ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ตำรวจภาค 4 แถลงจับกุม 2 หนุ่มจีนพร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 500 เครื่อง-แฮนดี้ไดร์/ แบตเตอรี่ สายชาร์จอีก40ลัง เผยเป็นสินค้าเลียนแบบลอบนำเข้าจากจีน มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาเช่าทาวน์เฮาส์กลางเมืองร้อยเอ็ดเป็นที่พักของ ก่อนส่งขายราคาถูกในหลายจังหวัดในภาคอีสาน
วานนี้(13 ม.ค.)ที่บริเวณด้านหน้ากองบังคับการตำรวจภูธร ภ.4 พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ( รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4( ผบช.ภ.4 )พร้อมด้วยพล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.สส.ภ.4 และทีมพนักงานสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 4 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนาย อาหยาง แซ่เฉิน อายุ 26 ปี และนายอาไห่ แซ่เฉิน อายุ 19 ปี ชาวจีนแต้จิ๋ว จังหวัดกวางตุ้ง ประเทศจีน ฐานความผิดลอบนำเข้าโทรศัพท์มือถือเถื่อนมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
ของกลางที่ตรวจยึดประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆจำนวน 500 เครื่อง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แฮนดี้ไดร์ แบตเตอรี่ สายชาร์จ จำนวน 20 ลัง พร้อมหน้ากากโทรศัพท์อีกจำนวน 20 ลัง
ทั้งนี้ 2 ผู้ต้องหาถูกจับกุมได้ที่ทาวน์เฮาส์ ซึ่งตั้งอยู่ถนนเทวาภิบาล ซอย 10 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยก่อนเข้าจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 4 ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้สืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในพื้นที่รับผิดชอบ ภาค 4 ต่อมาสืบสวนทราบว่าได้มีชายชาวจีน ชื่ออาหย่างและอาไห่ เข้ามาพักอาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด
ทั้งคู่มีพฤติการณ์ลักลอบนำเข้าและจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในพื้นที่จ.ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี สุรินทร์ และศรีสะเกษ
ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดร้อยเอ็ดเข้าตรวจค้นทาวน์เฮาส์ เลขที่ 29/29,29/48 และ 29/57 ตั้งอยู่ถนนเทวาภิบาล ซอย 10 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งนายอาหยางและนายอาไห่ 2 พี่น้องได้มาเช่าพักอาศัยและใช้เป็นที่เก็บของ
จากการตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆพร้อมด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภท แฮนดี้ไดร์ แบตเตอรี่ สายชาร์จและหน้ากากโทรศัพท์เป็นจำนวนมาก สอบถามนายอาหยางและนายอาไห่ ได้ให้การว่าโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ต่างๆที่ตรวจพบนั้นเป็นของพวกตน ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศจีน เป็นสินค้าเลียนแบบมาจำหน่ายในราคาถูกและไม่มีใบอนุญาตนำเข้าหรือเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจึงได้ควบคุมและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า กระทำความผิดฐานซื้อหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ โดยตนรู้ว่านำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงข้อห้ามข้อจำกัดและร่วมกันมีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้ามีเครื่องหมายปลอมของผู้อื่นหรือสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าเลียนแบบของผู้อื่น ซึ่งได้จดทะเบียนไว้ในราชอาณาจักร ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป