รอยเตอร์/เอเอฟพี - เกาหลีเหนือกำลังกลายเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อสหรัฐฯ เนื่องจากโสมแดงจะสามารถพัฒนาขีปนาวุธนำวิถีพิสัยไกลชนิดยิงข้ามทวีปได้ภายในเวลา 5 ปี ทั้งนี้ตามการแถลงของ รอเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมอเมริกันเมื่อวานนี้(11) ที่กรุงปักกิ่ง ภายหลังเสร็จสิ้นการเจรจาหารือกับเหล่าผู้นำจีนเป็นเวลา 3 วัน อย่างไรก็ดี เกตส์บอกด้วยว่า โสมแดงมีสมรรถนะอันจำกัด จึงไม่เชื่อว่าจะสามารถมีขีปนาวุธประเภทนี้ได้มากมายอะไร
เกตส์แถลงแจงรายละเอียดการประเมินล่าสุดของสหรัฐฯต่อสมรรถนะของเกาหลีเหนือคราวนี้ พร้อมกับกล่าวยกย่องความพยายามของเจ้าภาพจีนในการลดความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี ทว่าเขาก็เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องรีบรั้งบังเหียนควบคุมโสมแดงให้อยู่ในร่องในรอยอย่างเร่งด่วน
จีนนั้นเป็นผู้หนุนหลังเกาหลีเหนือรายสำคัญที่สุดทั้งในทางการทูตและทางเศรษฐกิจ และเกตส์บอกว่า นี่เป็น “หลักฐานในตัวมันเองอยู่แล้ว” ที่ประเด็นเรื่องเกาหลีเหนือน่าจะถูกหยิบยกขึ้นมา ในการเจรจาหารือระหว่างประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ของจีน กับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ เมื่อผู้นำจีนไปเยือนกรุงวอชิงตันในสัปดาห์หน้า
เกตส์บอกกับผู้สื่อข่าวภายหลังเข้าพบประธานาธิบดีหูวานนี้ว่า “จากการที่เกาหลีเหนือยังคงดำเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านอาวุธนิวเคลียร์ และในการพัฒนาขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีป (inter-continental ballistic missile หรือ ICBM) เกาหลีเหนือจึงกำลังกลายเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อสหรัฐฯ”
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯกล่าวต่อไปว่า เขาไม่เชื่อว่าเกาหลีเหนือจะเป็นภัยคุกคามในเฉพาะหน้านี้แล้ว ทว่าก็ไม่ใช่เป็นภัยคุกคามที่ยังอยู่ไกลๆ พ้นช่วง 5 ปีนี้ไปแล้ว
“ผมคิดว่าเกาหลีเหนือจะสามารถพัฒนาขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีปได้ภายในเวลาดังกล่าว – พวกเขาไม่ใช่จะมี (อาวุธประเภทนี้) จำนวนมากมายอะไรหรอก” เกคส์บอก “แต่พวกเขาจะมี (อาวุธประเภทนี้) แม้ผมเชื่อว่าพวกเขาจะมีสมรรถนะในระดับจำกัดอย่างมาก”
คลังแสงอาวุธของเกาหลีเหนือในปัจจุบัน มีขีปนาวุธพิสัยกลางอยู่แล้ว ซึ่งสามารถที่จะยิงสู่เป้าหมายไกลออกไป 3,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ตามที่สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานในปีที่แล้วโดยอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่โสมขาวผู้หนึ่ง นั่นหมายความว่าขีปนาวุธเหล่านี้สามารถยิงใส่ดินแดนทั้งหมดของญี่ปุ่น และไปถึงฐานทัพของสหรัฐฯบนเกาะกวม
นอกจากนั้นเกาหลีเหนือยังพยายามหาทางพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลมากว่าสิบปีแล้ว อย่างไรก็ดี การทดสอบขีปนาวุธ “แตโปดอง-2” ของโสมแดง ที่ประมาณการกันว่าจะมีพิสัยทำการ 6,700 กิโลเมตรนั้น กลับประสบความล้มเหลวมาแล้ว 2 ครั้ง ทำให้เห็นกันว่าโสมแดงยังต้องเดินไปอีกไกลกว่าจะสามารถผลิตอาวุธที่สมบูรณ์แบบได้
ขีปนาวุธชนิดนี้ที่ถูกนำออกทดสอบในปี 2006 ปรากฏว่าตกลงมาหลังทะยานขึ้นสู่อากาศได้เพียงไม่กี่วินาที ส่วนการทดสอบครั้งที่สองในปี 2009 แม้อยู่ในอากาศได้นานขึ้น แต่ก็ถูกประเมินว่าล้มเหลวในทางเทคนิค
เกตส์แถลงแจงรายละเอียดการประเมินล่าสุดของสหรัฐฯต่อสมรรถนะของเกาหลีเหนือคราวนี้ พร้อมกับกล่าวยกย่องความพยายามของเจ้าภาพจีนในการลดความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี ทว่าเขาก็เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องรีบรั้งบังเหียนควบคุมโสมแดงให้อยู่ในร่องในรอยอย่างเร่งด่วน
จีนนั้นเป็นผู้หนุนหลังเกาหลีเหนือรายสำคัญที่สุดทั้งในทางการทูตและทางเศรษฐกิจ และเกตส์บอกว่า นี่เป็น “หลักฐานในตัวมันเองอยู่แล้ว” ที่ประเด็นเรื่องเกาหลีเหนือน่าจะถูกหยิบยกขึ้นมา ในการเจรจาหารือระหว่างประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ของจีน กับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ เมื่อผู้นำจีนไปเยือนกรุงวอชิงตันในสัปดาห์หน้า
เกตส์บอกกับผู้สื่อข่าวภายหลังเข้าพบประธานาธิบดีหูวานนี้ว่า “จากการที่เกาหลีเหนือยังคงดำเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านอาวุธนิวเคลียร์ และในการพัฒนาขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีป (inter-continental ballistic missile หรือ ICBM) เกาหลีเหนือจึงกำลังกลายเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อสหรัฐฯ”
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯกล่าวต่อไปว่า เขาไม่เชื่อว่าเกาหลีเหนือจะเป็นภัยคุกคามในเฉพาะหน้านี้แล้ว ทว่าก็ไม่ใช่เป็นภัยคุกคามที่ยังอยู่ไกลๆ พ้นช่วง 5 ปีนี้ไปแล้ว
“ผมคิดว่าเกาหลีเหนือจะสามารถพัฒนาขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีปได้ภายในเวลาดังกล่าว – พวกเขาไม่ใช่จะมี (อาวุธประเภทนี้) จำนวนมากมายอะไรหรอก” เกคส์บอก “แต่พวกเขาจะมี (อาวุธประเภทนี้) แม้ผมเชื่อว่าพวกเขาจะมีสมรรถนะในระดับจำกัดอย่างมาก”
คลังแสงอาวุธของเกาหลีเหนือในปัจจุบัน มีขีปนาวุธพิสัยกลางอยู่แล้ว ซึ่งสามารถที่จะยิงสู่เป้าหมายไกลออกไป 3,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ตามที่สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานในปีที่แล้วโดยอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่โสมขาวผู้หนึ่ง นั่นหมายความว่าขีปนาวุธเหล่านี้สามารถยิงใส่ดินแดนทั้งหมดของญี่ปุ่น และไปถึงฐานทัพของสหรัฐฯบนเกาะกวม
นอกจากนั้นเกาหลีเหนือยังพยายามหาทางพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลมากว่าสิบปีแล้ว อย่างไรก็ดี การทดสอบขีปนาวุธ “แตโปดอง-2” ของโสมแดง ที่ประมาณการกันว่าจะมีพิสัยทำการ 6,700 กิโลเมตรนั้น กลับประสบความล้มเหลวมาแล้ว 2 ครั้ง ทำให้เห็นกันว่าโสมแดงยังต้องเดินไปอีกไกลกว่าจะสามารถผลิตอาวุธที่สมบูรณ์แบบได้
ขีปนาวุธชนิดนี้ที่ถูกนำออกทดสอบในปี 2006 ปรากฏว่าตกลงมาหลังทะยานขึ้นสู่อากาศได้เพียงไม่กี่วินาที ส่วนการทดสอบครั้งที่สองในปี 2009 แม้อยู่ในอากาศได้นานขึ้น แต่ก็ถูกประเมินว่าล้มเหลวในทางเทคนิค