ASTV ผู้จัดการรายวัน - “โมเดอร์นฟอร์ม” ไม่หวั่นคอนโดฯซบ ยันปี 54 เฟอร์สำนักงานมาแรง พร้อมเร่งพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ยกระดับหนีคู่แข่ง ล่าสุดเตรียมเปิดตัว Ideacoustic เฟอร์นิเจอร์ด้านเสียง ร่วมกับ SCG ตามด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มากไปด้วยฟังก์ชันการใช้งาน เชื่อยอดขายทั้งปี 4,000 ล้านบาท
นายทักษะ บุษยโภคะ ประกรรมการบริหาร บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดเฟอร์นิเจอร์ในปี 2553 เป็นปีที่มีอัตราการเติบโตที่ดีมาก เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตมาตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรที่เป็นกลุ่มลุกค้าหลักของบริษัท โดยมีสัดส่วนสูงถึง 85% จากยอดขายทั้งหมด ทำให้บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้อยู่ในมือไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยจะกำหนดส่งมอบเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 1-2 ปี
แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะมีปัญหาความไม่สงบทางการเมืองและวันหยุดยาวในช่วงสงกรานต์ แต่ในช่วงครึ่งปีหลังกลับมียอดขายแบบก้าวกระโดด สำหรับยอดขายรวมของโมเดอร์นฟอร์มในปี 2553 มีจำนวน 3,600 ล้านบาท เป็นยอดรับรู้รายได้ 3,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20% จากปีก่อนหน้าที่มียอดขาย 2,600 ล้านบาท โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้อีกประมาณ 1,000 ล้านบาท
ส่วนในปี 2554 ตลาดเฟอร์นิเจอร์สำหรับที่อยู่อาศัยอาจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของโครงการอาคารชุด ที่เริ่มส่งสัญญาณมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงปีนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเชื่อว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตกว่า 15% จากปี 2553 เนื่องจากตลาดบ้านแนวราบยังมีการขยายตัวที่ดี รวมถึงตลาดเฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่เริ่มส่งสัญญาณเติบโตมาตั้งแต่ปลายปี 2553 พิจารณาได้จากยอดสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มบริษัทที่มีการควบรวมกิจการและต้องการปรับหน้าตาบริษัทใหม่ การขยายตัวของธุรกิจเอสเอ็มอี บริษัทข้ามชาติ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ
นอกจากนี้ การลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจกต์ที่ได้มีการประมูลไปแล้ว จะช่วยให้เกิดการกระตุ้นของธุรกิจได้เป็นอย่างดี รวมถึงอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศหรือ จีดีพี ของไทยยังมีการเติบโตตามภูมิภาคเอเชียและจีน แม้ว่าเศรษฐกิจในยุโรปและอเมริกามีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องก็ตาม
ทั้งนี้ เฟอร์นิเจอร์สำนักงานในปี 54 จะมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น โดยจะขยับขึ้นมาเป็น 55 : 45 เมื่อเทียบกับเฟอร์นิเจอร์บ้าน เพิ่มขึ้นจากปี 53 ที่มีสัดส่วน 50:50 อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เฟอร์นิเจอร์สำนักงานถือเป็นสินค้าหลักของบริษัท โดยมีสัดส่วนสูงถึง 60% แต่ได้ทยอยปรับลดลงจนมากอยู่ที่ระดับ 50% ในปี 53 ดังกล่าว
สำหรับภาวะการแข่งขันในตลาดเฟอร์นิเจอร์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาแข่งขันของแบรนด์ข้ามชาติ แต่อย่างไรก็ตามเฟอร์นิเจอร์ของไทยยังมีจุดแข็งในเรื่องของการบริการและมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับการแข่งขันได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ในส่วนของโมเดอร์นฟอร์มนั้นไม่ถือว่าเป็นคู่แข่งโดยตรง เพราะเน้นขายให้แก่โครงการเป็นหลักไม่เน้นขายปลีก เพราะต้องมีการลงทุนในเรื่องสาขาจำนวนมหาศาล
โดยในปีนี้ สินค้าของบริษัทจะเน้นนวัตกรรมใหม่ มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่พื้นที่การอยู่อาศัยลดน้อยลง มีดีไซน์ที่ทันสมัยโดยจะเริ่มทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในกลางสัปดาห์นี้จะเปิดตัวสินค้า Ideacoustic by Silane ModernFrom ซึ่งเป็นนวัตกรรมของห้องไม่ให้เกิดเสียงดังหรือเสียงสะท้อนภายในห้อง โดยร่วมกับ SCG ซึ่งวัสดุที่ใช้จะเป็นของ SCG ส่วนโมเดอร์นฟอร์มจะเป็นผู้ออกแบบ โดยในแต่ละปีบริษัทใช้เงินลงทุนในเรื่องของ R&D สูงถึงปีละกว่า 100 ล้านบาท ในการคิดค้นสินค้านวัตกรรมใหม่และผลิตออกสู่ตลาด
นอกจากนี้ ยังเตรียมผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย สามารถเพิ่มพื้นที่ห้องชุดขนาดเล็กให้มีพื้นที่การใช้สอยเพิ่มมากขึ้น โดยเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวจะไม่มีขายทั่วไป แต่จะเป็นการผลิตให้แก่ผู้ประกอบการเจ้าของโครงการเท่านั้น
นายทักษะ บุษยโภคะ ประกรรมการบริหาร บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดเฟอร์นิเจอร์ในปี 2553 เป็นปีที่มีอัตราการเติบโตที่ดีมาก เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตมาตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรที่เป็นกลุ่มลุกค้าหลักของบริษัท โดยมีสัดส่วนสูงถึง 85% จากยอดขายทั้งหมด ทำให้บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้อยู่ในมือไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยจะกำหนดส่งมอบเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 1-2 ปี
แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะมีปัญหาความไม่สงบทางการเมืองและวันหยุดยาวในช่วงสงกรานต์ แต่ในช่วงครึ่งปีหลังกลับมียอดขายแบบก้าวกระโดด สำหรับยอดขายรวมของโมเดอร์นฟอร์มในปี 2553 มีจำนวน 3,600 ล้านบาท เป็นยอดรับรู้รายได้ 3,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20% จากปีก่อนหน้าที่มียอดขาย 2,600 ล้านบาท โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้อีกประมาณ 1,000 ล้านบาท
ส่วนในปี 2554 ตลาดเฟอร์นิเจอร์สำหรับที่อยู่อาศัยอาจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของโครงการอาคารชุด ที่เริ่มส่งสัญญาณมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงปีนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเชื่อว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตกว่า 15% จากปี 2553 เนื่องจากตลาดบ้านแนวราบยังมีการขยายตัวที่ดี รวมถึงตลาดเฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่เริ่มส่งสัญญาณเติบโตมาตั้งแต่ปลายปี 2553 พิจารณาได้จากยอดสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มบริษัทที่มีการควบรวมกิจการและต้องการปรับหน้าตาบริษัทใหม่ การขยายตัวของธุรกิจเอสเอ็มอี บริษัทข้ามชาติ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ
นอกจากนี้ การลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจกต์ที่ได้มีการประมูลไปแล้ว จะช่วยให้เกิดการกระตุ้นของธุรกิจได้เป็นอย่างดี รวมถึงอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศหรือ จีดีพี ของไทยยังมีการเติบโตตามภูมิภาคเอเชียและจีน แม้ว่าเศรษฐกิจในยุโรปและอเมริกามีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องก็ตาม
ทั้งนี้ เฟอร์นิเจอร์สำนักงานในปี 54 จะมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น โดยจะขยับขึ้นมาเป็น 55 : 45 เมื่อเทียบกับเฟอร์นิเจอร์บ้าน เพิ่มขึ้นจากปี 53 ที่มีสัดส่วน 50:50 อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เฟอร์นิเจอร์สำนักงานถือเป็นสินค้าหลักของบริษัท โดยมีสัดส่วนสูงถึง 60% แต่ได้ทยอยปรับลดลงจนมากอยู่ที่ระดับ 50% ในปี 53 ดังกล่าว
สำหรับภาวะการแข่งขันในตลาดเฟอร์นิเจอร์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาแข่งขันของแบรนด์ข้ามชาติ แต่อย่างไรก็ตามเฟอร์นิเจอร์ของไทยยังมีจุดแข็งในเรื่องของการบริการและมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับการแข่งขันได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ในส่วนของโมเดอร์นฟอร์มนั้นไม่ถือว่าเป็นคู่แข่งโดยตรง เพราะเน้นขายให้แก่โครงการเป็นหลักไม่เน้นขายปลีก เพราะต้องมีการลงทุนในเรื่องสาขาจำนวนมหาศาล
โดยในปีนี้ สินค้าของบริษัทจะเน้นนวัตกรรมใหม่ มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่พื้นที่การอยู่อาศัยลดน้อยลง มีดีไซน์ที่ทันสมัยโดยจะเริ่มทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในกลางสัปดาห์นี้จะเปิดตัวสินค้า Ideacoustic by Silane ModernFrom ซึ่งเป็นนวัตกรรมของห้องไม่ให้เกิดเสียงดังหรือเสียงสะท้อนภายในห้อง โดยร่วมกับ SCG ซึ่งวัสดุที่ใช้จะเป็นของ SCG ส่วนโมเดอร์นฟอร์มจะเป็นผู้ออกแบบ โดยในแต่ละปีบริษัทใช้เงินลงทุนในเรื่องของ R&D สูงถึงปีละกว่า 100 ล้านบาท ในการคิดค้นสินค้านวัตกรรมใหม่และผลิตออกสู่ตลาด
นอกจากนี้ ยังเตรียมผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย สามารถเพิ่มพื้นที่ห้องชุดขนาดเล็กให้มีพื้นที่การใช้สอยเพิ่มมากขึ้น โดยเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวจะไม่มีขายทั่วไป แต่จะเป็นการผลิตให้แก่ผู้ประกอบการเจ้าของโครงการเท่านั้น