xs
xsm
sm
md
lg

"แอลพีเอ็น เพลทมิล"รุกส่งออกเหล็กแผ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน–“แอลพีเอ็น เพลทมิล” ตั้งเป้าส่งออกเหล็กแผ่นรีดร้อนเกรดพิเศษ 60% ของกำลังการผลิต หลังชิมลางทำตลาดที่ตะวันออกกลางและสิงคโปร์ ส่วนตลาดในประเทศเน้นเจาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า
นายสรรค์พงศ์ ปรีดาวิภาต ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท แอล พี เอ็น เพลทมิล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดแผ่นขนาดกำลังการผลิตปีละ 3.6 แสนตัน เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มการส่งออกเหล็กแผ่นรีดร้อนเกรดAPI ที่ใช้ทำท่อขนส่งน้ำมันและแท่นขุดเจาะน้ำมันไปตลาดตะวันออกกลางและสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น รวมถึงจะส่งออกแผ่นเหล็กรีดร้อนเพื่อป้อนอุตสาหกรรมต่อเรือในประเทศสิงคโปร์ โดยตั้งเป้าหมายการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 60% ของกำลังการผลิต ที่เหลืออีก40% เป็นการทำตลาดภายในประเทศ จากปีก่อนที่มีการส่งออกไม่มาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกไม่ดี
ส่วนแผนการทำตลาดเหล็กแผ่นรีดร้อนในประเทศ มีเป้าหมายที่จะผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนเกรดพิเศษ เพื่อทดแทนการนำเข้า โดยจะผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนป้อนให้กับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม และโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ จากปีที่แล้วมียอดขายเหล็กแผ่นรีดร้อนให้กับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าคิดเป็นมูลค่า 400-500ล้านบาท คาดว่ายอดขายปีนี้จะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้ใช้ให้ความเชื่อมั่นใจสินค้าของบริษัท
“ปีนี้ วางเป้าหมายที่จะทำตลาดเองทั้งหมด จากเดิมที่รับจ้างผลิตในช่วงที่ราคาเหล็กแผ่นมีความผันผวนมากและบริษัทมีปัญหาสภาพคล่อง โดย 2ใน3 ของการส่งออกจะผลิตเหล็กแผ่นไปสิงคโปร์เพื่อป้อนอุตสาหกรรมต่อเรือ แม้ว่ามาร์จินไม่สูงมากแต่ปริมาณการขายสูง ส่วนเหล็กแผ่นเกรดทำท่อน้ำมันคาดว่าปีนี้จะผลิต 1 แสนตันและจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 แสนตันในอีก 2 ปีข้างหน้า"
นายสรรค์พงศ์กล่าวว่า ในปีนี้ วางแผนผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนคิดเป็น 70% ของกำลังการผลิต 3.6 แสนตัน และปีหน้าคาดว่าจะผลิตให้เต็มกำลังการผลิตได้ โดยยอมรับว่าขณะนี้ราคาสแลปซึ่งเป็นวัตถุดิบได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 640-650 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่ราคาเหล็กแผ่นขยับเพิ่มขึ้นได้ช้ากว่า เพื่อป้องกันปัญหาการจัดหาวัตถุดิบ ได้ทำบันทึกช่วยจำในการซื้อสแลปจากซัปพลายเออร์หลายราย รวมทั้งมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วย โดยจะมีการตกลงราคาซื้อขายก่อนที่จะมีการสั่งซื้อวัตถุดิบมารีดเป็นเหล็กแผ่น
ในปีนี้บริษัทคาดว่ามีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าปีก่อน โดยจะมีกำไรจากการดำเนินงานจากปีที่แล้วที่บริษัทมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ ส่วนแผนการขยายกำลังการผลิตในอนาคตอันใกล้นี้ ยังไม่มีแผนลงทุนเพิ่มเติมจนกว่าจะเดินเครื่องจักรผลิตเต็มที่ อย่างไรก็ตาม หากจะมีการขยายกำลังการผลิตก็คงลงทุนไม่มาก เพราะเป็นการลงทุนขยายคอขวด (debotlle neck) ในส่วนเตาเผา ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 50%
กำลังโหลดความคิดเห็น