xs
xsm
sm
md
lg

เซเว่นแคตตาล็อคลุยเว็บไซต์ปีหน้าเพิ่มสินค้ามั่นใจโต40%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เศรษฐกิจซบ เซเว่นแคตตาล็อคขายดี 9เดือนยอดขายโตพรวด 55% สิ้นปีมั่นใจแตะยอดโต 65% ชี้ลูกค้าไม่หยุดสวย กลุ่มคอสเมติกขายดีสุด ปีหน้าเจ้าของสินค้าจ่อคิวขนทัพสินค้ามาขายเพียบ มั่นใจอย่างต่ำปี 53 ยอดขายโตกว่า 40%

นายอำพา ยงพิศาลภพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ซบเซา สำหรับผลประกอบการจากช่องทางเซเว่นแคตตาล็อค พบว่า กลับมียอดขายเติบโตสูงขึ้นมาก โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตสูงถึง 55% และภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 60-65% จากรายได้ในปีก่อน ที่ทำได้ 700ล้านบาท

สำหรับสาเหตุของการเติบโตครั้งนี้ มองว่ามาจากหลายปัจจัย แต่มีสาเหตุหลักมาจากสภาพเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาใช้จ่ายสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางเซเว่นแคตตาล็อคมากขึ้น ลดการออกจากบ้าน ถือเป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายลงได้มาก และอีกสาเหตุที่สำคัญ มาจากปีนี้มีลูกค้าหลายรายนำสินค้าเข้ามาวางจำหน่ายผ่านช่องทางเซเว่นแคตตาล็อคมากขึ้นจากทั้งหมด 14กลุ่มสินค้า มีจำนวนสินค้าใหม่เข้ามาจำหน่ายรวมกว่า 40%จากสินค้าที่วางจำหน่ายอยู่ก่อนแล้ว

โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับการตอบรับสูงสุดคือ กลุ่มคอสเมติก เพื่อความสวยความงาม รองลงมาคือ ของเล่นเด็ก โดยมีพฤติกรรมการสั่งซื้อ ทั้งโทรผ่านคอลเซนเตอร์ และผ่านหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จากจำนวนหนังสือเซเว่นแคตตาล็อคกว่า 3.5 แสนเล่ม พิมเพิ่มขึ้นอีก 1แสนเล่ม ปัจจุบันมียอดสมาชิกสั่งซื้อสินค้ากว่า 520,000 คน จากปีก่อนมีเพียง 400,000คน

อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2553 นั้น จะเดินหน้าพัฒนาเพิ่มความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าจากเซเว่นแคตตาล็อค ผ่านระบบคอลเซนเตอร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังจะพัฒนาการสั่งซื้อผ่านทางเว็บไซด์อีกส่วนหนึ่งด้วย อีกทั้งจะมีการเพิ่มจำนวนสินค้าใหม่ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น วีซีดีภาพยนตร์ ที่ได้ร่วมทางแฮปปี้โฮมหรือจากทั้งหมดที่เพิ่มเข้ามาในปีนี้ 30 ราย ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 80 ราย หรือจากจำนวนสินค้าที่วางจำหน่ายผ่าน เซเว่นแคตตาล็อค 1,700 รายการ เพิ่มเป็น 2,000-2,500 รายการ ขณะเดียวกันยังจะเพิ่มยอดการพิมพ์หนังสือเซเว่นแคตตาล็อคเป็น 4 แสนเล่มด้วย โดยในส่วนของฐานสมาชิกการสั่งซื้อ มั่นใจว่าจะสูงขึ้นถึง 5 แสนราย มั่นใจว่า จะส่งผลให้บริษัทมีรายได้เติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 40%จากที่ทำได้ในปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น