ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สะพานแขวนอายุนับร้อยปีที่สร้างขึ้นในสมัยพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ "พระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5" ระหว่างเสด็จประพาสต้นทางชลมารคในสงขลา ทรุดโทรมอย่างหนัก จนชาวบ้านสุดทนออกมาเรียกร้องให้มีการบูรณะซ่อมแซม และผลักดันให้เป็นพื้นที่สามเหลี่ยมวัฒนธรรมเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
วานนี้(17 ม.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.แม่ทอม อ.บางกล่ำ กับ ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า สะพานแขวนที่สร้างขึ้นในสมัยพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 อายุนับร้อยปี ซึ่งเป็นสะพานข้ามคลองอู่ตะเภาเชื่อมต่อระหว่าง ต.แม่ทอม อ.บางกล่ำ กับ ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ถูกทิ้งร้างมานาน จนปัจจุบันอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมอย่างหนักและพังเสียหายไม่สามารถใช้การได้ เหลือเฉพาะฐานของสะพานทั้งสองฝั่งและลวดสลิงที่ยึดไว้ ส่วนตัวสะพานที่เป็นทางเดินทำด้วยไม้ผุพังเกือบทั้งหมด ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่า สะพานชำรุดทรุดโทรมจนยากที่จะฟื้นฟู
ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ทั้ง 2 ตำบลเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งบูรณะซ่อมแซม เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้าหลวงของปวงชนชาวไทย ที่ทรงให้สร้างสะพานแขวนแห่งนี้ขึ้นเมื่อครั้งที่พระองค์ท่านเสด็จประพาสต้น จ.สงขลา และล่องเรือทางชลมารคผ่านคลองอู่ตะเภา และเห็นถึงความเดือดร้อนในการเดินทางข้ามไปมาของประชาชนทั้ง 2 ตำบล จึงให้สร้างสะพานแขวนขึ้นเพื่อความสะดวก
จากอักษรที่จารึกอยู่ที่ฐานของสะพานระบุว่า ได้เริ่มสร้างเมื่อวันเสาร์ เดือนยี่ ขึ้น 9 ค่ำ ปีมะเส็ง ต่อท้ายด้วยคำภาษาอังกฤษที่เขียนว่า LONG 96 ที่สำคัญยังมีหลักฐานสำคัญซึ่งเป็นภาพถ่ายของสะพานแขวนแห่งนี้ที่เพิ่งสร้างเสร็จ รวมทั้งบ้านเรือนของชาวบ้านริมคลองในอดีตเก็บไว้ที่วัดคูเต่าด้วย และกลายเป็นความทรงจำและความประทับใจของชาวบ้านเป็นอย่างมาก และเป็นที่รับรู้จนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานในปัจจุบันว่าเป็นสะพานแขวนของ ร.5
จากสภาพบ้านเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปปัจจุบันทางทิศเหนือของสะพานกลายเป็นที่ตั้งของ สภ.คูเต่า ส่วนทิศใต้ยังคงเป็นที่ตั้งของวัดคูเต่า ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่อยู่คู่มากับสะพานแห่งนี้ โดยก่อนหน้านี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลามีแนวคิดที่จะก่อสร้างพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็นสามเหลี่ยมวัฒนธรรม และทำการบูรณะซ่อมแซมสะพานแขวนให้กลับมามีสภาพใกล้เคียงกับในอดีต
แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ซึ่งชาวบ้านต่างเรียกร้องให้สานต่อเรื่องดังกล่าวเพื่อจารึกถึงประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่าว่า ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าหลวงทรงเสด็จผ่านเส้นทางนี้และได้สร้างสะพานแขวนเอาไว้
