นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และกรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯมีแผนที่จะให้บริษัทจดทะเบียนมีการเพิ่มจำนวนหุ้นที่ซื้อขายในตลาด (ฟรีโฟลท) อยู่ที่ระดับ 30-40% เนื่องจากเป็นระดับที่นักลงทุนต่างประเทศสนใจที่จะเข้ามาซื้อขายจากสามารถซื้อขายได้สะดวก โดยกลุ่มเป้าหมายคือบริษัทที่ยังไม่เข้าไปอยู่ใน SET 100 ซึ่งมี 70 บริษัท ที่มีคุณสมบัติที่เข้าไปอยู่ใน SET 100 ได้แต่ติดที่ฟรีโฟลท รวมถึงกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าการซื้อขาย 1-5 ล้านดอลลาร์ต่อวัน ซึ่งขณะนี้มี 400 บริษัทให้มีฟรีโฟลทมากขึ้นและเพิ่มมูลค่าการซื้อขายให้เพิ่มเป็น 10 ล้านดอลลาาร์ต่อวัน
ทั้งนี้ หากผู้ถือหุ้นมีการนำหุ้นออกมาขายเพื่อเพิ่มฟรีโฟลทนั้นจะทำให้นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาซื้อขายมากขึ้นก็จะทำให้มูลค่าหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยตลาดหลักทรัพย์ฯจะเข้าไปพบกับผู้บริหาร บจ.เพื่ออธิบายให้เข้าใจและหากผู้ถือหุ้นของบริษัทไม่ต้องการที่จะนำหุ้นออกมาขายนั้นเพราะจะลดสัดส่วนอำนาจในการบริหารบริษัทลง นั้นก็สามารถเพิ่มฟรีโฟลทด้วยวิธีอื่นได้ เช่น อาจะมีการออกใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR) ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอแรนต์)หรือ การจ่ายปันผลเป็นหุ้น ฯลฯ
สำหรับปัจจุบันนั้นมีบริษัทที่มีฟรีโฟลทไม่เป็นไปตามเกณฑ์คือ มีฟรีโฟลทต่ำกว่า 15% จำนวน 21 บริษัท ซึ่งกลุ่มนี้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการเข้าไปพบผู้บริหารบริษัทให้มีการเพิ่มฟรีโฟลทให้เป็นไปตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯเช่นกัน ซึ่งการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นก็เป็นโอกาสที่ผู้ถือหุ้นจะนำหุ้นของมาขายจากที่จะได้ราคาขายที่เพิ่มขึ้น
" ตลาดหลักทรัพย์ฯนั้นส่งเสริมให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บจ.มีการขายหุ้นออกมาเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขาย เพื่อที่จะทำให้เป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในหุ้นที่มีฟรีโฟลท 30-40% ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเข้าไปพบผู้บริหาร บจ. มากขึ้นเพื่อให้ข้อมูลดังกล่าวและเมื่อบริษัทมีฟรีโฟลทมากขึ้นนั้นจะส่งผลบริษัทมีแวลูมากขึ้นจากที่มีนักลงทุนเข้ามาซื้อขาย โดยปัจจุบันมีบริษัทที่สามารถเข้าไปอยู่ใน SET 100 จำนวน 170 บริษัท แต่มี 70 บริษัทนั้นมีฟรีโฟลทไม่ถึงจึงเป็นกลุ่มเป้าหมายที่จะผลักดัน " นายชนิตรกล่าว
นายชนิตรกล่าวว่าบริษัทใหม่ที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ขณะนี้มีบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในเดือนกุมภาพันธ์ เบื้องต้นมีจำนวน 2 บริษัท ซึ่งเป็น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ 1 กอง และบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ 1 แห่ง และคาดว่าในช่วงประมาณเดือนเมษายน และพฤษภาคม จะมีบริษัทที่เตรียมยื่นแบบแสดงรายการ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จากปัจจุบันบริษัทนั้นรองบการเงินของปี 53 เพื่อที่จะยื่นไฟลิ่ง
นอกจากนี้ในปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯยังให้ความสำคัยในการนำบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาจดทะเบียน โดยกาผลักดันผ่านคณะอนุกรรมการสรรหาและพัฒนาบริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้ หากผู้ถือหุ้นมีการนำหุ้นออกมาขายเพื่อเพิ่มฟรีโฟลทนั้นจะทำให้นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาซื้อขายมากขึ้นก็จะทำให้มูลค่าหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยตลาดหลักทรัพย์ฯจะเข้าไปพบกับผู้บริหาร บจ.เพื่ออธิบายให้เข้าใจและหากผู้ถือหุ้นของบริษัทไม่ต้องการที่จะนำหุ้นออกมาขายนั้นเพราะจะลดสัดส่วนอำนาจในการบริหารบริษัทลง นั้นก็สามารถเพิ่มฟรีโฟลทด้วยวิธีอื่นได้ เช่น อาจะมีการออกใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR) ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอแรนต์)หรือ การจ่ายปันผลเป็นหุ้น ฯลฯ
สำหรับปัจจุบันนั้นมีบริษัทที่มีฟรีโฟลทไม่เป็นไปตามเกณฑ์คือ มีฟรีโฟลทต่ำกว่า 15% จำนวน 21 บริษัท ซึ่งกลุ่มนี้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการเข้าไปพบผู้บริหารบริษัทให้มีการเพิ่มฟรีโฟลทให้เป็นไปตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯเช่นกัน ซึ่งการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นก็เป็นโอกาสที่ผู้ถือหุ้นจะนำหุ้นของมาขายจากที่จะได้ราคาขายที่เพิ่มขึ้น
" ตลาดหลักทรัพย์ฯนั้นส่งเสริมให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บจ.มีการขายหุ้นออกมาเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขาย เพื่อที่จะทำให้เป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในหุ้นที่มีฟรีโฟลท 30-40% ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเข้าไปพบผู้บริหาร บจ. มากขึ้นเพื่อให้ข้อมูลดังกล่าวและเมื่อบริษัทมีฟรีโฟลทมากขึ้นนั้นจะส่งผลบริษัทมีแวลูมากขึ้นจากที่มีนักลงทุนเข้ามาซื้อขาย โดยปัจจุบันมีบริษัทที่สามารถเข้าไปอยู่ใน SET 100 จำนวน 170 บริษัท แต่มี 70 บริษัทนั้นมีฟรีโฟลทไม่ถึงจึงเป็นกลุ่มเป้าหมายที่จะผลักดัน " นายชนิตรกล่าว
นายชนิตรกล่าวว่าบริษัทใหม่ที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ขณะนี้มีบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในเดือนกุมภาพันธ์ เบื้องต้นมีจำนวน 2 บริษัท ซึ่งเป็น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ 1 กอง และบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ 1 แห่ง และคาดว่าในช่วงประมาณเดือนเมษายน และพฤษภาคม จะมีบริษัทที่เตรียมยื่นแบบแสดงรายการ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จากปัจจุบันบริษัทนั้นรองบการเงินของปี 53 เพื่อที่จะยื่นไฟลิ่ง
นอกจากนี้ในปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯยังให้ความสำคัยในการนำบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาจดทะเบียน โดยกาผลักดันผ่านคณะอนุกรรมการสรรหาและพัฒนาบริษัทจดทะเบียน
