ASTVผู้จัดการรายวัน - ดุสิตโพลชี้ชัด ประชาชนไม่เห็นด้วยขายไข่ไก่ชั่งกิโล กลัวถูกโกง ยุ่งยาก สอนมวยรัฐให้ไปแก้ปัญหาที่ต้นทุนการผลิต
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑล กรณี ไข่ชั่งกิโล จำนวนทั้งสิ้น 1,262 คน ระหว่างวันที่ 20-22 มกราคม 2554 พบว่า ประชาชนร้อยละ 44.38 สนใจติดตาม เนื่องจากไข่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำอาหารและขนม และประชาชนร้อยละ 25.43 เห็นว่า การชั่งไข่ขายเป็นกิโลแทนขายเป็นฟอง มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย แต่คงต้องรอดูผลจากการทดลองขายไข่ก่อน 3 เดือน ว่าเป็นอย่างไร ในขณะที่ประชาชนร้อยละ 22.78 เห็นว่า เป็นเรื่องที่สร้างความยุ่งยากแก่ผู้ซื้อและผู้ขาย /ผู้เลี้ยงไก่รายใหญ่ได้รับประโยชน์มากกว่า และมีประชาชนเพียงร้อยละ 7.41 เห็นว่า เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ซื้อ และรัฐบาลยังไม่ได้มีการประกาศหรือบังคับใช้
ส่วนความคิดเห็นประชาชนต่อการขายไข่ชั่งกิโล มีข้อดี - ข้อเสีย อย่างไร พบว่า ข้อดีคือ ประชาชนร้อยละ 47.54 เห็นว่า ขายไข่ชั่งกิโล ช่วยลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการคัดแยกไข่ , ประชาชนร้อยละ 28.11 เห็นว่า ผู้บริโภคซื้อไข่ได้ในราคาถูก มีมาตรฐานเดียวกัน และประชาชนร้อยละ 24.35 ระบุว่า ได้ไข่ที่มีขนาดเล็กใหญ่คละกันไป
ส่วนข้อเสียคือ ประชาชนร้อยละ 43.31 เห็นว่า สร้างความยุ่งยากให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย, ในขณะที่ร้อยละ 40.09 ระบุว่า ผู้ซื้ออาจถูกพ่อค้า แม่ค้าโกงตาชั่ง และประชาชนร้อยละ 16.60 ระบุว่า มีปัญหาในการคิดเงินกรณีไข่ไม่ถึงกิโลหรือเกินกิโล
ทั้งนี้ เมื่อให้ประชาชนที่ตอบแบบสอบถามเปรียบเทียบระหว่าง ข้อดี - ข้อเสีย ของการขายไข่ชั่งกิโล พบว่า ร้อยละ 56.63 ระบุว่า ข้อเสียมากกว่า เพราะไม่สามารถแยกซื้อไข่แบบเป็นฟองได้ ,ส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อย ,ผู้ซื้ออาจถูกโกงตาชั่ง ฯลฯ ส่วนประชาชนร้อยละ 29.52 ระบุว่า ข้อดี-ข้อเสียพอๆกันเพราะเป็นนโยบายที่รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ต่างพิจารณาเห็นชอบร่วมกัน แต่ในทางปฏิบัติยังมีปัญหาอยู่ ฯลฯ ด้านประชาชนที่เห็นว่า มีขัอดีมากกว่า มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 13.85 เท่านั้น เพราะเห็นว่า ช่วยลดขั้นตอน ลดต้นทุนในการคัดแยกไข่ ,ซื้อไข่ได้ในราคาที่ถูกลง ,มีมาตรฐานในการขายเหมือนกันทุกพื้นที่ ฯลฯ
ส่วนคำถามว่า เห็นด้วยกับการขายไข่ชั่งกิโลหรือไม่ ? พบว่า ประชาชนมากถึงร้อยละ 66.29 ไม่เห็นด้วยเพราะ ซื้อแบบเดิมดีอยู่แล้ว ,เป็นเรื่องที่ยุ่งยากเกินไป ควรแก้ปัญหาที่ต้นทุนการผลิตมากกว่า ฯลฯ ในขณะที่ประชาชนร้อยละ 21.56 ระบุว่า ไม่แน่ใจเพราะ เป็นแค่เพียงการทดลองขายเบื้องต้น ยังไม่ได้บังคับใช้แต่อย่างใด ยังไม่รู้ว่าใครจะได้ประโยชน์จริง ฯลฯ และมีประชาชนที่ตอบแบบสอบถามเพียงร้อยละ 12.06 ที่เห็นด้วยกับขายไข่ชั่งกิโลเพราะเห็นว่า ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อไข่ ,สร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ซื้อและผู้ขาย ฯลฯ
***เด็ก ปชป.อ้างเป็นทางเลือก
นายสรรเสริญ สมะลาภา ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทีมโฆษกเศรษฐกิจ กล่าวถึงผลสำรวจสวนดุสิตโพลว่า วิธีไข่ชั่งกิโลนั้นเป้าเป็นเพียงทางเลือกสำหรับผู้ค้าเท่านั้น เพราะปัจจุบันตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปยังคงขายไข่แบบคัดเบอร์อยู่ และที่สำคัญเป็นเพียงการทดลองเพื่อหาวิธีที่เหมาะสมสำหรับผู้บริโภค ที่จะสามารถซื้อไข่ไก่ได้ในราคาถูกกว่าปกติจำนวน 10 สตางค์ เนื่องจากไม่ต้อง เพิ่มต้นทุนของการคัดแยกไข่เข้าไป และการจำหน่ายไข่แบบชั่วกิโลนั้นเป้าหมายคือลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน แต่หากผู้ค้าไข่สามารถขายได้ปริมาณมากๆ ก็จะทำให้เกิดอานิสงค์กับเกษตรกรผู้เลี้ยงไข่ด้วย คือ สามารถค้าไข่ได้จำนวนมากขึ้น.
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑล กรณี ไข่ชั่งกิโล จำนวนทั้งสิ้น 1,262 คน ระหว่างวันที่ 20-22 มกราคม 2554 พบว่า ประชาชนร้อยละ 44.38 สนใจติดตาม เนื่องจากไข่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำอาหารและขนม และประชาชนร้อยละ 25.43 เห็นว่า การชั่งไข่ขายเป็นกิโลแทนขายเป็นฟอง มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย แต่คงต้องรอดูผลจากการทดลองขายไข่ก่อน 3 เดือน ว่าเป็นอย่างไร ในขณะที่ประชาชนร้อยละ 22.78 เห็นว่า เป็นเรื่องที่สร้างความยุ่งยากแก่ผู้ซื้อและผู้ขาย /ผู้เลี้ยงไก่รายใหญ่ได้รับประโยชน์มากกว่า และมีประชาชนเพียงร้อยละ 7.41 เห็นว่า เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ซื้อ และรัฐบาลยังไม่ได้มีการประกาศหรือบังคับใช้
ส่วนความคิดเห็นประชาชนต่อการขายไข่ชั่งกิโล มีข้อดี - ข้อเสีย อย่างไร พบว่า ข้อดีคือ ประชาชนร้อยละ 47.54 เห็นว่า ขายไข่ชั่งกิโล ช่วยลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการคัดแยกไข่ , ประชาชนร้อยละ 28.11 เห็นว่า ผู้บริโภคซื้อไข่ได้ในราคาถูก มีมาตรฐานเดียวกัน และประชาชนร้อยละ 24.35 ระบุว่า ได้ไข่ที่มีขนาดเล็กใหญ่คละกันไป
ส่วนข้อเสียคือ ประชาชนร้อยละ 43.31 เห็นว่า สร้างความยุ่งยากให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย, ในขณะที่ร้อยละ 40.09 ระบุว่า ผู้ซื้ออาจถูกพ่อค้า แม่ค้าโกงตาชั่ง และประชาชนร้อยละ 16.60 ระบุว่า มีปัญหาในการคิดเงินกรณีไข่ไม่ถึงกิโลหรือเกินกิโล
ทั้งนี้ เมื่อให้ประชาชนที่ตอบแบบสอบถามเปรียบเทียบระหว่าง ข้อดี - ข้อเสีย ของการขายไข่ชั่งกิโล พบว่า ร้อยละ 56.63 ระบุว่า ข้อเสียมากกว่า เพราะไม่สามารถแยกซื้อไข่แบบเป็นฟองได้ ,ส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อย ,ผู้ซื้ออาจถูกโกงตาชั่ง ฯลฯ ส่วนประชาชนร้อยละ 29.52 ระบุว่า ข้อดี-ข้อเสียพอๆกันเพราะเป็นนโยบายที่รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ต่างพิจารณาเห็นชอบร่วมกัน แต่ในทางปฏิบัติยังมีปัญหาอยู่ ฯลฯ ด้านประชาชนที่เห็นว่า มีขัอดีมากกว่า มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 13.85 เท่านั้น เพราะเห็นว่า ช่วยลดขั้นตอน ลดต้นทุนในการคัดแยกไข่ ,ซื้อไข่ได้ในราคาที่ถูกลง ,มีมาตรฐานในการขายเหมือนกันทุกพื้นที่ ฯลฯ
ส่วนคำถามว่า เห็นด้วยกับการขายไข่ชั่งกิโลหรือไม่ ? พบว่า ประชาชนมากถึงร้อยละ 66.29 ไม่เห็นด้วยเพราะ ซื้อแบบเดิมดีอยู่แล้ว ,เป็นเรื่องที่ยุ่งยากเกินไป ควรแก้ปัญหาที่ต้นทุนการผลิตมากกว่า ฯลฯ ในขณะที่ประชาชนร้อยละ 21.56 ระบุว่า ไม่แน่ใจเพราะ เป็นแค่เพียงการทดลองขายเบื้องต้น ยังไม่ได้บังคับใช้แต่อย่างใด ยังไม่รู้ว่าใครจะได้ประโยชน์จริง ฯลฯ และมีประชาชนที่ตอบแบบสอบถามเพียงร้อยละ 12.06 ที่เห็นด้วยกับขายไข่ชั่งกิโลเพราะเห็นว่า ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อไข่ ,สร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ซื้อและผู้ขาย ฯลฯ
***เด็ก ปชป.อ้างเป็นทางเลือก
นายสรรเสริญ สมะลาภา ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทีมโฆษกเศรษฐกิจ กล่าวถึงผลสำรวจสวนดุสิตโพลว่า วิธีไข่ชั่งกิโลนั้นเป้าเป็นเพียงทางเลือกสำหรับผู้ค้าเท่านั้น เพราะปัจจุบันตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปยังคงขายไข่แบบคัดเบอร์อยู่ และที่สำคัญเป็นเพียงการทดลองเพื่อหาวิธีที่เหมาะสมสำหรับผู้บริโภค ที่จะสามารถซื้อไข่ไก่ได้ในราคาถูกกว่าปกติจำนวน 10 สตางค์ เนื่องจากไม่ต้อง เพิ่มต้นทุนของการคัดแยกไข่เข้าไป และการจำหน่ายไข่แบบชั่วกิโลนั้นเป้าหมายคือลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน แต่หากผู้ค้าไข่สามารถขายได้ปริมาณมากๆ ก็จะทำให้เกิดอานิสงค์กับเกษตรกรผู้เลี้ยงไข่ด้วย คือ สามารถค้าไข่ได้จำนวนมากขึ้น.