ.ปัตตานี ทราบชื่อ พระวัชรพงศ์ เป็นพระประจำวัดหลักเมือง ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณโค่นต้นขาลงไปทั้งสองขา พลทหารเสกสรร อินทร์เพชร อายุ 23 ปีถูกสะเก็ดระเบิดทำให้ขาขวาหักและมีบาดแผลตามลำตัวหลายแห่ง พลทหารกฤษฎา บัวบาน อายุ 19 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดขาซ้ายหัก ส่วน พลทหารวีระพงษ์ ประเสริฐศร อายุ 23 ปี และพลทหารบุญถม ขันตี อายุ 22 ปี ถูกสะเก็ดบริเวณลำตัวบาดเจ็บเล็กน้อย
ทั้งนี้ ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณโคนเสาไฟฟ้าริมถนน แรงระเบิดทำให้พื้นคอนกรีตบนฟุตบาทเป็นหลุมกว้าง 50 ซม.สะเก็ดระเบิดยังได้กระจายไปถูกบ้านและกำแพงใกล้เคียงจนได้รับความเสียหายหลายหลัง นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนถังแก๊สปิ๊กนิค ชิ้นส่วนวิทยุสื่อสาร ยี่ห้อโมโตโลร่า กระจายไปทั่วบริเวณ
สอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่พระวัชรพงศ์ กำลังเดินกลับวัดหลังจากเดินบิณฑบาต โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจปัตตานี 23 จำนวน 4 นายเดินรักษาความปลอดภัย ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ปรากฏว่ามาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายกดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบหวังทำลายขวัญประชาชนในพื้นที่เพื่อสร้างสถานการณ์
ภายหลังจากเกิดเหตุระเบิดพระและทหารรักษาความปลอดภัยขณะพระออกบิณฑบาต เจ้าหน้าที่ได้นำภาพที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายและช่วงที่เกิดระเบิดได้ มาเปิดเผย พบว่าในภาพกล้องวงจรปิดของเทศบาลเมืองปัตตานีซึ่งตั้งอยู่บนเสาไฟฟ้าห่างจุดเกิดเหตุระเบิดพระและทหาร เพียง 100 เมตร
โดยกล้องสามารถจับภาพคนร้าย 2 คนที่ก่อเหตุ ขณะขับรถจักรยานยนต์นำระเบิดมาวางบริเวณโค่นเสาไฟฟ้าจุดเกิดเหตุในช่วงเวลา 05.58 น.จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นช่วงที่พระและทหารเดินทางด้วยรถยนต์มาจอดไว้บริเวณห่างจุดเกิดเหตุ ประมาณ 50 เมตร โดยที่คนร้ายจอดรถรอก่อนหน้านี้แล้ว และระหว่างที่พระเดินบิณฑบาตอยู่ฝั่งตรงข้ามที่คนร้ายนำระเบิดมาวาง โดยที่มีทหารเดินดูแลความปลอกภัยทั้งสองฝังถนน ปรากฏว่าคนร้ายได้กดชนวนระเบิดทันที ซึ่งแรงระเบิดยังทำให้สายเคเบิลของกล้องทีวีวงจรปิดขาดด้วย
นายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลฯ ที่ติดตั้งไว้ใกล้จุดเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองพระสงฆ์ ขณะเดินบิณฑบาตร เบื้องต้นพบว่ากล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเบาะแสของคนร้ายได้อย่างชัดเจน ขณะนี้ได้มอบให้กับเจ้าหน้าที่นำไปขยายผลเพื่อจับกุมตัวคนร้ายแล้ว
"ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพการเคลื่อนไหวและพฤติกรรมของคนร้ายได้อย่างชัดเจน ซึ่งนับว่าเป็นอีกครั้งที่โชคดีมากที่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานที่จะนำไปสู่การขยายผลหาคนร้ายที่ลงมือได้ เนื่องจากต้องยอมรับว่าระยะหลังนี้กลุ่มแนวร่วมผู้ไม่หวังดีมีความพยายามทำลายกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆหลายแห่ง ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าได้เร่งเข้าไปซ่อมแซมเพื่อให้กลับมาใช้งานได้" นายพิทักษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุในส่วนของเขตเทศบาลอาจต้องเพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสอบความปลอดภัยให้รัดกุมยิ่งขึ้น เนื่องจากในช่วงนี้คนร้ายมีความพยายามก่อเหตุในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะการเพิ่มความใส่ใจในการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆให้พร้อมใช้งานมากที่สุด ซึ่งไม่เฉพาะของเทศบาลฯเท่านั้นแต่ยังมีกล้องของหน่วยงานอื่นๆด้วยที่ต้องเเร่งสำรวจความพร้อมในการใช้งาน โดยล่าสุดได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการแล้ว
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเบื้องจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด(พศจ.)ปัตตานีแล้วว่า พระภิกษุกลุ่มดังกล่าวได้ออกบิณฑบาตรพร้อมชุดทหารคุ้มกัน ซึ่งทางผู้ก่อความไม่สงบมุ่งเอาชีวิตทหาร แต่กลุ่มพระภิกษุโดนลูกหลงไปด้วย ขณะนี้มีพระภิกษุได้รับบาดเจ็บโดนสะเก็ดระเบิดพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 1 รูป ซึ่งตนได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปัตตานีเข้าให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล พร้อมกับดูแลอาการระยะยาวว่าต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกหรือไม่
"กรณีข้างต้น พศ.ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือพระภิกษุได้เป็นรายบุคคล เนื่องจากมีชุดทหารคุ้มกันอยู่แล้วเวลาออกบิณฑบาตร ถือเป็นมาตรการป้องกันสูงสุดอยู่แล้ว นอกเสียจากว่าจะให้พระภิกษุอยู่แต่ในวัด ไม่ให้ออกบิณฑบาตร" ผอ.พศ.กล่าว.
