วานนี้ (13 ม.ค.) นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ปฏิเสธกระแสข่าวยื่นใบลาออกจากตำแหน่งประธานวุฒิสภาแล้วว่า ยังไม่ได้ยื่นใบลาออก แต่อยู่ระหว่างการพิจารณา อย่างไรก็ดี ตนยังยืดถือสิ่งที่ให้สัมภาษณ์ว่า หากเหตุการณ์บ้านเมืองมีความเรียบร้อย จะลาออก ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาว่า จะลาออกในวันใด
ทั้งนี้เมื่อมีกระแสข่าวว่าจะลาออก ได้มีส.ว.กลุ่มหนึ่งเดินทางมาพบ และขอว่า อย่าเพิ่งรีบลาออก ตนจึงอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร
" ผมเคยบอกว่าเหตุการณ์สงบจะลาออก แต่หลายคนก็บอกว่ายังไม่สงบ ผมจึงพยายามฟังๆ อยู่ว่าสุดท้ายจะเอาอย่างไร ส่วนตัวผมคิดว่าบ้านเมืองสงบแล้ว แต่บางท่านที่มาให้ความเห็น บอกว่า ยังไม่สงบ ความจริงมันก็ดูไม่มีอะไร แต่อาจมีความกังวลว่า ถ้าลาออกอาจจะมีอะไรกระเพื่อมกันที่วุฒิสภาบางคนก็ให้ความเห็นว่า ถ้าส.ว.สรรหา ลาออกกันไป ส.ว.สรรหาใหม่อีก 74 คน จะไม่สามารถมาเป็นประธานวุฒิสภา และหากเกิดการยุบสภา ใครทำจะทำหน้าที่แทน เรื่องนี้ตนคงต้องคำนวณดูความเหมาะสม ผมกำลังชั่งน้ำหนักอยู่" นายประสพสุขกล่าว
นายประสพสุข กล่าวอีกว่า สิ่งที่ตนกังวลคือการเอาข้ออ้างที่ตนไม่ลาออก มากดดันว่า ตนไม่รักษาคำพูด และกังวลว่าการลาออกจะเกิดปัญหาหา หากเกิดการยุบสภาขึ้น ส่วนความกังวลของกลุ่มส.ว.ที่มายับยั้งไม่ให้ลาออก เพราะเกรงว่าจะมีแรงกระเพื่อมเกิดขึ้นในวุฒิสภา โดยยังเห็นว่าเหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งอีกประมาณหนึ่งเดือน ทั้งนี้ตนจะเอาความเห็นของทุกฝ่ายมาตัดสินใจ ว่าควรทำอย่างไร
เมื่อถามว่าได้เคยพิจารณาหรือไม่ว่า จำเป็นต้องมีการเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ก่อนที่ส.ว.สรรหาจะครบวาระ การดำรงตำแหน่งหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ไม่จำเป็น หากตนลาออกก็สรรหาใหม่ หรือจะรอ ส.ว.สรรหาใหม่มา ค่อยเลือกก็ได้ แต่ความกังวล ส.ว.บางส่วนคือ กลัวว่าจะมีการยุบสภา แล้วจะมีปัญหา
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนไม่มีความกังวล สุดท้ายแล้วการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องเคารพเสียงข้างมากของรัฐสภา หากแก้ไม่ได้ ก็แก้ไม่ได้ ก็ไม่ไต้องไปแก้ ควรทำให้ระบบรัฐสภาเป็นธรรมชาติ หากเสียงข้างมากต้องการแก้ให้เป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น ถ้าไม่ให้แก้ ก็ไม่ต้องแก้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่เรื่องสำคัญกับปากท้องของประชาชน เชื่อว่าถึงตนและส.ว.สรรหา ต้องลาออกจะไม่มีผลกระทบกับกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะกระบวนการสามารถดำเนินต่อไปได้ โดยใช้คะแนนเสียงของส.ว.เท่าที่มีอยู่ การลาออกของส.ว.สรรหา อาจทำให้เสียงในการลงมติของวุฒิสภาเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อถามว่าขณะนี้มี ส.ว.สรรหาเริ่มลาออกแล้วหรือยัง นายประสพสุข กล่าวว่า เท่าที่ฟังๆ ดูตอนนี้น่าจะอยู่ต่อไปก่อน อย่างไรก็ดี เชื่อว่าจะมี ส.ว.สรรหาเดิม อย่างน้อย 60 คนจาก 74 คน แสดงความจำนงจะกลับมารับการสรรหากลับมาเป็นส.ว. อีกครั้ง ดังนั้นจึงอยู่ที่ ส.ว.ทั้ง 60 คนนี้ ว่าจะลาออกกี่คน เมื่อถึงวันที่ 17 ก.พ. ผู้สื่อข่าวจึงถามอีกว่า แสดงว่าประธานจะไปตัดสินใจเอาตอนใกล้วันที่ 17 ก.พ.หรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ตนกำลังตัดสินใจอยู่ ตนก็หนักใจ เพราะถ้าไปลาออกใกล้วันที่ 17 ก.พ.จะมีคนว่าตนหวงตำแหน่ง เบื้องต้นคาดว่าจะต้องตัดสินใจได้ภายในสิ้นเดือนนี้ และขอรับฟังความเห็นของทุกฝ่ายด้วยว่าเห็นอย่างไร
ทั้งนี้เมื่อมีกระแสข่าวว่าจะลาออก ได้มีส.ว.กลุ่มหนึ่งเดินทางมาพบ และขอว่า อย่าเพิ่งรีบลาออก ตนจึงอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร
" ผมเคยบอกว่าเหตุการณ์สงบจะลาออก แต่หลายคนก็บอกว่ายังไม่สงบ ผมจึงพยายามฟังๆ อยู่ว่าสุดท้ายจะเอาอย่างไร ส่วนตัวผมคิดว่าบ้านเมืองสงบแล้ว แต่บางท่านที่มาให้ความเห็น บอกว่า ยังไม่สงบ ความจริงมันก็ดูไม่มีอะไร แต่อาจมีความกังวลว่า ถ้าลาออกอาจจะมีอะไรกระเพื่อมกันที่วุฒิสภาบางคนก็ให้ความเห็นว่า ถ้าส.ว.สรรหา ลาออกกันไป ส.ว.สรรหาใหม่อีก 74 คน จะไม่สามารถมาเป็นประธานวุฒิสภา และหากเกิดการยุบสภา ใครทำจะทำหน้าที่แทน เรื่องนี้ตนคงต้องคำนวณดูความเหมาะสม ผมกำลังชั่งน้ำหนักอยู่" นายประสพสุขกล่าว
นายประสพสุข กล่าวอีกว่า สิ่งที่ตนกังวลคือการเอาข้ออ้างที่ตนไม่ลาออก มากดดันว่า ตนไม่รักษาคำพูด และกังวลว่าการลาออกจะเกิดปัญหาหา หากเกิดการยุบสภาขึ้น ส่วนความกังวลของกลุ่มส.ว.ที่มายับยั้งไม่ให้ลาออก เพราะเกรงว่าจะมีแรงกระเพื่อมเกิดขึ้นในวุฒิสภา โดยยังเห็นว่าเหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งอีกประมาณหนึ่งเดือน ทั้งนี้ตนจะเอาความเห็นของทุกฝ่ายมาตัดสินใจ ว่าควรทำอย่างไร
เมื่อถามว่าได้เคยพิจารณาหรือไม่ว่า จำเป็นต้องมีการเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ก่อนที่ส.ว.สรรหาจะครบวาระ การดำรงตำแหน่งหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ไม่จำเป็น หากตนลาออกก็สรรหาใหม่ หรือจะรอ ส.ว.สรรหาใหม่มา ค่อยเลือกก็ได้ แต่ความกังวล ส.ว.บางส่วนคือ กลัวว่าจะมีการยุบสภา แล้วจะมีปัญหา
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนไม่มีความกังวล สุดท้ายแล้วการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องเคารพเสียงข้างมากของรัฐสภา หากแก้ไม่ได้ ก็แก้ไม่ได้ ก็ไม่ไต้องไปแก้ ควรทำให้ระบบรัฐสภาเป็นธรรมชาติ หากเสียงข้างมากต้องการแก้ให้เป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น ถ้าไม่ให้แก้ ก็ไม่ต้องแก้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่เรื่องสำคัญกับปากท้องของประชาชน เชื่อว่าถึงตนและส.ว.สรรหา ต้องลาออกจะไม่มีผลกระทบกับกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะกระบวนการสามารถดำเนินต่อไปได้ โดยใช้คะแนนเสียงของส.ว.เท่าที่มีอยู่ การลาออกของส.ว.สรรหา อาจทำให้เสียงในการลงมติของวุฒิสภาเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อถามว่าขณะนี้มี ส.ว.สรรหาเริ่มลาออกแล้วหรือยัง นายประสพสุข กล่าวว่า เท่าที่ฟังๆ ดูตอนนี้น่าจะอยู่ต่อไปก่อน อย่างไรก็ดี เชื่อว่าจะมี ส.ว.สรรหาเดิม อย่างน้อย 60 คนจาก 74 คน แสดงความจำนงจะกลับมารับการสรรหากลับมาเป็นส.ว. อีกครั้ง ดังนั้นจึงอยู่ที่ ส.ว.ทั้ง 60 คนนี้ ว่าจะลาออกกี่คน เมื่อถึงวันที่ 17 ก.พ. ผู้สื่อข่าวจึงถามอีกว่า แสดงว่าประธานจะไปตัดสินใจเอาตอนใกล้วันที่ 17 ก.พ.หรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ตนกำลังตัดสินใจอยู่ ตนก็หนักใจ เพราะถ้าไปลาออกใกล้วันที่ 17 ก.พ.จะมีคนว่าตนหวงตำแหน่ง เบื้องต้นคาดว่าจะต้องตัดสินใจได้ภายในสิ้นเดือนนี้ และขอรับฟังความเห็นของทุกฝ่ายด้วยว่าเห็นอย่างไร