ASTVผู้จัดการรายวัน - ธปท.ระบุเศรษฐกิจไทยยังทะยานไปข้างหน้าแม้ชะลอจากปีก่อน พอใจแบงก์พาณิชย์ขานรับปรับขึ้นดอกเบี้ย เผยเงินทุนต่างชาติยังคงไหลเข้า โดยตลาดตราสารหนี้คึกคักต่อเนื่องจากต้นปี ขณะที่ "รองฯเกริก” ฟันธง! สินเชื่อปี54 ชะลอตัว เหตุฐานปี 53 โตเกิน 10%
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ปี 2554 เศรษฐกิจไทยอาจมีอัตราการโตที่ชะลอลงบ้างจากปีก่อน แต่ภาพรวมในขณะนี้แรงส่งยังขยายไปได้ด้วยดี โดยอุปสงค์ในประเทศจะเป็นตัวนำอยู่ โดยการส่งออกโดยเฉลี่ยแต่ละเดือนยังเป็นไปได้ที่จะเป็นตัวเลข 2 หลัก ขณะที่ความไม่แน่นอนจากต่างประเทศในขณะนี้เริ่มมีการคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น
"นอกจากความต้องการภายในประเทศที่ขยายตัวแล้ว สถานการณ์ภายนอกเกี่ยวกับความกังวลในการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกได้ผ่อนคลายลงและมีน้ำหนักลดลงจากการประมาณการครั้งก่อน”
นายเมธีเปิดเผยด้วยว่า หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 2.25%ต่อปี เงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะเงินทุนที่ไหลเข้ามามากในตลาดตราสารหนี้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ยังคงอยู่ในระดับที่รับได้
"ยังไม่ได้ทำให้เกิดความผิดปกติเพระาการขึ้นดอกเบี้ย เป็นเรื่องที่ตลาดคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ตลาดการเงินจึงสามารถปรับตัวได้ทันที ซึ่งเห็นได้จากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่หลายแห่งทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นตาม อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไม่ใช่ปัจจัยดึงดูดเงินไหลเข้าเพียงปัจจัยเดียว" ผู้อำนวยการอาวุโส ธปท.กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ในวันที่ 21 ม.ค.นี้ ธปท.จะมีการรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อฉบับเดือนม.ค. โดยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญจะมีความชัดเจนขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป รวมถึงแรงกดดันที่มีต่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นในปีนี้
***สินเชื่อหดตัวเพราะฐานปี53สูง
ด้านนายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า ในปี 54 ยอดสินเชื่อโดยรวมจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง เนื่องจากผลของฐานปี 53 ที่ขยายตัวได้มากกว่า 10% ซึ่งเป็นเป้าหมายของธนาคารพาณิชย์และธปท.ที่ตั้งไว้เมื่อต้นปี 53 สอดคล้องกับผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ที่มีกำไรในอัตราสูง ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการปล่อยสินเชื่อ
“สำหรับตัวเลขสินเชื่อของปี 54 นี้ เชื่อว่าจะยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง แต่การขยายตัวจะเป็นอัตราที่ชะลอลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากฐานในปีที่ผ่านมาสูง ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องแต่ในอัตราที่ชะลอตัวลง”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย 11 เดือนแรกมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน ประมาณ 8-9% โดยสินเชื่อครัวเรือนขยายตัวเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนประมาณ 11-12% และสินเชื่อภาคธุรกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.1%
สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ในปีที่ผ่านมา ได้เริ่มเร่งตัวขึ้นตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่อัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่ให้กับภาคธุรกิจกลับมาขยายตัวเป็น บวกต่อเนื่อง โดยตัวเลขสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ล่าสุด เดือน พ.ย.ที่ผ่านมายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มียอดการปล่อยสินเชื่อคงค้างทั้งสิ้น 9.74 ล้านล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 12.2% ทั้งนี้ สินเชื่อส่วนบุคคลและภาคครัวเรือนขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.8% และสินเชื่อที่ให้กับภาคธุรกิจขยายตัว 3.5%.
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ปี 2554 เศรษฐกิจไทยอาจมีอัตราการโตที่ชะลอลงบ้างจากปีก่อน แต่ภาพรวมในขณะนี้แรงส่งยังขยายไปได้ด้วยดี โดยอุปสงค์ในประเทศจะเป็นตัวนำอยู่ โดยการส่งออกโดยเฉลี่ยแต่ละเดือนยังเป็นไปได้ที่จะเป็นตัวเลข 2 หลัก ขณะที่ความไม่แน่นอนจากต่างประเทศในขณะนี้เริ่มมีการคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น
"นอกจากความต้องการภายในประเทศที่ขยายตัวแล้ว สถานการณ์ภายนอกเกี่ยวกับความกังวลในการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกได้ผ่อนคลายลงและมีน้ำหนักลดลงจากการประมาณการครั้งก่อน”
นายเมธีเปิดเผยด้วยว่า หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 2.25%ต่อปี เงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะเงินทุนที่ไหลเข้ามามากในตลาดตราสารหนี้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ยังคงอยู่ในระดับที่รับได้
"ยังไม่ได้ทำให้เกิดความผิดปกติเพระาการขึ้นดอกเบี้ย เป็นเรื่องที่ตลาดคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ตลาดการเงินจึงสามารถปรับตัวได้ทันที ซึ่งเห็นได้จากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่หลายแห่งทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นตาม อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไม่ใช่ปัจจัยดึงดูดเงินไหลเข้าเพียงปัจจัยเดียว" ผู้อำนวยการอาวุโส ธปท.กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ในวันที่ 21 ม.ค.นี้ ธปท.จะมีการรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อฉบับเดือนม.ค. โดยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญจะมีความชัดเจนขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป รวมถึงแรงกดดันที่มีต่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นในปีนี้
***สินเชื่อหดตัวเพราะฐานปี53สูง
ด้านนายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า ในปี 54 ยอดสินเชื่อโดยรวมจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง เนื่องจากผลของฐานปี 53 ที่ขยายตัวได้มากกว่า 10% ซึ่งเป็นเป้าหมายของธนาคารพาณิชย์และธปท.ที่ตั้งไว้เมื่อต้นปี 53 สอดคล้องกับผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ที่มีกำไรในอัตราสูง ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการปล่อยสินเชื่อ
“สำหรับตัวเลขสินเชื่อของปี 54 นี้ เชื่อว่าจะยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง แต่การขยายตัวจะเป็นอัตราที่ชะลอลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากฐานในปีที่ผ่านมาสูง ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องแต่ในอัตราที่ชะลอตัวลง”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย 11 เดือนแรกมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน ประมาณ 8-9% โดยสินเชื่อครัวเรือนขยายตัวเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนประมาณ 11-12% และสินเชื่อภาคธุรกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.1%
สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ในปีที่ผ่านมา ได้เริ่มเร่งตัวขึ้นตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่อัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่ให้กับภาคธุรกิจกลับมาขยายตัวเป็น บวกต่อเนื่อง โดยตัวเลขสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ล่าสุด เดือน พ.ย.ที่ผ่านมายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มียอดการปล่อยสินเชื่อคงค้างทั้งสิ้น 9.74 ล้านล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 12.2% ทั้งนี้ สินเชื่อส่วนบุคคลและภาคครัวเรือนขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.8% และสินเชื่อที่ให้กับภาคธุรกิจขยายตัว 3.5%.
