ภาคเกษตรฟื้นตัว เซเว่นแคตตาล็อกรุกหนักเต็มที่ ส่งรายได้ปี53 โต 56% สูงสุดในรอบ10ปี เดินหน้าต่อเนื่องเน้นช่องทางจำหน่ายหลากหลาย หวังวางจำหน่ายในร้านเซเว่นครบทุกสาขา มั่นใจปีนี้โตได้อีก 30% หรือกว่า 2,200 ล้านบาท
นายอำพา ยงพิศาลภพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ดูแลในส่วนของ ธุรกิจ เซเว่น แคตตาล็อก เปิดเผยว่า ภาพรวมรายได้ในปี 2553 ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตสูงถึง 56% คิดเป็นมูลค่ารายได้กว่า 1,800 ล้านบาท ถือเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ดำเนินธุรกิจมา จากปกติจะเติบโตปีละประมาณ 30-35%
สำหรับการเติบโตดังกล่าวนี้ มาจากปัจจัยหลายด้วย เช่น 1.การเพิ่มช่องทางจำหน่าย โดยการนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายภายในร้านเซเว่นฯ กว่า 5,000 สาขา เพิ่มขึ้น 22% จากปี2552 จากทั้งหมด 5,700 สาขาในปี2553 2.สินค้าภาคเกษตรมีรายได้เพิ่มขึ่น ส่งผลให้ยอดขายในส่วนภูมิภาคเติบโตขึ้นตามไปด้วย โดยปัจจุบันยอดขายในต่างจังหวัดอยู่ที่ 52% และ กทม. 48%
ปีนี้มองว่าในส่วนของภาคเกษตรจะเติบโตต่อเนื่อง และการเข้าถึงลูกค้าดีขึ้น มั่นใจว่ายอดขายในต่างจังหวัดจะเพิ่มเป็น 55% และในกทม.ลดเหลือ 45% แต่ทั้งนี้ทั้งสองกลุ่ม มั่นใจว่าจะมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
โดยในปีนี้บริษัทมีแผนการดำเนินธุรกิจ มุ่งในเรื่องของช่องทางจำหน่ายที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะในร้านเซเว่นฯนั้น จะนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายให้ครบทุกสาขา ตั้งเป้ารายได้เติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 30% หรือคิดเป็นมูลค่าได้กว่า 2,200 ล้านบาท ในขณะที่กลุ่มสินค้านั้น ยังคงไว้ที่ 1,700 รายการ โดยกว่า 60% เป็นสินค้าที่มียอดจำหน่ายต่อเนื่อง ส่วนอีก 40%จะต้องมีการพัฒนาใหม่ อาจจะมีเข้าออกไปบ้าง แต่ทั้งปีคาดว่าจำนวนสินค้าจะอยู่ที่ 1,700 รายการเท่าเดิม
นายอำพา กล่าวต่อว่า กลุ่มสินค้าที่มีสัดส่วนยอดขายมากสุด คือ กลุ่มความสวยความงาม อยู่ที่ 35% รองลงมาคือ ของเล่น 25-30% ของใช้ 20-25% และอื่นๆอีก 15% โดยช่องทางในร้านเซเว่นฯ เป็นช่องทางหลักที่มียอดจำหน่ายสูงสุด คิดเป็นสัดส่วนได้กว่า 70% ที่เหลืออีก 30% มาจาก ช่องทางคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซด์ รวมถึงโซเชียลมีเดีย โดยยอดการซื้อต่อบิลในร้านเซเว่นฯนั้น จะอยู่ที่ 700 บาท และการสั่งซื้อผ่านคอลเซ็นเตอร์ อยู่ที่ 1,400 บาท
อย่างไรก็ตามปีนี้ ถือเป็นการเข้าสู่ปีที่ 10 ทางบริษัทได้ทุ่มงบกว่า 2 ล้านบาท ในการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย มั่นใจว่าจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นให้ทั้งปี เซเว่นแคตตาล็อกจะมีการเติบโตตามแผนที่วางไว้
นายอำพา ยงพิศาลภพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ดูแลในส่วนของ ธุรกิจ เซเว่น แคตตาล็อก เปิดเผยว่า ภาพรวมรายได้ในปี 2553 ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตสูงถึง 56% คิดเป็นมูลค่ารายได้กว่า 1,800 ล้านบาท ถือเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ดำเนินธุรกิจมา จากปกติจะเติบโตปีละประมาณ 30-35%
สำหรับการเติบโตดังกล่าวนี้ มาจากปัจจัยหลายด้วย เช่น 1.การเพิ่มช่องทางจำหน่าย โดยการนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายภายในร้านเซเว่นฯ กว่า 5,000 สาขา เพิ่มขึ้น 22% จากปี2552 จากทั้งหมด 5,700 สาขาในปี2553 2.สินค้าภาคเกษตรมีรายได้เพิ่มขึ่น ส่งผลให้ยอดขายในส่วนภูมิภาคเติบโตขึ้นตามไปด้วย โดยปัจจุบันยอดขายในต่างจังหวัดอยู่ที่ 52% และ กทม. 48%
ปีนี้มองว่าในส่วนของภาคเกษตรจะเติบโตต่อเนื่อง และการเข้าถึงลูกค้าดีขึ้น มั่นใจว่ายอดขายในต่างจังหวัดจะเพิ่มเป็น 55% และในกทม.ลดเหลือ 45% แต่ทั้งนี้ทั้งสองกลุ่ม มั่นใจว่าจะมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
โดยในปีนี้บริษัทมีแผนการดำเนินธุรกิจ มุ่งในเรื่องของช่องทางจำหน่ายที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะในร้านเซเว่นฯนั้น จะนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายให้ครบทุกสาขา ตั้งเป้ารายได้เติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 30% หรือคิดเป็นมูลค่าได้กว่า 2,200 ล้านบาท ในขณะที่กลุ่มสินค้านั้น ยังคงไว้ที่ 1,700 รายการ โดยกว่า 60% เป็นสินค้าที่มียอดจำหน่ายต่อเนื่อง ส่วนอีก 40%จะต้องมีการพัฒนาใหม่ อาจจะมีเข้าออกไปบ้าง แต่ทั้งปีคาดว่าจำนวนสินค้าจะอยู่ที่ 1,700 รายการเท่าเดิม
นายอำพา กล่าวต่อว่า กลุ่มสินค้าที่มีสัดส่วนยอดขายมากสุด คือ กลุ่มความสวยความงาม อยู่ที่ 35% รองลงมาคือ ของเล่น 25-30% ของใช้ 20-25% และอื่นๆอีก 15% โดยช่องทางในร้านเซเว่นฯ เป็นช่องทางหลักที่มียอดจำหน่ายสูงสุด คิดเป็นสัดส่วนได้กว่า 70% ที่เหลืออีก 30% มาจาก ช่องทางคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซด์ รวมถึงโซเชียลมีเดีย โดยยอดการซื้อต่อบิลในร้านเซเว่นฯนั้น จะอยู่ที่ 700 บาท และการสั่งซื้อผ่านคอลเซ็นเตอร์ อยู่ที่ 1,400 บาท
อย่างไรก็ตามปีนี้ ถือเป็นการเข้าสู่ปีที่ 10 ทางบริษัทได้ทุ่มงบกว่า 2 ล้านบาท ในการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย มั่นใจว่าจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นให้ทั้งปี เซเว่นแคตตาล็อกจะมีการเติบโตตามแผนที่วางไว้