ผมไม่ต้องการจะโม้ว่าเป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยในไอวีลีกส์ที่โด่งดังในบรรดาสถาบันอุดมศึกษาของอเมริกัน รวมทั้งมีสัมพันธภาพกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ 2-3 แห่งของอังกฤษเช่นเดียวกัน แต่ทั้งหมดนี้ผมเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์สอดคล้องกับความต้องการของคนไทยและเมืองไทยไม่เท่านวัตกรรมการศึกษาของอเมริกันที่เรียกว่า Community College หรือวิทยาลัยประชาคม ผมจึงพากเพียรเข้าไปผูกพันสังเกตการณ์ศึกษาเพื่อให้เกิดความมั่นใจอยู่กว่าขวบปี ในระยะนั้นผมได้พบกับผู้ใหญ่ระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการที่ผมใคร่ชักชวนมาให้ความสนใจในเรื่องดังกล่าวเพื่อจะนำมาปรับใช้ในบ้านเรา ก็ได้รับคำตอบทันทีว่า “อ๋อ เรื่อง Community College ผมรู้ดีอยู่แล้ว พอดีเมื่อปีก่อนเครื่องบินผมดีเลย์ (ออกช้าเกินกำหนด) ก็เลยถือโอกาสไปเยี่ยมและศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่งอยู่ร่วม 3 ชั่วโมง”
ผมสมเพทตัวเองว่าเราหนอ ช่างโง่เหลือเกิน เสียเวลาไปหลายร้อยวันแล้ว ยังรู้สู้ท่านไม่ได้ แถมยังตั้งใจจะดูต่อจนพบคำตอบว่าทำไมทั้งยุโรป ญี่ปุ่น และ OECD เขาจึงลงความเห็นว่าสถาบันอุดมศึกษาอเมริกันที่เหนือกว่าเขาทั้งหมดคือ Community College
และผมก็ถึงบางอ้อเรื่องความเก่งกาจของคนไทยตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ฉันใดก็ฉันนั้น ผมยอมรับเป็นคนโง่และคนจัญไรของท่านผู้อ่านโดยไม่มีอุทธรณ์ฎีกา
บทความของผมเรื่อง “วิกิลีกส์ : เด็กฝรั่งจัญไรหลอกผู้ใหญ่ไทยสาวไส้ให้กากิน 1” 29 ธ.ค. 53 http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9530000183284คนไทยไม่แต่ท่านผู้อ่านของผมเท่านั้นหรอกที่ฉลาดและประมาท มองไม่เห็นสัญญาณอันตรายที่กำลังจะคืบคลานเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งแท้ที่จริงก็กำลังเผชิญ “วิกฤตที่สุดในโลก” ซึ่งก็ยังแก้ไม่ตกอยู่แล้ว
ผมเขียนมิใช่สักแต่ว่าอยากเขียน หรือว่าไม่มีเรื่องอื่นจะเขียน แต่เขียนขึ้นมาเพราะสังคมไทยทั้งหมดทั้งสิ้นพากันเงียบงัน เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ผมเขียนเรื่อง “เว็บไซต์ไฟลามทุ่ง” ในผจก.เมื่อ 19 เมษายน 2548 สมัยทักษิณครองอำนาจ http://www.manager.co.th/ /Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9480000052339 ในตอนนั้นมีเว็บไซต์เชียร์มุสลิมที่โจมตีไทยและตะวันตกอยู่ประปรายราวๆ 5-6 แสน 3-4 ล้านรายการ ผมเปิดดูเห็นมีที่เสียดสีโจมตีสถาบันอยู่ประมาณ 8,000+-=ในวันๆ หนึ่ง
ณ วันนี้ ผมขอเชิญให้ท่านเปิด www.google.com และกดคำว่า anti-Thai monarchy websites ลองดู ณ วันนี้ด้วยเวลาค้น 23 วินาทีจะพบว่าพบทั้งหมด 6,210,000 results (0.23 seconds) บางครั้งถ้าใช้เวลามากหน่อยจะมีถึง 22 ล้านรายการ ครับยังไม่ต้องตกใจจนเกินเหตุ แต่จะต้องไม่ตกอยู่ในความประมาท และใช้สติปัญญาแก้ไข
กลับมาพูดถึงเรื่อง “วิกิลีกส์ : เด็กฝรั่งจัญไรฯ” ที่ผมเขียนอีกครั้ง ฉบับนี้มีผู้อ่านถึง 26,987 คน มีผู้โพสต์มาออกความเห็น 64 ราย ในจำนวน 64 รายนี้มีผู้ที่ไปไหนมาสามวาสองศอกเป็นจำนวนมาก พอๆ กับผู้ที่เจ๋งเก่งทุกอย่าง รู้ทุกเรื่อง แต่ความรับรู้น้อยจนน่าใจหาย บางคนอาจจะรับจ้างมาเพื่อชักใบให้เรือเสียเพื่อจะกลบเกลื่อนมิให้เรื่องเชื่อมโยงไปถึงมูลนายของตน หลายคนที่สรรเสริญว่าผมจัญไรอวดรู้ในเรื่องง่ายๆ ที่คนธรรมดาใครๆ ก็รู้ได้หากอ่านภาษาอังกฤษออกและเล่นอินเทอร์เน็ตเป็น ไหนๆ ผมก็หากินได้ประโยชน์จากเจ๊กลิ้มพันธมิตรฯ มามากสมควรหยุดได้แล้ว ยิ่งเขียนยิ่งเลอะ ทั้งหมดนี้ผมน้อมรับที่เตือนสติ ไม่ถือสาหาความเลย
ใคร่บอกเสียก่อนว่า ผมเขียนให้ผู้จัดการเพราะเขาเชิญและสัญญาว่าจะไม่เซนเซอร์เขียนไปเมื่อไรลงให้เมื่อนั้น บางครั้งก็มีผู้ขอร้องว่าอยากให้เขียนเรื่องนั้นเรื่องนี้ ผมเริ่มเขียนวิจารณ์ทักษิณตั้งแต่ผู้จัดการยังเชียร์ทักษิณอยู่ เงินค่าเรื่องที่ได้รับ ผมส่งไปบำรุงการศึกษาให้นักเรียนที่ยากจนในชนบททั้งหมด ผมเป็นคนไม่มีปลอกคอสีแดงเชิญไปพูด ผมก็เคยไปพูดให้แล้ว
สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากก็คือคนไทยมีแต่คนเก่ง ไม่มีใครฟังใคร ผลที่สุดก็ไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรเท็จ อะไรเป็นประโยชน์อะไรเป็นโทษ จะเห็นได้ว่าเรื่องวิกิลีกส์ก็ดี เรื่องเขมรจับคนไทยก็ดี ใครๆ ก็มีคำตอบสำเร็จรูปของตนหมด ในที่สุดสมมติฐานและคำตอบต่างๆ นั้น ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาลหรือของประชาชน ต่างก็เป็นส่วนเป็นเสี้ยว ขัดกันเองไปมา ขาดเอกภาพไร้พลัง ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้
เรื่องวิกิลีกส์นั้นเป็นสุดยอดของเทคโนโลยีสื่อสารว่าด้วยการค้นหา แคะไค้ ดูดดึงและถอดรหัส เพื่อจะให้ได้มาซึ่งความลับในกระบวนการข่าว การสืบราชการลับ และขบวนการตัดสินใจของรัฐบาลต่างๆ โดยใช้อำนาจและกฎหมายพิเศษคุ้มครองผู้อยู่ในขบวนการ
ผู้ที่สามารถใช้เทคโนโลยีนั้นก็จะต้องเป็นยอดสมองของยอดสมอง ฝีมือว่าแล้วจะเหนือชั้นกว่า Facebook หรือแม้กระทั่ง Bill Gates
ที่เขาเข้าไปล้วงความลับ เพราะเขาต้องการปกป้องเสรีภาพและความเป็นธรรมให้แก่หมู่ชนและประเทศที่ยากจนอ่อนแอหรือเสียเปรียบ ตกเป็นเบี้ยล่างของขบวนการตัดสินใจและกลไกของประเทศมหาอำนาจที่ครอบงำด้วยอาวุธและเทคโนโลยีที่เหนือกว่า อาศัยเงื่อนเวลาและความลับข่มเหงมนุษยชาติในประเทศที่ไม่ยอมก้มหัวให้ตน เจ้าโลกเหล่านี้มีอเมริกาเป็นหัวโจก มีความลับอยู่นับไม่ถ้วนเกี่ยวกับความชั่วร้ายและข่มเหงรังแกประเทศอื่น วิกิลีกส์เปิดโปงความลับของอเมริกาและอังกฤษในสงครามอิรักและตะวันออกกลางเสียไม่เหลือหลอ ทำให้อเมริกาถึงกับทรุดหัวเข่าอ่อนไม่รู้จะแก้ตัวหรือกู้ฐานะอันน่ายำเกรงเชื่อถือในโลกของตนกลับคืนมาได้อย่างไร
สำหรับประเทศไทย ความลับที่อดีตทูตทั้งสองคือนายบ๊อยซ์กับนายจอนแอบไปคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเรานี้มีอยู่หลายกระบุงเกวียน น่าสังเกตว่าทำไมเขาจึงเลือกเวลาปล่อย จำนวนและเรื่องที่ปล่อยเพียงไม่กี่เรื่อง แต่สอดคล้องเป็นเวลาและเรื่องที่มีผลกระทบกระเทือนสถาบันกษัตริย์เป็นที่สุด และเราจะต้องไม่ลืมว่าอเมริกาเป็นสาธารณรัฐเขามิได้ดื่มด่ำอะไรกับการมีพระมหากษัตริย์อย่างของเรา ในทางตรงกันข้ามเขาจะส่งเสริมคนที่ผูกพันหากินกับเขาและยอมให้เขาบงการ เรื่องอย่างนี้จึงอาจจะบานปลายต่อไปในทิศทางของเขา
อนึ่งเรื่องที่นำมาเปิดเผยนั้นเป็นเรื่องเท็จที่นายกรัฐมนตรีนำมากล่าวโจมตีสมเด็จพระนางเจ้าฯ สำนวนและลักษณะของประโยคคล้ายคลึงกับคำถามที่ผมได้รับเวลาไปบรรยายกับค่ายทหารในต่างจังหวัดจนเกินกว่าที่จะเหมาว่าเป็นความบังเอิญ
อนึ่ง การพาดพิงถึงบุคคลสำคัญในสถาบันโดยผู้ใหญ่ทำนองสาวไส้ให้กากิน หากมีการนำมาเปิดเผยหรือมีการฟ้องร้องก็จะต้องติดคุกกันเป็นระนาว แม้กระทั่งทูตหากหมดสิ้นการคุ้มครองและเดินทางมาเยี่ยมประเทศไทยแบบลำลองก็อาจจะโดน และจะสร้างปัญหาทางการเมืองอย่างล้ำลึก
ที่น่าเกลียดที่สุดก็คือ บรรดานักการเมืองไทยที่ทำตัวเสมือนเป็นเมืองขึ้น เช่น บรรดาผู้นำพรรคเพื่อไทยที่ชอบนำเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปฟ้องยูเน นางคลินตัน หรือสถานทูตอเมริกันอยู่เป็นนิตย์ เป็นต้น
แม้รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศเองก็มีความประพฤติและจิตวิญญาณเสมือนกับเป็นเมืองขึ้นของอเมริกัน เวลาเจ้าหน้าที่หรือนักการเมืองอเมริกันมาเยี่ยมก็จะลืมความเท่าเทียมของประเทศและพิธีการทูต รับนัดให้อเมริกันคนละระนาบชั้นเข้าพบนายกรัฐมนตรีหรือประธานองคมนตรีราวกับว่าคนของเราไม่มีสถานะและฐานันดรเท่าเทียมหรือสูงกว่าเขา
ที่สำคัญที่สุด เมืองไทยได้แสดงความอ่อนแอไร้เอกภาพไร้จุดยืนให้เขมร-พม่า-อเมริกาเห็นอย่างล่อนจ้อน ครั้นถึงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานในเบื้องหน้าจะถูกต่างประเทศรุมกินโต๊ะ เพราะเขาเห็นแล้วว่าเราไร้ศักดิ์ศรีแตกสามัคคีตัวใครตัวมัน เพราะไม่มีความเป็นเจ้าตนเอง ตกอยู่ใต้ลัทธิหวังพึ่งอันอุบาทว์ทั้งสิ้น แม้จะพึ่งต่างด้าวก็เอา
ผู้เขียนจัญไร ผู้อ่านไทยยอดเจ๋ง เก่งจนไม่รู้ว่า
วิกิลีกส์และเขมรจับไทยมีความหมายน่ากลัวเพียงใด
ผมสมเพทตัวเองว่าเราหนอ ช่างโง่เหลือเกิน เสียเวลาไปหลายร้อยวันแล้ว ยังรู้สู้ท่านไม่ได้ แถมยังตั้งใจจะดูต่อจนพบคำตอบว่าทำไมทั้งยุโรป ญี่ปุ่น และ OECD เขาจึงลงความเห็นว่าสถาบันอุดมศึกษาอเมริกันที่เหนือกว่าเขาทั้งหมดคือ Community College
และผมก็ถึงบางอ้อเรื่องความเก่งกาจของคนไทยตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ฉันใดก็ฉันนั้น ผมยอมรับเป็นคนโง่และคนจัญไรของท่านผู้อ่านโดยไม่มีอุทธรณ์ฎีกา
บทความของผมเรื่อง “วิกิลีกส์ : เด็กฝรั่งจัญไรหลอกผู้ใหญ่ไทยสาวไส้ให้กากิน 1” 29 ธ.ค. 53 http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9530000183284คนไทยไม่แต่ท่านผู้อ่านของผมเท่านั้นหรอกที่ฉลาดและประมาท มองไม่เห็นสัญญาณอันตรายที่กำลังจะคืบคลานเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งแท้ที่จริงก็กำลังเผชิญ “วิกฤตที่สุดในโลก” ซึ่งก็ยังแก้ไม่ตกอยู่แล้ว
ผมเขียนมิใช่สักแต่ว่าอยากเขียน หรือว่าไม่มีเรื่องอื่นจะเขียน แต่เขียนขึ้นมาเพราะสังคมไทยทั้งหมดทั้งสิ้นพากันเงียบงัน เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ผมเขียนเรื่อง “เว็บไซต์ไฟลามทุ่ง” ในผจก.เมื่อ 19 เมษายน 2548 สมัยทักษิณครองอำนาจ http://www.manager.co.th/ /Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9480000052339 ในตอนนั้นมีเว็บไซต์เชียร์มุสลิมที่โจมตีไทยและตะวันตกอยู่ประปรายราวๆ 5-6 แสน 3-4 ล้านรายการ ผมเปิดดูเห็นมีที่เสียดสีโจมตีสถาบันอยู่ประมาณ 8,000+-=ในวันๆ หนึ่ง
ณ วันนี้ ผมขอเชิญให้ท่านเปิด www.google.com และกดคำว่า anti-Thai monarchy websites ลองดู ณ วันนี้ด้วยเวลาค้น 23 วินาทีจะพบว่าพบทั้งหมด 6,210,000 results (0.23 seconds) บางครั้งถ้าใช้เวลามากหน่อยจะมีถึง 22 ล้านรายการ ครับยังไม่ต้องตกใจจนเกินเหตุ แต่จะต้องไม่ตกอยู่ในความประมาท และใช้สติปัญญาแก้ไข
กลับมาพูดถึงเรื่อง “วิกิลีกส์ : เด็กฝรั่งจัญไรฯ” ที่ผมเขียนอีกครั้ง ฉบับนี้มีผู้อ่านถึง 26,987 คน มีผู้โพสต์มาออกความเห็น 64 ราย ในจำนวน 64 รายนี้มีผู้ที่ไปไหนมาสามวาสองศอกเป็นจำนวนมาก พอๆ กับผู้ที่เจ๋งเก่งทุกอย่าง รู้ทุกเรื่อง แต่ความรับรู้น้อยจนน่าใจหาย บางคนอาจจะรับจ้างมาเพื่อชักใบให้เรือเสียเพื่อจะกลบเกลื่อนมิให้เรื่องเชื่อมโยงไปถึงมูลนายของตน หลายคนที่สรรเสริญว่าผมจัญไรอวดรู้ในเรื่องง่ายๆ ที่คนธรรมดาใครๆ ก็รู้ได้หากอ่านภาษาอังกฤษออกและเล่นอินเทอร์เน็ตเป็น ไหนๆ ผมก็หากินได้ประโยชน์จากเจ๊กลิ้มพันธมิตรฯ มามากสมควรหยุดได้แล้ว ยิ่งเขียนยิ่งเลอะ ทั้งหมดนี้ผมน้อมรับที่เตือนสติ ไม่ถือสาหาความเลย
ใคร่บอกเสียก่อนว่า ผมเขียนให้ผู้จัดการเพราะเขาเชิญและสัญญาว่าจะไม่เซนเซอร์เขียนไปเมื่อไรลงให้เมื่อนั้น บางครั้งก็มีผู้ขอร้องว่าอยากให้เขียนเรื่องนั้นเรื่องนี้ ผมเริ่มเขียนวิจารณ์ทักษิณตั้งแต่ผู้จัดการยังเชียร์ทักษิณอยู่ เงินค่าเรื่องที่ได้รับ ผมส่งไปบำรุงการศึกษาให้นักเรียนที่ยากจนในชนบททั้งหมด ผมเป็นคนไม่มีปลอกคอสีแดงเชิญไปพูด ผมก็เคยไปพูดให้แล้ว
สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากก็คือคนไทยมีแต่คนเก่ง ไม่มีใครฟังใคร ผลที่สุดก็ไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรเท็จ อะไรเป็นประโยชน์อะไรเป็นโทษ จะเห็นได้ว่าเรื่องวิกิลีกส์ก็ดี เรื่องเขมรจับคนไทยก็ดี ใครๆ ก็มีคำตอบสำเร็จรูปของตนหมด ในที่สุดสมมติฐานและคำตอบต่างๆ นั้น ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาลหรือของประชาชน ต่างก็เป็นส่วนเป็นเสี้ยว ขัดกันเองไปมา ขาดเอกภาพไร้พลัง ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้
เรื่องวิกิลีกส์นั้นเป็นสุดยอดของเทคโนโลยีสื่อสารว่าด้วยการค้นหา แคะไค้ ดูดดึงและถอดรหัส เพื่อจะให้ได้มาซึ่งความลับในกระบวนการข่าว การสืบราชการลับ และขบวนการตัดสินใจของรัฐบาลต่างๆ โดยใช้อำนาจและกฎหมายพิเศษคุ้มครองผู้อยู่ในขบวนการ
ผู้ที่สามารถใช้เทคโนโลยีนั้นก็จะต้องเป็นยอดสมองของยอดสมอง ฝีมือว่าแล้วจะเหนือชั้นกว่า Facebook หรือแม้กระทั่ง Bill Gates
ที่เขาเข้าไปล้วงความลับ เพราะเขาต้องการปกป้องเสรีภาพและความเป็นธรรมให้แก่หมู่ชนและประเทศที่ยากจนอ่อนแอหรือเสียเปรียบ ตกเป็นเบี้ยล่างของขบวนการตัดสินใจและกลไกของประเทศมหาอำนาจที่ครอบงำด้วยอาวุธและเทคโนโลยีที่เหนือกว่า อาศัยเงื่อนเวลาและความลับข่มเหงมนุษยชาติในประเทศที่ไม่ยอมก้มหัวให้ตน เจ้าโลกเหล่านี้มีอเมริกาเป็นหัวโจก มีความลับอยู่นับไม่ถ้วนเกี่ยวกับความชั่วร้ายและข่มเหงรังแกประเทศอื่น วิกิลีกส์เปิดโปงความลับของอเมริกาและอังกฤษในสงครามอิรักและตะวันออกกลางเสียไม่เหลือหลอ ทำให้อเมริกาถึงกับทรุดหัวเข่าอ่อนไม่รู้จะแก้ตัวหรือกู้ฐานะอันน่ายำเกรงเชื่อถือในโลกของตนกลับคืนมาได้อย่างไร
สำหรับประเทศไทย ความลับที่อดีตทูตทั้งสองคือนายบ๊อยซ์กับนายจอนแอบไปคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเรานี้มีอยู่หลายกระบุงเกวียน น่าสังเกตว่าทำไมเขาจึงเลือกเวลาปล่อย จำนวนและเรื่องที่ปล่อยเพียงไม่กี่เรื่อง แต่สอดคล้องเป็นเวลาและเรื่องที่มีผลกระทบกระเทือนสถาบันกษัตริย์เป็นที่สุด และเราจะต้องไม่ลืมว่าอเมริกาเป็นสาธารณรัฐเขามิได้ดื่มด่ำอะไรกับการมีพระมหากษัตริย์อย่างของเรา ในทางตรงกันข้ามเขาจะส่งเสริมคนที่ผูกพันหากินกับเขาและยอมให้เขาบงการ เรื่องอย่างนี้จึงอาจจะบานปลายต่อไปในทิศทางของเขา
อนึ่งเรื่องที่นำมาเปิดเผยนั้นเป็นเรื่องเท็จที่นายกรัฐมนตรีนำมากล่าวโจมตีสมเด็จพระนางเจ้าฯ สำนวนและลักษณะของประโยคคล้ายคลึงกับคำถามที่ผมได้รับเวลาไปบรรยายกับค่ายทหารในต่างจังหวัดจนเกินกว่าที่จะเหมาว่าเป็นความบังเอิญ
อนึ่ง การพาดพิงถึงบุคคลสำคัญในสถาบันโดยผู้ใหญ่ทำนองสาวไส้ให้กากิน หากมีการนำมาเปิดเผยหรือมีการฟ้องร้องก็จะต้องติดคุกกันเป็นระนาว แม้กระทั่งทูตหากหมดสิ้นการคุ้มครองและเดินทางมาเยี่ยมประเทศไทยแบบลำลองก็อาจจะโดน และจะสร้างปัญหาทางการเมืองอย่างล้ำลึก
ที่น่าเกลียดที่สุดก็คือ บรรดานักการเมืองไทยที่ทำตัวเสมือนเป็นเมืองขึ้น เช่น บรรดาผู้นำพรรคเพื่อไทยที่ชอบนำเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปฟ้องยูเน นางคลินตัน หรือสถานทูตอเมริกันอยู่เป็นนิตย์ เป็นต้น
แม้รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศเองก็มีความประพฤติและจิตวิญญาณเสมือนกับเป็นเมืองขึ้นของอเมริกัน เวลาเจ้าหน้าที่หรือนักการเมืองอเมริกันมาเยี่ยมก็จะลืมความเท่าเทียมของประเทศและพิธีการทูต รับนัดให้อเมริกันคนละระนาบชั้นเข้าพบนายกรัฐมนตรีหรือประธานองคมนตรีราวกับว่าคนของเราไม่มีสถานะและฐานันดรเท่าเทียมหรือสูงกว่าเขา
ที่สำคัญที่สุด เมืองไทยได้แสดงความอ่อนแอไร้เอกภาพไร้จุดยืนให้เขมร-พม่า-อเมริกาเห็นอย่างล่อนจ้อน ครั้นถึงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานในเบื้องหน้าจะถูกต่างประเทศรุมกินโต๊ะ เพราะเขาเห็นแล้วว่าเราไร้ศักดิ์ศรีแตกสามัคคีตัวใครตัวมัน เพราะไม่มีความเป็นเจ้าตนเอง ตกอยู่ใต้ลัทธิหวังพึ่งอันอุบาทว์ทั้งสิ้น แม้จะพึ่งต่างด้าวก็เอา
ผู้เขียนจัญไร ผู้อ่านไทยยอดเจ๋ง เก่งจนไม่รู้ว่า
วิกิลีกส์และเขมรจับไทยมีความหมายน่ากลัวเพียงใด