ASTV ผู้จัดการรายวัน - กระทรวงมหาดไทยขอ 1.3 พันล้านสร้างศาลากลางและจวนผู้ว่าฯใหม่ หลังโดนเสื้อแดงเผา พบมูลค่าเงินที่ขอหลายแห่งเพิ่มขึ้นเท่าตัว ด้านตำรวจนครบาล เร่งหาทางออกหลังเสื้อแดงจัดชุมนุมถี่ จนผู้ประกอบการย่านราชประสงค์โวย! เตรียมเรียกเจรจาทั้งสองฝ่าย ฟากพ่อค้าแม่ค้าโอดจัดม็อบย่านธุรกิจช่วงเสาร์-อาทิตย์ ทำการค้าซบเซา ทั้งที่ควรเป็นวันทำกำไร
รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 18 ม.ค.นี้ กระทรวงมหาดไทยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 1,323,319,143 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ซ่อมแซม ศาลากลางจังหวัด และทรัพย์สินของทางราชการที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย รายงานว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าว ทำให้สถานที่ราชการในต่างจังหวัดและทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย รวมทั้งบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัด และบ้านพักปลัดจังหวัดได้รับความเสียหาย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 774,887,865 บาท
สำหรัรบรายละเอียดของความเสียหายดังกล่าว ประกอบด้วย 1. ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น มีมูลค่าความเสียหาย 146,036,573 บาท ขอรับการสนับสนุน 246,036,537 บาท 2.ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร มูลค่าความเสียหาย 212,164,065 บาท ขอรับการสนับสนุน 424,164,065 บาท 3. ศาลากลางจังหวัด อุดรธานี อาคารเทศบาล มูลค่าความเสียหาย 304,750,541 บาท ขอรับการสนับสนุน 441,355,541 บาท 4.ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เสียหาย 100,323,722 บาท ขอรับการสนับสนุน 200,150,000บาท 5.จ.เชียงใหม่ บ้านพักผู้ว่าราชการจังหงวัด และบ้านพักปลัดจังหวัด มีมูลค่าความเสียหาย และขอรับการสนับสนุน 11,613,000บาท
**ตำรวจเร่งหาทางออกแดงชุมนุม
ในวันเดียวกัน ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 กล่าวถึงกลุ่มผู้ค้าย่านราชประสงค์ร้องเรียนให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการต่อกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งส่งผลกระทบต่อการค้าขายและประกอบอาชีพว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยังแกนนำกลุ่ม นปช. รวมทั้งกลุ่มผู้ค้า เพื่อขอข้อมูลในแต่ละส่วนก่อนจะมาพิจารณาว่า อาจมีการยืดหยุ่นคนละครึ่งทาง เช่น อาจกำหนดเวลาตายตัวว่าเวลาใด หรือเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น
โดยในส่วนเงื่อนไขนั้น จะต้องมีการเจรจาพูดคุยกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งยอมรับว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้สับเปลี่ยนสถานที่ชุมนุม เช่น จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมายังราชประสงค์ และในวันที่ 23 ม.ค.นี้ก็จะชุมนุมที่ราชประสงค์ ก่อนเคลื่อนไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จึงต้องมีการเจรจาเพื่อหาทางออกในปัญหาดังกล่าว ซึ่งการชุมนุมจะต้องมองสะท้อนถึงปัญหาผลกระทบของประชาชนส่วนใหญ่ด้วย เพราะทั้งหมดก็เป็นคนไทยเหมือนกัน ต้องร่วมกันหาทางแก้ปัญหา
ขณะที่ ผู้ค้าย่านราชประสงค์บางราย กล่าวว่า การเข้ามาร้องเรียนครั้งนี้เพื่อขอความเป็นธรรม เพราะหลังจากกลุ่มเสื้อแดงสลายการชุมนุมก็ได้รับผลกระทบมานานแล้ว และเมื่อกลับมาค้าขายเช่นเดิมก็ยังมีผู้ชุมุนมาเคลื่อนไหวเป็นระยะอีก ซึ่งส่งผลให้การค้าขายซบเซา เนื่องจากวันเสาร์-อาทิตย์เป็นวันค้าขายที่สร้างรายได้ แต่ต้องมาประสบปัญหาดังกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 18 ม.ค.นี้ กระทรวงมหาดไทยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 1,323,319,143 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ซ่อมแซม ศาลากลางจังหวัด และทรัพย์สินของทางราชการที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย รายงานว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าว ทำให้สถานที่ราชการในต่างจังหวัดและทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย รวมทั้งบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัด และบ้านพักปลัดจังหวัดได้รับความเสียหาย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 774,887,865 บาท
สำหรัรบรายละเอียดของความเสียหายดังกล่าว ประกอบด้วย 1. ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น มีมูลค่าความเสียหาย 146,036,573 บาท ขอรับการสนับสนุน 246,036,537 บาท 2.ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร มูลค่าความเสียหาย 212,164,065 บาท ขอรับการสนับสนุน 424,164,065 บาท 3. ศาลากลางจังหวัด อุดรธานี อาคารเทศบาล มูลค่าความเสียหาย 304,750,541 บาท ขอรับการสนับสนุน 441,355,541 บาท 4.ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เสียหาย 100,323,722 บาท ขอรับการสนับสนุน 200,150,000บาท 5.จ.เชียงใหม่ บ้านพักผู้ว่าราชการจังหงวัด และบ้านพักปลัดจังหวัด มีมูลค่าความเสียหาย และขอรับการสนับสนุน 11,613,000บาท
**ตำรวจเร่งหาทางออกแดงชุมนุม
ในวันเดียวกัน ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 กล่าวถึงกลุ่มผู้ค้าย่านราชประสงค์ร้องเรียนให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการต่อกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งส่งผลกระทบต่อการค้าขายและประกอบอาชีพว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยังแกนนำกลุ่ม นปช. รวมทั้งกลุ่มผู้ค้า เพื่อขอข้อมูลในแต่ละส่วนก่อนจะมาพิจารณาว่า อาจมีการยืดหยุ่นคนละครึ่งทาง เช่น อาจกำหนดเวลาตายตัวว่าเวลาใด หรือเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น
โดยในส่วนเงื่อนไขนั้น จะต้องมีการเจรจาพูดคุยกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งยอมรับว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้สับเปลี่ยนสถานที่ชุมนุม เช่น จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมายังราชประสงค์ และในวันที่ 23 ม.ค.นี้ก็จะชุมนุมที่ราชประสงค์ ก่อนเคลื่อนไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จึงต้องมีการเจรจาเพื่อหาทางออกในปัญหาดังกล่าว ซึ่งการชุมนุมจะต้องมองสะท้อนถึงปัญหาผลกระทบของประชาชนส่วนใหญ่ด้วย เพราะทั้งหมดก็เป็นคนไทยเหมือนกัน ต้องร่วมกันหาทางแก้ปัญหา
ขณะที่ ผู้ค้าย่านราชประสงค์บางราย กล่าวว่า การเข้ามาร้องเรียนครั้งนี้เพื่อขอความเป็นธรรม เพราะหลังจากกลุ่มเสื้อแดงสลายการชุมนุมก็ได้รับผลกระทบมานานแล้ว และเมื่อกลับมาค้าขายเช่นเดิมก็ยังมีผู้ชุมุนมาเคลื่อนไหวเป็นระยะอีก ซึ่งส่งผลให้การค้าขายซบเซา เนื่องจากวันเสาร์-อาทิตย์เป็นวันค้าขายที่สร้างรายได้ แต่ต้องมาประสบปัญหาดังกล่าว