วานนี้ ( 11 ม.ค.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. ในฐานะประธานกรรมการเตรียมการสรรหาส.ว. กล่าวถึงความคืบหน้าในการสรรหา ส.ว.จำนวน 74 คนที่จะหมดวาระ 3 ปีในวันที่ 18 ก.พ.นี้ ว่า ขณะนี้ตนได้เสนอกรอบเวลาในการสรรหาส.ว.ที่กำหนดให้วันที่ 21ก.พ.เป็นวันที่มีเหตุต้องให้มีการสรรหาส.ว.และให้วันที่ 25-ก.พ. - 11 มี.ค.เป็นวันเปิดรับสมัครลงทะเบียนโดยให้องค์กรที่มีสิทธิเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาส.ว.เสนอต่อกกต.แล้วเพื่อให้กกต.การพิจารณาภายใน 7วันแล้วและคาดว่าจะมีมติจากที่ประชุมกกต.ได้ในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ทางสำนักงานกกต.ยังได้แจ้งไปยังศาลฏีกาและศาลปกครองเพื่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาและที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองมอบหมายผู้มาเป็นคณะกรรมการสรรหาส.ว.แล้ว โดยคาดว่าหลังจากที่ประชุมกกต.ได้มีมติเห็นชอบในการกรอบเวลาการสรรหาส.ว.แล้วก็จะนัดประชุมคณะกรรมการสรรหาเพื่อดำเนินการสรรหาส.ว.ตามกรอบที่กำหนดไว้ได้
เมื่อถามว่า กรณีส.ว.สรรหาส่วนใหญ่จะลาออกก่อนหมดวาระในวันที่ 18 ก.พ.เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในการเข้ารับสรรหาส.ว.อีกครั้งนั้น นายสุทธิพล กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานกกต.โดยด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งได้รับหนังสือขอหารือจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภากรณีที่ส.ว.สรรหาเป็นห่วงว่าจะลงสมัครส.ว.สรรหาได้อีกครั้งหรือไม่เพราะเกรงว่าจะขัดต่อกฎหมายในกรณีเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจะเป็นคุณสมบัติต้องห้ามในการลงสมัครส.ว.สรรหาหรือไม่ ซึ่งด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งได้ส่งเรื่องไปยังสำนักกฎหมายและคดีให้ตรวจสอบในรายละเอียดของปัญหาข้อกฎหมายแล้ว โดยตนก็ได้กำชับให้ทางสำนักกฎหมายและคดีสรุปเรื่องเพื่อนำเสนอโดยเร็วแล้ว เพื่อที่ตนจะได้นำหารือกับประธานกกต.อีกครั้งแล้วว่าจะตอบข้อหารือดังกล่าวอย่างไร
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวยังไม่แน่ใจว่าจะให้หน่วยงานใดเป็นผู้ชี้ขาด และปัญหาดังกล่าวเราก็ยังไม่สามารถให้ความชัดเจนได้แน่ชัดได้ในขณะนี้ว่าส.ว.สรรหาจะต้องลาออกหรือไม่คงต้องรอตรวจสอบข้อกฎหมายก่อน
เมื่อถามว่า กรณีส.ว.สรรหาส่วนใหญ่จะลาออกก่อนหมดวาระในวันที่ 18 ก.พ.เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในการเข้ารับสรรหาส.ว.อีกครั้งนั้น นายสุทธิพล กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานกกต.โดยด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งได้รับหนังสือขอหารือจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภากรณีที่ส.ว.สรรหาเป็นห่วงว่าจะลงสมัครส.ว.สรรหาได้อีกครั้งหรือไม่เพราะเกรงว่าจะขัดต่อกฎหมายในกรณีเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจะเป็นคุณสมบัติต้องห้ามในการลงสมัครส.ว.สรรหาหรือไม่ ซึ่งด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งได้ส่งเรื่องไปยังสำนักกฎหมายและคดีให้ตรวจสอบในรายละเอียดของปัญหาข้อกฎหมายแล้ว โดยตนก็ได้กำชับให้ทางสำนักกฎหมายและคดีสรุปเรื่องเพื่อนำเสนอโดยเร็วแล้ว เพื่อที่ตนจะได้นำหารือกับประธานกกต.อีกครั้งแล้วว่าจะตอบข้อหารือดังกล่าวอย่างไร
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวยังไม่แน่ใจว่าจะให้หน่วยงานใดเป็นผู้ชี้ขาด และปัญหาดังกล่าวเราก็ยังไม่สามารถให้ความชัดเจนได้แน่ชัดได้ในขณะนี้ว่าส.ว.สรรหาจะต้องลาออกหรือไม่คงต้องรอตรวจสอบข้อกฎหมายก่อน